More
    Home Blog Page 1079

    ออกไปเที่ยวไม่ได้ มา ออกกำลังกาย รอก่อน 5 วิธีออกกำลังกายที่บ้าน

    ออกไปเที่ยวไม่ได้ มา ออกกำลังกาย รอก่อน 5 วิธีออกกำลังกายที่บ้าน

    ช่วงเวลาที่ยัง ออกไปเที่ยวไม่ได้ เหมาะกับการ ออกกำลังกาย ปั้นหุ่นให้เป๊ะปัง ก่อนที่จะได้ออกไปเที่ยวสุดๆ แต่ถ้าใครไม่มีไอเดียล่ะก็ ตามดูได้ที่นี่เลย

    1. เล่นโยคะ

    เริ่มจากการฝึกยืดเหยียดร่างกายกับ โยคะ กันก่อนเลย เหมาะที่สุดช่วง ออกไปเที่ยวไม่ได้ ออกกำลังกาย หนักๆก็ไม่สะดวก ฝึกยืดเส้นที่รัดตึงจากการนั่งทำงานมากๆที่สะสมมาเป็นเวลานาน ฝึกการหายใจให้ผ่อนคลาย ทำให้ระบบเลือดหมุนเวียนได้ดีขึ้น ซึ่งเลือดก็จะนำพาออกซิเจนไปเลี้ยงได้ทั่วทุกส่วนของร่างกายทำให้เรารู้สึก Fresh เหมาะมากๆ
    สำหรับใครที่กำลังรู้สึกเครียดอยู่ตอนนี้ แค่ฝึกการหายใจ เข้า-ออก ให้ยาวขึ้นก็ถือเป็นการฝึกโยคะเบื้องต้นแล้วค่ะ แนะนำว่าทำโยคะในช่วงเช้า เพียงวันละ 15 นาที อย่างน้อย 4-5 ครั้งต่อสัปดาห์ก็เพียงพอแล้ว

    2. กระโดดเชือก

    การกระโดดเชือก เป็นข้อดีอย่างหนึ่งคือ ใช้พื้นที่น้อย พื้นที่จำกัดก็สามารถกระโดดเชือกได้ สร้างกล้ามเนื้อช่วงขาให้แข็งแรง และการเผาผาญพอๆ กับการวิ่งเลยทีเดียว ช่วงน่าฝน ฝุ่นเยอะ Work From Home อยู่บ้านแบบนี้ ถือเป็น กิจกรรมที่เหมาะมากๆ  แนะนำกระโดดเป็นเซต สำหรับมือใหม่ กระโดดเซตละ 30 ครั้ง จำนวน 3 เซต ทุกเช้า ก็เรียกแรงได้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ

    3. แอโรบิก
    ออกไปเที่ยวไม่ได้

    การเต้นแอโรบิก อันนี้บอกเลยว่าเหมาะสำหรับช่วงนี้มากค่ะ เป็นการ ออกกำลังกาย แบบได้ความสนุกสนานไปด้วย เรียกเหงื่อได้ดี ลองเปิดคลิปจาก Youtube แล้วลองค่อยๆขยับร่างกายตาม หรือจะชวนคนในครอบครัวมาออกกำลังกายด้วยกันก็ไม่เลวเลยนะ แนะนำว่าเลือกคลิปแอโรบิกแบบ Basic เบาๆก่อน หรือหากใคร Advanced แล้ว อาจจะลองไปแนว Zumba ดู ก็เป็นการพัฒนาร่างกายตัวเองให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แถมยังสนุกกับการออกกำลังกายได้ด้วยนะคะ

    4. วิ่งแบบพี่ตูน
    ออกไปเที่ยวไม่ได้

    วิ่งแบบพี่ตูนค่ะ การวิ่งเหยาะๆ หรือเดินเร็ว บางทีก็เพียงพอแล้วสำหรับการ ออกกำลังกาย แต่อาจจะใช้เวลา 30 นาทีขึ้นไป เพื่อให้ร่างกายเผาผาญพลังงานได้ดีขึ้น การที่เราวิ่งเบาๆ ไม่เร็วมากเกินไป จะช่วยให้ร่างกายเราผ่อนคลาย สนุกกับการวิ่ง หากเรารู้สึกว่าวิ่งได้ดีขึ้น ค่อยพัฒนาฝีเท้าให้เร็วขึ้น หรือวิ่งนานขึ้นก็ได้ค่ะ การวิ่งยังช่วยทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงขึ้นด้วย แนะนำให้ตื่นมาวิ่งตอนเช้า ช่วงแดดอ่อนๆ จะทำให้ร่างกาย Active แถมได้รับวิตามินดีจากแสงแดดด้วยนะคะ

    5. เล่นเกมฟิตหุ่น

    ออกไปเที่ยวไม่ได้
    Picture: netzwelt

    เล่นเกมฟิตหุ่น อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ อันนี้เหมาะสำหรับคนมีสตุ้งสตางค์ ว่าซั่น! ลองซื้อเกม Nintendo Switch เกมยอดฮิตในตอนนี้มาเล่นดูนะคะ ได้ทั้งความสนุกสนาน แถมยังได้ ออกกำลังกาย ไปในตัว เพราะเกมนินเทนโด จะมีเกมแนว แข่งเต้น เกมก้าวกระโดด ตั่งต่างนาๆ ให้เล่นเยอะแยะมากมาย โดยเฉพาะถ้าเล่นคู่กับ Ring Fit ด้วยนะ รับรองหุ่นเพรียวแน่นอน ใครเคยลองเล่นมาแล้วจะรู้ว่าเหนื่อยพอๆ กับการออกไปวิ่งรอบหมู่บ้านเลยค่ะ

    ออกไปเที่ยวไม่ได้ ไม่ต้องท้อนะคะ ออกกำลังกาย ฟิตหุ่นปังๆรอไปก่อน เมื่อวันเวลาพร้อม ร่างกายพร้อม ลุยกันได้เต็มที่แบบยาวๆเลยจ้า

     

    แต่งห้องนอน สไตล์ On The Beach คลิกเลย

    Resort de Paskani ที่พักสไตล์ Coastal Ethnic Chic เหมือน พักผ่อน อยู่ในเกาะกลางทะเลอีเจี้ยน

    Resort de Paskani ที่พักสไตล์ Coastal Ethnic Chic เหมือน พักผ่อน อยู่ในเกาะกลางทะเลอีเจี้ยน

    ช่วงนี้ที่หลายคนโหยหาการ พักผ่อน ท่ามกลางบรรยากาศที่ถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติ ทะเลหัวหินนับเป็นปลายทางอันดับต้นๆ ด้วยความที่ใกล้กรุงเทพ และเป็นเมืองตากอากาศที่อบอุ่น มีที่พักให้เลือกหลากหลายดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนกันเข้ามาค่ะ ซึ่งหนึ่งในที่พักที่เราอยากจะแนะนำในเรื่องดีไซน์การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์คือ Resort de Paskani

    รีสอร์ท เดอ พาสคานี คือ Hidden Place สุดเอ็กซ์คลูซีฟแห่งใหม่ในหัวหิน เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวในรูปแบบที่แตกต่างจากรีสอร์ททั่วไปนะคะ


    ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบของ Agaligo Studio ถูกออกแบบในสไตล์ คอสทอล เอธนิค ชิค (Coastal Ethnic Chic) ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหมู่บ้านชาวประมงเขาตะเกียบ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ภายใต้แนวคิด ไวท์ วิลเลจ บาย เดอะ ซี (White Village by The Sea) หรือ “หมู่บ้านสีขาวริมทะเล” เริ่ดสุด


    ความโดดเด่นของ รีสอร์ทแห่งนี้ คือโทนสีขาว ฟ้า คุมโทนมาก ซึ่งให้ความรู้สึกอบอุ่น สบายตา โดยสีขาวของอาคารเปรียบดังหาดทรายขาว และเน้นสีของธรรมชาติค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสีไม้ซีด สีน้าตาลของเชือกมนิลา และสีฟ้าน้ำทะเลบนประตูหน้าต่าง

    มีการแต่งแต้มด้วยสีสดใสบ้างเล็กน้อย เช่น สีแดง สีส้ม สีเหลือง เพื่อทำให้รีสอร์ทดูสดชื่นมีชีวิตชีวา มีการเล่นระดับทางเดิน และเปลี่ยนมุมมองต่างๆ เพื่อให้เกิดความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นค่ะ

    จุดแวะพักนั่งชมวิว ถ่ายรูป การประยุกต์ใช้วัสดุจากธรรมชาติ หรืองานแฮนด์เมดฝีมือคนท้องถิ่น เช่น ท่อนไม้ เชือก เครื่องจักสาน ผ้าทอมือ เปลือกหอย ปะการัง กิ่งไม้ และข้าวของเครื่องใช้ของหมู่บ้านที่อยู่ริมทะเล มาประดับตกแต่งอย่างลงตัว คือดีย์มากแม่

    รีสอร์ท เดอ พาสคานี Resort de Paskani ให้บริการห้องพักจำนวน 30 ห้อง แบ่งเป็น 6 แบบ ได้แก่

    Deluxe or Room Terrace

    ห้องพักสุดเอ็กซ์คลูซีฟ สำหรับคู่รักที่ต้องการความเป็นส่วนตัวจำนวน 9 ห้อง ขนาด 23.5 ตารางเมตร

    Pool Side

    ที่พักริมสระว่ายน้ำ สำหรับครอบครัว หรือแก๊งเพื่อนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว จำนวน 2 ห้อง ขนาด 29 ตารางเมตร

    Pool View

    ให้บริการที่ชั้น 3 มองเห็นวิวสระว่ายน้ำ และบรรยากาศโดยรอบของรีสอร์ทจำนวน 8 ห้องขนาด 32 ตารางเมตร

    Pool Access

    ห้องพักชั้น 2 ของรีสอร์ท จากห้องพักสามารถเดินลงสระว่ายน้ำได้เลย จำนวน 7 ห้อง ขนาด 32 ตารางเมตร (รวมระเบียง)

    Ocean View

    ให้บริการที่ชั้น 2 และชั้น 3 ของรีสอร์ท พร้อมระเบียงสำหรับคู่รัก และครอบครัวที่ต้องการชมวิวทะเล จำนวน 3 ห้อง ขนาด 31 ตารางเมตร (รวมระเบียง)

    Suites

    ห้องนี้มาพร้อมอ่างอาบน้าดีไซน์เก๋ เห็นวิวทั้งหมดของรีสอร์ท เหมาะสำหรับคู่รักที่ต้องการ พักผ่อน อย่างเต็มที่จำนวน 1 ห้อง ขนาด 40 ตารางเมตร (รวมระเบียง)

    สำหรับใครที่อยากเดินทางเข้ามา พักผ่อน ในเมืองหัวหิน แนะนำว่าที่นี่ ตอบโจทย์ความต้องการคุณได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะเรื่องดีไซน์การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ที่สำคัญ การบริการดีเยี่ยม จนคุณประทับใจ และอยากกลับมาเยือนอีกครั้งแล้วครั้งเล่าแน่นอนค่ะ

    รีสอร์ท เดอ พาสคานี ตั้งอยู่ที่ 33/2 หมู่บ้านตะเกียบ5 หนองแค หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

    โทร. 032-655-229
    FACEBOOK : paskanihuahin
    IG : resort_de_paskani
    Line : @paskani

     

    ร้านกาแฟ โทนสีดำ สสุดเท่ คลิกเลย

    ทริป เที่ยวกระบี่ แนวใหม่ ได้ไปนอน เกาะพีพี และ เกาะยาว

    หลายคนคงได้ไป เกาะพีพี เกาะยาว กันมาแล้วบ้าง โดยเรือจากภูเก็ต หรือเดย์ทริปจากกระบี่ แต่รอบนี้ขอแนะนำทริป เที่ยวกระบี่ แต่ได้นอนเกาะ 4 วัน 3 คืน แบบไปเองไม่สนใจใคร

     

    โดยเราเริ่มจากจองตั๋วแอร์เอเชียลงกระบี่ก่อนเลย ซึ่งช่วงที่ไปเป็นเดือนกรกฎาคม ค่าตั๋วเลยค่อนข้างถูก ช่วงโลว์ซีซัน อะไรมันก็สบายๆ แต่ต้องลุ้นหน่อยว่าจะเจอมรสุมรึป่าว คิดว่าทั้ง เกาะยาว และ เกาะพีพี ยังคงเที่ยวได้ทั้งปี เนื่องจากมีเกาะภูเก็ตบังลมไว้อยู่ มาเริ่มกันเลยค่ะ

    วันแรก

    เราเดินทางจากสนามบินดอนเมืองเข้าสู่สนามบินกระบี่ ถึงประมาณ 11 โมง วางแผนว่าจะไปท่าเรือท่าเลนทันเที่ยง แต่ด้วยความอยากประหยัดเลยจะหารถบัสหรือสองแถวจากสนามบินไป ปรากฏว่าในสนามบินไม่มี สุดท้ายต้องเรียกแท็กซี่ กระบี่ หรือ เมือท่องเที่ยวอื่นๆ ค่าแท็กซี่ก็จะแพงกว่าปกติ เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว สุดท้ายเลยให้แวะกินข้าวเที่ยงที่ ร้านขนมจีนโกจ้อย ก่อน ไหนๆ ก็เลยเที่ยงแล้ว เลยให้พี่แท็กซี่แวะซื้อของเลย จากท่าเรือท่าเลน เรานั่งเรือเข้าเกาะยาวด้วยสปีดโบ๊ตประมาณเกือบชั่วโมง ไปขึ้นที่ ท่าเรือช่องหลาด (เกาะยาวใหญ่) ถึงช่องหลาดเราก็เช่ามอเตอร์ไซด์เลย จุดหมายแรกคือไป แหลมหาด ก่อนเลย อยู่ใกล้กับท่าเรือนิดเดียว เมื่อไปถึงพระอาทิตย์ยังไม่ตก แต่ทรายสวยมาก ฝั่งขวามองเห็นเกาะห้อง


    ออกจากแหลมหาด เราก็มุ่งสู่ที่พัก ลงเล่นสระ ซ้อมดำน้ำตื้น ฟรีไดร์ฟ สำหรับวันถัดไปที่จะไปเกาะพีพี ในส่วนของที่พักคือ ทิวสนรีสอร์ต  ก็จะมองเห็นเกาะห้องในอีกมุม
    เราทานอาหารทะเลกับคนดูแลแหลมหาดบาร์ ซึ่งของทะเลก็ซื้อมาจากกระชังปลาบริเวณท่าเรือช่องหลาดทั้งนั้น ไม่แพง และ สดสุดๆ ที่มาพร้อมกับบรรยกาศแบบนี้
    พระอาทิตย์ตกได้สักชั่วโมงก็เริ่มมืดแล้ว ที่สำคัญต้องขับมอเตอร์ไซด์กลับที่พัก เลยกลับไปต่อที่รีสอร์ตดีกว่า

    วันที่สอง

    ตื่นเช้ามาทานกาแฟ และอาหารเช้า ที่รีสอร์ต เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่น คนเลยไม่เยอะ เหมือนติดเกาะเลย เราเลยขี่มอไซด์สำรวจเกาะรอบเกาะดีกว่า ลงใต้ของเกาะไปก็จะมี ท่าเรืออีกท่าซึ่งมีชุมชนอยู่ค่อนข้างหนาแน่น เพราะมีตลาดคนเดินด้วย แต่ช่วงนี้จะไม่ได้เปิด ถัดจากทิวสนรีสอร์ต ก็เห็นรีสอร์ตหรูหรามาก กำลังตกแต่ง คิดว่าจะเปิดบริการในอีกไม่นาน มองเห็นหมู่เกาะห้อง อย่างสวยเลย คือใครที่ต้องการความสงบ แบบติดเกาะให้มาติดที่ เกาะยาว นี้ จะมีความสุขมาก ธรรมชาติจริงๆ หรือข้ามไปเกาะยาวน้อยเที่ยวเล่นได้ มีโรงแรมระดับ 6 ดาว อยู่ คือ โรงแรมซิกเซ้นท์
    ส่วนเกาะยาวใหญ่จะเป็นธรรมชาติ คนท้องถิ่นเกือบทั้งร้อยเป็นคนมุสลิม อัธยาศัยดี มีร้านสะดวกซื้อ เซเว่นก็มี แต่ให้ดีเตรียมมาเป็นแพ็คดีกว่า เอาหล่ะได้เวลาไปเกาะพีพี

    เรามีเวลาเหลือชั่วโมงครึ่งก่อนเรือมารับช่องหลาด ไปเกาะพีพี เลยโทรหา บังหนีกระชังปลา ที่ท่าเรือช่องหลาด ให้มารับไปดูปลากระชังของแก เดินเล่น ถ่ายรูป มีทั้งปลา กุ้ง กั้ง ที่สำคัญ แกเลี้ยงกุ้งมังกรไว้ขายด้วย สดจริงๆ ใครไปก็ลงท่าเรือช่องหลาดแล้วซื้อเข้าไปทำ bbq เลย
    สักพัก เรือมาแล้ว ต้องรีบขึ้นท่า นั่งไปสักพักก็ยังไม่ออก เลยถามคนเรือ คือ ช่วงโลว์จะรอคนเข้ากระบี่ด้วยเลย เราเลยได้ทริปกระบี่แถมอีก 2 จุด คือหาดนพรัตน์ธารา กับ เกาะปอดะ แถวๆ ไร่เลย์
    และเข้าสู่ เกาะพีพี ที่ ท่าเรือต้นไทร  อย่างที่เห็นกันมา เกาะพีพี เป็นอ่าวโค้งเข้าหากัน 2 อ่าว ท่าเรือต้นไทร จอดฝั่งใต้ คนพลุกพล่าน เดินไปหน่อยก็เป็นถนนคนเดินอยู่ซ้ายขวา ถ้าเดินตรงไป ประมาณ 100 เมตร ก็จะเจอ อ่าวโล๊ะดาลัม ที่เงียบสงบ สวยงาม โรงแรมดีๆ สวยๆ จะอยู่ฝั่งนี้ มีกิจกรรมทางน้ำเล่น เราเดินมาสักพักก็เรียกเรือมารับไปเข้าที่พัก เนื่องจากทริปนี้เน้นที่จะฟรีไดร์ฟ หรือสกินไดร์ฟ เลยรีบเข้าที่พักซ้อมดำน้ำ ที่ เดอะโค๊ฟ บีช รีสอร์ท   ที่จองรีสอร์ทแห่งนี้เพราะเงียบสงบ ด้านหน้ามีกองหินไว้สำหรับซ้อมดำน้ำได้ดี รีสอร์ทนี้ยังถัดจากแหลมไวกิ้งมาอีกสักพักเลย เมื่อเข้าที่พักแล้วก็ซ้อมดำน้ำหน้าที่พักเลย มีแคนนูพายออกไปฟรีด้วย
    อาหารเย็นทานที่รีสอร์ท แบบสบายๆ เพื่อเตรียมพร้อมลุยสำหรับวันพรุ่งนี้

    วันที่สาม

    เนื่องจากรีสอร์ทต้องนั่งเรือมาด้านขวาของเกาะพีพี ทำให้ห่างไกลจากถนนคนเดิน เลยทำให้เราตื่นเช้ามาก มานั่งเล่นกับปูเสฉวน เพื่อรอกินข้าวเช้า หลังจากอาหารเช้าแล้ว เราก็เรียกเรือรีสอร์ท ไปที่ท่าเรือเลย
    จุดมุ่งหมายเช้านี้คือ พิชิตวิวพ้อยต์เกาะพีพี

    เราเดินผ่านถนนคนเดิน ลัดเลาะไปตามทาง จนถึงทางขึ้น ซึ่งต้องบอกว่าทางสบายกว่า วิวพ้อยต์หลายๆที่ที่ไป แต่ขึ้นไกลกว่า เมื่อขึ้นไปถึงแล้วจะมีร้านกาแฟให้นั่ง เก็บบรรยากาศยาวไปเลย เพราะเหงื่อท่วมตัวหมด แต่วิวก็สุดแสนที่จะบรรยายได้ ลงมาแล้วเราก็แวะ อ่าวโล๊ะดาลัม นั่งเล่นทราย อ่าวนี้สวย ทรายขาว โค้งเกือบกลม มีจุดทางออกอยู่ไกลๆ คล้ายๆ อ่าวมาหยา ที่กำลังจะไปดำน้ำบ่ายนี้ เราเก็บบรรยากาศแล้วก็เดินต่อสู่ถนนคนเดิน ด้วยเป็นคนชอบดำน้ำเลยแวะร้านดำน้ำบ่อยหน่อย สุดท้ายก็มาจบที่ร้านอาหารริมอ่าวต้นไทร เพื่อกินอาหารเที่ยง และเตรียมตัวกลับที่พัก เพราะจองทริปดำน้ำไว้
    ช่วงบ่ายเราได้ออกเรือ ไปจุดดำน้ำ 3-4 จุดที่เกาะพีพีเลย์ เริ่มจาก อ่าวลิง ที่ปกติลิงจะลงมาเล่นน้ำกับคน และได้ขึ้นอ่าวไปถ่ายรูปกับพวกมัน แต่บ่ายนี้ครึ่มฝนหน่อย มันเลยขึ้นไปด้านบน สุดท้ายเลยไม่ขึ้นเกาะดีกว่า
    ไปจุดต่อไปเลยคือ หน้าอ่าวมาหยา แต่ไม่สามารถขึ้นหาดได้ เนื่องจากช่วงที่ไปปิดอ่าวเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ ก็ได้ดำน้ำหน้าอ่าว แต่ที่เป็นไฮไลท์สุดๆเลยคือ ปิเละ ลากูน    สวยงามมาก ทั้งปะการัง ความใส สวย ของโลกใต้ทะเล
    ออกจากปิเละ ลากูน ยังมีเวลาก่อนพระอาทิตย์ตก เลยได้แวะดำน้ำ หน้าปิเละ ลากูน อีกไดร์ฟ ปรากฏว่า ได้เจอกับเจ้าฉลามหูดำเข้าให้ ว่ายตามมันไป จนได้ภาพมา
    หลังจากเต็มที่กับการดำน้ำแล้ว ไต๋เรือก็เรียก เพื่อจะกลับที่พัก เป็นเวลาที่พระอาทิตย์กำลังตก ทำให้วันนี้เป็นวันที่สมบูรณ์แบบมาก

    วันที่สี่

    วันสุดท้ายสำหรับทริปนี้ เราตื่นเช้ามาทานอาหารเช้าแล้วเตรียมตัวไปท่าเรือต้นไทรเลย เพราะไม่ได้จองออนไลน์ไว้เลยไม่แน่ใจว่าเรือมากี่โมง แต่มั่นใจได้ว่าเรือจากเกาะพีพี มีออกไปทั้งกระบี่ และภูเก็ตแน่นอน
    ถึงท่าเรือต้นไทรก็หาตั๋วเรือเลย เป็นเรือเฟอร์รี่ใหญ่ของ ลมพระยา   ซื้อตรงท่าเรือเลย เช็คไปมาถูกกว่าออนไลน์อีก แต่การเดินทางแบบนี้ถ้าเป็นหน้าไฮ จองไว้ก่อนดีกว่า เดี๋ยวจะไม่ได้กลับ
    เรือมีเกือบทุกชั่วโมง เข้าฝั่ง เรานั่งกลับกระบี่มาลงท่าเรือคงคา ซึ่งอยู่ใกล้เมืองกระบี่มากที่สุด เพราะไม่ได้อยู่กระบี่ต่อ เลยไม่ได้ไปอ่าวนาง มาลง ท่าเรือคงคา   เที่ยวเล่นในเมือง มีร้านอาหารมากมาย จุดหลักๆ ก็คือ ลานปูดำ     ที่มีร้านอาหารทะเลอยร่อยๆหลายร้าน ช่วงเย็นๆก็มีถนนคนเดินด้วย  แต่เวลาเรายังเหลืออยู่หลายชั่วโมง ถ้าเข้าไปอ่าวนาง หรือสระมรกต ก็เสียเวลามาก เราเลยจ้างเรือหางยาวแถวอนุสาวรีย์ปูดำนี่แหละ ให้พาไปเที่ยว เขาขนาบน้ำ

    หาร้านลับในร่องน้ำป่าโกงกางแห่งนี้ พี่คนขับเรือก็จัดเลย พาไปถ้ำ ที่มุ่งหน้าไปเขาขนาบน้ำ ตามข้อมูลบอกว่าถ้ำนี้เป็นถ้ำพญานาคด้วย ก็สนุกดีนะ เดินเล่นสักชั่วโมงก็ขึ้นเรือไปร้าน มะหญิง  ซึ่งมุดเข้าไปด้านในอีก มีแพ กระชังปลามง เก๋ายักษ์ ให้ดูด้วย อาหารและบรรยากาศใให้เต็มเลย
    ออกจากร้านมะหญิง รีบขึ้นฝั่ง เรียกรถเข้าสนามบินจัดการกับของฝากในสนามบิน รอการเรียกขึ้นเครื่อง

    สนนราคาทริปนี้ 2 คน รวมค่าโรงแรม 3 คืน ค่าเครื่องบิน ไป – กลับ ค่าเรือ 7 จุด ค่าดำน้ำ ดูพระอาทิตย์ตก ค่ารถแท็กซี่ และ รถมอเตอร์ไซด์ และค่าอาหาร แล้ว 14,860 บาท ตกแล้วคนละ 7,430 บาท เท่านั้น  ใครสายลุยแบ็คแพ็คกันไปเลย รับรองความสนุกคุ้มค่ามาก

    9 เกาะ อ่าวแสมสาร แหล่งรวมความสุขของครอบครัว คลิกเลย

    สัมผัสการยกระดับวัตถุดิบท้องถิ่น สู่อาหารจานหรู ที่ Saloon de Paskani

    ห้องอาหารจานหรูหลายๆที่มักจะใช้ วัตถุดิบจากเมืองนอก แต่ที่นี่นั้นนำวัตถุดิบท้องถิ่นมา ทำอาหารให้ออกมาได้อย่างสวยงามลงตัวเป็นอย่างมาก Saloon de Paskani คือห้องอาหารภายใน รีสอร์ท เดอ พาสคานี Hidden Place สุดเอ็กซ์คลูซีฟแห่งใหม่ในหัวหิน

    ประตูหน้าห้องอาหาร ที่ดูเหมือนเป็นประตูห้องครัวธรรมดา ด้วยโทนสีที่ดูอบอุ่น เพียงได้เห็นก็ชวนหลงไหลเข้าไปเยี่ยมชม

    พูดถึงเรื่องการประดับตกแต่งด้วยโคมไฟแบบห้อยระโยงรยาง พาดอยู่กับบันไดและเชือกที่ใช้บนเรือประมง บ่งบอกถึงคาแรคเตอร์ที่ตั้งของที่นี่ ว่าได้แรงบันดาลใจมาจากวิถีชีวิตของหมู่บ้านชาวประมง ทำให้กลายเป็นเอกลักษณ์ของห้องอาหารแห่งนี้อย่างชัดเจน

     

    ด้านในตกแต่งด้วยโต๊ะไม้ยาว มุมเบาะโซฟา และโทนสีที่ใช้ ให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมือนนั่งทานอาหารอยู่ในห้องอาหารที่บ้าน

     

    การออกแบบมุมเคาน์เตอร์บาร์เครื่องดื่ม ที่ดีไซน์ออกมาให้มี Island วางอยู่ด้านหน้า ยิ่งตอกย้ำความอบอุ่นเป็นกันเองยิ่งขึ้น

    โดยคอนเซ็ปต์อาหารของที่นี่เป็นแนว local twist เน้นวัตถุดิบท้องถิ่นมาเป็นส่วนประกอบในเมนูต่าง ๆ ด้วยความตั้งใจ ที่อยากให้ทุกท่านที่เดินทางมาท่องเที่ยว ได้ลิ้มรสอาหารท้องถิ่น ที่รังสรรค์ขึ้นจากวัตถุดิบท้องถิ่นหลักของที่นี่

    อาทิ สัปปะรด ซึ่งเป็นผลไม้ประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมถึงซีฟู้ดสดๆ จากชาวประมงในชุมชนเขาตะเกียบ นำเสนอออกมาในรูปแบบเมนูที่หลากหลาย เน้นเมนูทานง่าย ๆ กับบรรยากาศชิลๆ ที่ Saloon de Paskani

    โดยเมนูอาหาร และเครื่องดื่ม ถูกรังสรรค์ขึ้นจากหลากหลายไอเดียของทีมงานทุกคนที่มีส่วนรวมในการทำงาน

     

             ดังนั้นทุกเมนู จึงผ่านกระบวนการทางความคิดที่ดีที่สุด ปรับและพัฒนาจนออกมาเป็นทุกเมนูขึ้นชื่อของที่นี่ และเมนูแนะนำที่เมื่อมาถึงร้านแล้วต้องสั่งให้ได้ เริ่มกันด้วยจานแรก

    Seafood Platter: เซตเมนูซีฟู้ดจานยักษ์ ที่ถูกนำมาเผาแบบสด ๆ จากทะเล ทั้งกุ้งล็อบสเตอร์ หอยตลับ ปูทะเล เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรลับเฉพาะที่เข้ากันอย่างดีกับเมนูซีฟู้ด

     

    สปาเกตตี้แกงคั่วปูม้าใบชะคราม: เส้นสปาเก็ตตี้ที่ระดับความอร่อยแบบอัลเดนเต้ ทำให้มีความเหนียวนุ่มกำลังดี คลุกเคล้ากับแกงคั่วที่เครื่องแกงรสจัดจ้าน ใส่ปูทะเลสด ๆ พร้อมใบชะครามที่มีสรรพคุณมากมาย โดยเฉพาะช่วยเรื่องบำรุงสายตาได้ ทำให้นอกจากเมนูนี้จะอร่อยสไตล์ไทยพื้นบ้านแล้วยังมีประโยชน์อีกด้วย

     

    ข้าวผัดสัปปะรด ปลาหมึกย่าง: เป็นอาหารจานหลักที่นำเอาวัตถุดิบหลักอย่างสับปะรดมาเป็นพระเอกในจานนี้ ความเปรี้ยวอมหวานของสับปะรด ปรุงรสคลุกเคล้ากับข้าวผัดพร้อมปลาหมึกสดย่าง กลายเป็นความอร่อยที่เข้ากันลงตัว

     

    กรานิต้าสัปประรดพริกเกลือ: ตบท้ายด้วยของหวานแบบเกล็ดน้ำแข็งสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนที่นำเอาสับปะรดผลไม้ประจำถิ่นมาใช้ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับเมนูนี้ได้

    นอกจากอาหารสไตล์ local twist ที่อร่อยจัดจ้านแล้ว ยังมีเครื่องดื่มอีกหลากหลายเมนูทั้งในรูปแบบคาเฟอีน และไม่มีคาเฟอีน ทั้ง สมูทตี้ผลไม้ประจำฤดู อเมริกาโน่ โคโค่นัท ช็อคโกแลตปั่น มัทชะลาเต้ สปาร์คกลิ้งโซดา ฯลฯ

          สำหรับใครที่มาเที่ยวหัวหิน สามารถแวะมาลิ้มรสอาหารท้องถิ่นในรูปแบบ local twist ได้ที่ Saloon de Paskani ใน รีสอร์ท เดอ พาสคานี หัวหิน กันได้ทุกวัน โดยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.032 655 229

     

    Line : @paskani

    FACEBOOK : www.facebook.com/paskanihuahin

    IG : resort_de_paskani

    คาเฟ่ สวนสวยสไตล์ยุโรป ที่ Melt in Your Mouth คลิกเลย

    แต่งห้องนอน สไตล์ On The Beach

    อยู่บ้านนานๆ เริ่มรู้สึกเบื่อ อยากจะจัดห้องนอนใหม่ แต่ไม่มีไอเดีย และไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี วันนี้เลยยก ไอเดียการ แต่งห้องนอน สไตล์ On The Beach มาเป็นแนวทางสำหรับใครที่อยากจะลองแต่งห้องนอนใหม่ เริ่มยังไงมาดูกันเลย

    Picture: Pinterest

     

    1. กำหนดโทนสี

    Picture: Pinterest

    อันดับแรกเลย ลองกำหนดโทนสี ที่ชอบ อย่าง ไอเดีย แต่งห้องนอน สไตล์ On The Beach เราก็จะกำหนดโทนสีแบบทะเล สีของทราย สีของน้ำทะเล หากใคร Match โทนสีไม่ถูก สามารถหาได้จาก www.pinterest.com ในนี้เค้าจะมีโทนสีที่ Match มาให้หลากหลายโทนเลย ก็ดึงมาเป็นโทนสีหลักที่เราจะใช้แต่งได้ โดยปกติแล้วเราจะกำหนดโทนสีไม่เกิน 3-4 สี เพื่อไม่ให้สีสันเยอะเกินไป และดูคุมโทนมากขึ้น

    2. กำหนด Lay out

    Picture: Pinterest

    ขั้นตอนต่อมา ก็จะเป็นการกำหนด Lay out ภายในห้องนอนของเรา ไม่ว่าจะเป็น การเลือกมุมวางเฟอร์นิเจอร์ ทิศทางต่างๆ ปกติก็ยึดตามฮวงจุ้ย ซึ่งสามารถดูข้อมูลจาก Google ได้เลย แล้วลอง ร่างแบบขึ้นมาคร่าวๆ พอเรากำหนดแบบนี้ได้แล้ว เราจะได้รู้ขนาด และรูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ที่จะต้องนำมาจัดวาง

    3. เปลี่ยนสี ลวดลายของผนัง หรือเพิ่มผ้าม่าน

    Picture: Pinterest

    การเปลี่ยนสีผนัง เพิ่มลวดลาย หรือเพิ่มผ้าม่าน ให้มี texture ดูไม่เรียบมากจนเกินไป อย่างห้อง On The Beach จะเน้นผนังไม้ มีเซาะร่องเพิ่มลวดลาย ให้ได้บรรยากาศแบบ Sea Spell เลือกทาสีฟ้า เพื่อให้โทนสีโดดเด่นมากขึ้น หรือจะเลือกใช้ห้องสีพื้นขาวเรียบๆ แต่ใช้ผ้าม่านสีฟ้า เพื่อเพิ่มโทนให้กับห้อง ดูเป็นโทนทะเลมากขึ้น

    4. ตกแต่งด้วยภาพแขวน

    Picture: Pinterest

    การเพิ่มบรรยากาศให้เห็นภาพชัดเจนว่า แต่งห้องนอน โทนไหน สไตล์อะไร เราอาจจะลองหา รูปภาพ ตามโทสี และสไตล์ที่เรากำหนดมาติดเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นภาพในกรอบรูป ภาพจากผ้าผืนใหญ่รูปแบบต่างๆ ลองหามาติดเพิ่ม แต่ไม่ต้องเยอะเกินไป ให้เหลือ space ว่างๆไว้บ้าง ห้องจะได้ดูไม่อึดอัด และดูสบายตา

    5. เพิ่มของตกแต่ง

    Picture: Pinterest

    เสริมด้วยของตกแต่ง เพื่อดึงสไตล์ออกมาให้ชัดเจนมากขึ้น อย่างตรีม ทะเล ก็อาจจะหาของตกแต่งลวดลาย น้ำทะเล ปลาดาว เปลือกหอย เรือ หรือที่เห็นกันบ่อยๆตอนนี้ก็จะเป็น เซิร์ฟบอร์ด มาประดับตกแต่ง แต่สิ่งสำคัญอย่าลืมว่า โทนสีจะต้องไม่หลุดจากที่เรากำหนด

    หลังจากที่ทุกอย่างเราเลือกมาเรียบร้อยแล้ว ก็ทำการเซต จัดวางตามแบบที่ร่างไว้ได้เลยค่ะ การที่เรากำหนดตรีมไว้แบบนี้จะทำให้ง่ายต่อการจัดวาง และตกแต่งห้องค่ะ ใครที่อ่านมาถึงแล้วคงอยากจะแต่งห้องกันแล้วใช่มั้ยคะ ใครชอบสไตล์นี้ สามารถแต่งตามเราได้เลยค่ะ แต่ถ้าใครอยากลองแต่งห้องตามสไตล์ที่ตัวเองชอบ ลองนำไอเดียเหล่านี้ไปเป็นแนวทางในการวางแบบดูนะคะ อาจจะช่วยให้คุณ แต่งห้องนอน ใหม่ได้ง่ายขึ้นค่ะ

     

    เที่ยว คาเฟ่ ทะเล (ทิพย์) ย่าน นนทบบุรี คลิกเลย

    รวมเพลง TikTok น่าเต้นตามเดือนสิงหาคม 2021

    “ถ้าเธอฮู้แล้ว เธอสิเลิกอยู่บ่ บ่! เฮาเลิกบ่ได้ ก็คนมันฮักหมดใจไปแล้ว” ช่วงเดือนสิงหาคมนี้ถ้าใครเล่น TikTok คงไม่เคยมีใครไม่รู้เพลงนี้แน่ ๆ เพลงรักควรมีสองคน ที่ได้นักร้องดัง 2 คนอย่างพร จันทพร เจ้าของเพลงสังหารหมู่กับเนย ภัสวรรณ เจ้าของเพลงปูหนีบอีปิ๊ มาประชันกันในทีมเมียหลวงและเมียน้อย คลิปวิดีโอการทำ Cover ดังไปทุกสื่อโซเชี่ยล โดยเฉพาะ Tiktok แอปพลิเคชั่นที่เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงที่เราอาศัยอยู่ที่บ้านกัน

    TikTok

    วันนี้เราจึงขอมารวบรวมเพลง TikTok กว่า 8 เพลงฮิตน่าเต้นตามชื่อเดือนแปด หรือเดือนสิงหาคมไปพร้อมกันดีกว่า บอกเลยว่ามีทั้งเพลงไทย เพลงต่างประเทศ ไปจนถึงเพลงที่เคยโด่งดังในสมัยก่อน แต่พอมีคนนำมาใส่ท่าเต้นจนกลับมานิยมกันในช่วงเดือนนี้อีกต่าง อย่ารอช้าตั่งกล้องแล้วไปออกจังหวะพร้อมกันบนแอปพลิเคชั่นกัน TikTok เลยค่าาา

    1. เพลง รักควรมีสองคน
      ไม่มีเพลงนี้ไม่ได้เลย อย่างที่เกริ่นไปต้นบทความแล้ว ไม่แปลกที่จะถูกนึกถึงเป็นอับดับแรกในช่วงนี้บน TikTok รักควรมีสองคน_TikTok
    2. เพลง TokTokTok
      เป็นเพลงชาเล้นจ์จาก TikTok ที่มีเนื้อหาเพลงมีเนื้อว่า “ติ๊กตอก ตอกติ๊กตอก” ที่ไม่ว่าจะแชร์ลงแพลตฟอร์มไหนก็มีชื่อแอปพลิเคชั่นนี้หลอกหลอนไปด้วยทุกที่TokTokTok_TikTok
    3. เพลง What is love
      สำหรับเพลงนี้ไม่ใช่เพลงใหม่ แต่เป็นเพลงที่มีท่าเต้นเป็นเอกลักษณ์น่ารัก พอไอดอลเกาหลีเริ่ม Cover บน TikTok กันก็เกิดไปไวรัลน่าเต้นตามขึ้นWhat_it_love_TikTok
    4. เพลง Dinero x His and Hers
      เป็นอีกหนึ่ง Dance Challenge Compilation ที่โด่งดังบน TikTok เริ่มมาจากวัยรุ่นฝรั่งลามมาจนฝั่งบ้านเรา หากมีคู่หูเต้นด้วยยิ่งเก๋เลยDinero_x_His_and_Hers_TikTok
    5. เพลง สยบ
      เป็นเพลงของยูทูปเบอร์ชื่อดังอย่าง “เอิร์ธ” ด้วยเนื้อหาของเพลงที่มีเนื้อหากวน ๆ แบบพ่อบ้านใจกล้า ประกอบกับท่าเต้นสุดยั่วฝ่ามือก็ทำให้เพลงนี้ถูกคนดังเต้นตามไปตาม ๆ กันบน TikTok
    6. เพลง แฟนเก่าคนโปรด
      เพลงของ Slapkiss ที่มีท่าเต้นน่ารักช่วงท่อนฮุคให้ทุกคนลองทำกันเป็นชาเล้นจ์ จึงทำให้มีคนเต้นตามไม่น้อย บอกเลยว่าเกิดเป็นเพลงยุคนี้ต้องมีท่าเต้นนะTikTok
    7. เพลง Dumb Dumb
      เพลงดังจากแดนกิมจิ ที่มีจังหวะน่าโยกตัว และท่าเต้นสุดท้าทายฝีมือของเหล่าดาว TikTok เพราะงั้นจึงไม่มีใครพลาดที่จะลองเต้นตาม
    8. เพลง Give love
      มาถึงเพลงสุดท้ายของเดือนนี้กันแล้ว นั่นก็คือเพลง “Give love” ประเทศเกาหลีส่งเข้าประกวด แม้ไม่ใช่เพลงใหม่หรือต้องเต้นร้อนแรงอะไร แต่การเต้นเบา ๆ น่ารัก ๆ ไปกับทำนองเพลงนี้ พร้อมใส่ฟิลเตอร์น่ารักอ้อน ๆ ก็ทำให้สาว ๆ หลายคนชื่นชอบและทำตามกันพอที่จะถูกจัดอันดับเลยทีเดียวTikTok

    โดยบางเพลงก็ถูกต้องการกระแสจนต้องดันให้กลายเป็น Challenge ในติ๊กตอก หรือบางเพลงที่ดังมาตั้งแต่เดือนก่อนจนปัจจุบันยังไม่เลิกฮิตเลย ยอมรับเลยว่าติ๊กตอกเป็นอีกหนึ่งแอปพลิเคชั่นยอดนิยมที่รันวงการเต้นได้ดีจริง ๆ สำหรับใครที่อยู่บ้างว่าง ๆ เบื่อ ๆ ลองโหลดแอปฯ ติ๊กตอกมาลองเล่นและเต้นตามกันดู เพื่อจะได้ความสุขและความสนุกในรูปแบบใหม่ ๆ หรือบางคนอาจจะติดใจจนอัพเกรดตัวเองกลายเป็นดาวติ๊กตอกเลยก็ได้

     

    บทความที่คุณอาจสนใจ

     

    หน้าบวมเพราะกินเค็ม

    0

    เคยมั้ย ตื่นมาส่องกระจกตอนเช้าเผลออุทานออกมาอย่างดัง “เมื่อวานกินไรเข้าไปว๊าาา” (ของจริงอาจจะไม่สุภาพขนาดนี้ 55) ทำไมหน้าบวม ตัวบวม น้ำหนักก็ขึ้น คิดๆๆๆ ของทอดก็ไม่ได้กิน ของหวานก็แทบไม่แตะ แค่กินส้มตำกับยำวุ้นเส้นเอง! เห้ออ~ อุตส่ากินสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต ไขมัน ในปริมาณที่น้อยลงละนะ คำตอบคือ เพราะหลายคนมักจะโฟกัสที่สารอาหารหลัก จนมองข้ามสารอาหารแฝง ที่มีส่วนทำให้เราบวมและน้ำหนักขึ้นอย่างไม่รู้ตัว นั่นก็คือ โซเดียม นั่นเอง

    ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับโซเดียมกันก่อน “โซเดียม เป็นสารอาหารที่ช่วยควบคุมความสมดุลของเหลวภายในร่างกาย ช่วยรักษาความดันโลหิตให้อยู่ในระดับที่ปกติ ช่วยในการทำงานของประสาทและกล้ามเนื้อ ช่วยดูดซึมสารอาหารบางอย่างในไตและลำไส้เล็กอีกด้วย โดยทั่วไปร่างกายต้องการโซเดียมประมาณ 1,500 มิลลิกรัม/วัน แต่ในชีวิตประจำวันของเราอาจจะบริโภคโซเดียมมากกว่านั้น โดยปริมาณโซเดียมสูงสุดที่บริโภคแล้วไม่อันตราย คือ ไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม/วัน หรือประมาณ 1 ช้อนชา” หลายคนจะเข้าใจว่าโซเดียมมีอยู่ในเกลือหรืออาหารที่มีรสเค็มเท่านั้น ผงชูรส น้ำมันหอย น้ำจิ้มไก่ น้ำจิ้มสุกี้ น้ำจิ้มบ๊วย ซอสพริก ซอสมะเขือเทศ เครื่องปรุงรสหวานเหล่านี้ก็มีปริมาณโซเดียมค่อนข้างสูงทีเดียว นี่ยังไม่นับรวมอาหารแปรรูป เช่น หมูยอ ไส้กรอก แหนม ลูกชิ้น อาหารตากแห้ง เช่น กุ้งแห้ง หมู/เนื้อแดดเดียว อาหารหมักดองต่างๆ ปลาร้า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เรากินบ่อยช่วงสิ้นเดือน ปลากระป๋อง แม้กระทั่งขนมปัง คุกกี้ แพนเค้ก ที่นอกจากจะให้ปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่สูงแล้ว โซเดียมก็สูงเช่นกัน เพราะผงฟูที่ใช้ทำนั้นมีโซเดียมเป็นส่วนประกอบ!! เมื่อร่างกายได้รับปริมาณโซเดียมเกินความจำเป็นก็จะกักเก็บน้ำไว้ใต้ผิวและเนื้อเยื่อในร่างกาย หน้าเอย พุงเอย ขาเอย ก็จะดูบวมกว่าปกติ เป็นที่มาของน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น และอาจจะก่อให้เกิดโรคต่างๆตามมามากมาย เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคไต โรคหัวใจ เป็นต้น

    ทีนี้มาดูกันดีกว่าว่าจะใช้วิธีไหนในการขับไล่เจ้าโซเดียมให้ออกไปจากร่างกายได้บ้าง

    1. ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ (อันนี้ได้ผลจริง ลองมาแล้ว) ถึงแม้จะต้องเดินไปเข้าห้องน้ำบ่อยซักหน่อย

    2. ออกกำลังกาย เพราะร่างกายสามารถขับโซเดียมออกทางเหงื่อได้ อีกอย่างจะได้เผาผลาญสารอาหารอื่นๆที่กินเข้าไปนอกเหนือจากโซเดียมด้วย

    3. กินกล้วย เพราะกล้วยมีโพแทสเซียม ช่วยเพิ่มการปัสสาวะเพื่อขับโซเดียมออก แต่ถ้าไม่ชอบกล้วย มันเทศ แตงโม น้ำมะพร้าว ทับทิม ก็แทนกันได้ (ถึงจะไม่ใช่แฟน งงป่ะ)

    เอาเป็นว่าก็ไม่ได้ให้งดอาหารที่มีโซเดียมซะทีเดียวนะ เพียงแค่อย่ากินบ่อย ลดปริมาณให้น้อยลง และไม่กินเป็นประจำติดต่อกันเป็นเวลานานๆ เพราะถ้าหน้าบวม ร่างบวม น้ำหนักขึ้นบ่อยๆจนลดไม่ลงแล้วละก็ เตรียมตังค์ไว้ดูดไขมันได้เลยจ้าาา

    ชวนไปนอนฟิน กินบรรยากาศ ที่ CREST RESORT AND POOL VILLA ภูเก็ต

    เมื่อมีเวลาไปพักผ่อน เพื่อชาร์จแบตร่างกาย ภูเก็ต คือจุดหมายปลายทางแห่งการพักผ่อนที่ดีที่สุดของเราใน ภูเก็ต คือ CREST RESORT AND POOL VILLA

     

    Exterior Design

    Crest Resort ตั้งอยู่บนเนินเขาที่นุ่มนวลบนหาดไตรตรังที่สวยงามนอกป่าตอง ล้อมรอบด้วยป่าฝนเขตร้อน และทิวทัศน์ แบบกว้างกว่า 180 องศา โอบล้อมด้วยน้ำทะเลสีฟ้าครามจากทะเลอันดามันที่ขึ้นชื่อว่าเป็นทะเลที่สวยที่สุดในประเทศไทย Crest Resort เป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับวันหยุดพักผ่อนตามธรรมชาติที่คุณ และครอบครัวสมควรได้รับ ภายในบรรยากาศอันน่าหลงใหลนี้

    ภาพมุมสูงทุกห้องพัก

    Crest Resort เป็นรีสอร์ตหรูที่ได้รับการออกแบบเชิงนิเวศอันหรูหรา พร้อมสร้างแรงบันดาลใจสำหรับนักเดินทางที่มองหาการพักผ่อนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่มีชีวิตชีวาและมีชีวิตชีวาพักผ่อนระยะยาว หรือจะเลือกเป็นสถานที่ฮันนีมูน อีกทั้งยังได้อารมณ์เสมือนการผจญภัยไปพร้อมครอบครัว หรือจะเลือกเป็นที่ประชุมขององค์กร จัดงานสัมมนา หรือปาร์ตี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

    มองเห็นวิวทะเล

    ห้องพักที่เปี่ยมไปด้วยความหรูหรานี้ ถูกรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของนักท่องเที่ยว ห้องพักทั้งหมดที่ Crest Resort And Pool Villa แตกต่างกันไปตั้งแต่ห้อง มาพร้อมวิวทะเลที่กว้างขวางเป็นพิเศษไปจนถึงพูลวิลล่าแบบดูเพล็กซ์ สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักขั้นพื้นฐานระดับพรีเมี่ยมทั้งหมดได้รับการบริการจากผู้ช่วยส่วนตัวของรีสอร์ท ด้วยห้องพัก 144 ห้องรวมถึงห้องดีลักซ์ 25 ห้องห้องดีลักซ์ซีวิว 56 ห้องห้องดีลักซ์พูลแอคเซส 29 ห้องและพูลวิลล่าที่ตกแต่งอย่างมีรสนิยม 34 หลังตั้งอยู่บนเทือกเขาป่าตองเพนนินซูล่าท่ามกลางป่าฝนที่เก่าแก่ที่สุดและยังไม่ถูกทำลายของ ภูเก็ต ด้วยเอกลักษณ์ของวิวทะเลที่สวยงามโดยรอบสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ สภาพอากาศปานกลางและทุ่งหญ้าเขียวขจี ช่างเป็นความสวยงาม สงบและเหมาะแก่การพักผ่อนมากที่สุด

    Relax Zone

    Deluxe Room

    ห้องมาตรฐานขนาด 42.40 – 47.83 ตารางเมตร มีห้องน้ำในตัวและเครื่องอำนวยความสะดวกครับครัน ตกแต่งด้วยโซฟาเนื้อนุ่ม เก้าอี้ปีกโต๊ะเขียนหนังสือทีวีขนาด 46 นิ้วและแท่นวางอุปกรณ์เหล่านี้มีทุกอย่างสำหรับนักเดินทางสมัยใหม่ในปัจจุบัน อีกด้วยนะคะ

    Deluxe Sea View

    ห้องพักวิวทะเลขนาด 42.40 ตรม. – 47.83 ตารางเมตรได้รับการออกแบบอย่างมีสไตล์มีห้องน้ำกว้างขวางโซฟาหนานุ่ม โต๊ะเขียนหนังสือทีวีขนาด 46 นิ้วและแท่นวาง ห้องพักมีทัศนียภาพที่สวยงามของทะเลอันดามันหาดป่าตองหรือหาดไตรตรัง ถ้าได้ไปสัมผัสบรรยากาศจริงๆ คงฟินน่าดู

    DELUXE POOL ACCESS SEA VIEW

    มีพื้นที่ใช้สอย 44.80 ตร.ม. – 49.49 ตารางเมตร เพื่อให้คุณได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันน่าทึ่งจากระเบียงส่วนตัวและอ่างจากุซซี่ ซึ่งสามารถเข้าถึงได้โดยระเบียงไม้กลางแจ้ง ด้วยการตกแต่งและผ้าหรูหราที่ได้รับแรงบันดาลใจจากองค์ประกอบทั้ง 3 ของท้องฟ้าดินและมหาสมุทรเพื่อสะท้อนถึงธรรมชาติแขกผู้เข้าพักจะได้พบกับการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบและความสะดวกสบายที่เหนือกว่าห้องพักมีทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลอันดามันทั้งหาดป่าตองหรือหาดไตรตรัง

    DELUXE POOL VILLA

    ห้องพักที่ถูกโอบล้อมด้วยโทนสีฟ้าของท้องฟ้าโปร่งและสายลมอ่อนๆ จากทะเลในห้องดีลักซ์พูลวิลล่าของคุณอย่างเป็นส่วนตัว เลือกวิลล่าที่ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกและกระโดดลงไปในสระว่ายน้ำส่วนตัวของคุณเอง แบบนี้ละก็ สาวๆ ที่ชอบ selfie คงไม่พลาดที่จะเตรียมชุดว่ายน้ำสวยๆ ถ่ายกับ Floating Breakfast กันสนุกสนานแน่

    PREMIER POOL VILLA

    ห้องพักขนาดใหญ่ 100 ตารางเมตร เป็นวิลล่าริมสระว่ายน้ำสุดโรแมนติกเหมาะสำหรับคู่รักสามารถชมวิวทะเลได้สุดลูกหูลูกตา พร้อมมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นเอกลักษณ์อันหรูหราและมีสไตล์ มีสระว่ายน้ำส่วนตัวที่หันหน้าออกสู่ทะเลและภูเขา พร้อมอ่างจากุซซี่ที่ล้อมรอบด้วยความงามของธรรมชาติและทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลอันดามัน

    FAMILY POOL VILLA

    ห้องพักที่คุณสามารถชมพระอาทิตย์ลับของฟ้าจากลานอาบแดดส่วนตัวของคุณหรือเปิดประตูระเบียงห้องสวีทของคุณ เพื่อได้ชื่นชมทิวทัศน์ขณะนอนอยู่บนเตียง โทนสีภายในช่วยสร้างเสน่ห์ให้กับห้องชุดของคุณแสดงให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติของวิลล่า ได้ความผ่อนคลายในอ่างจากุซซี่กลางแจ้งและดื่มด่ำไปกับภาพที่สมบูรณ์แบบของทะเลอันดามัน เสมือนนอนพักอยู่บนสรวงสวรรค์ มาพร้อม 1 เตียงใหญ่ (คิงไซส์) 1 เตียงเดี่ยว 1 โซฟาเบด

     

    CREST RESORT AND POOL VILLA ตั้งอยู่ที่ : 95 ถ.หมื่นเงิน ไตรตรัง หาดป่าตอง กะทู้ ภูเก็ต

    ราคาเริ่มต้น : 4,000 – 40,000 บาท โทร. 076 310 088

    New Normal Beach คลิกเลย

    คาเฟ่ สวนสวยสไตล์ยุโรป ที่ Melt in Your Mouth จ. เชียงราย

    คาเฟ่ สวนสวยสไตล์วินเทจฝั่งยุโรป ที่พลาดไม่ได้ เมื่อเดินทางมาถึง เชียงราย เพราะ คาเฟ่นี้เต็มไปด้วยความร่มรื่น จากต้นไม้สีเขียว เสียงน้ำพุกลางสวน พร้อมรับลมเย็นๆ ที่พัดโชยเข้ามาจากแม่น้ำกก จนคุณอดจินตนาการไม่ได้ว่า คุณกำลังเดินอยู่ในสวนหลังบ้านที่ประเทศฝรั่งเศส

    ตัวอาคารที่สร้างขึ้นด้วยอิฐสีเทา ตัดกับขอบประตูกระจกสีขาว

    พร้อมเพดานที่ใช้กระจกเกือบทั้งหลัง ทำให้รู้สึกโปร่ง โล่งสบาย ทางเดินเข้าไปถูกปูด้วยอิฐตกแต่งอย่างสวยงาม

    ภายในมีชุดเก้าอี้หวายสีขาวตกแต่งด้วยดอกไม้อย่างลงตัวในทุกๆมุม

    โซนด้านนอก

    ผู้ออกแบบใส่ใจในทุกรายละเอียดของการตกแต่ง คาเฟ่ ทั้งมุมจิบกาแฟ มุมชมวิวพระอาทิตย์ตก มุมนั่งชิวริมแม่น้ำ ทำให้ได้กลิ่นไอความเป็นยุโรปจนลืมไปเลยว่าอยู่ เชียงราย

    เรื่องอาหารของที่นี่ ไม่เป็นสองรองใคร

    เพราะเขาเน้นวัตถุดิบคุณภาพ คัดสรรมาแล้วอย่างดี ในสไตล์ฟิวชั่นทั้งไทย และนานาชาติ และไม่ต้องห่วงเรื่องรสชาติ เพราะสูตรอาหารทั้งหมดเป็นการถ่ายทอดมาจากรุ่นสู่รุ่นซึ่งต้นตำรับเลยมาจากรุ่นคุณทวด ซึ่งเคยเป็นต้นห้องของเจ้าดารารัศมีมาก่อน จนเจ้าของปัจจุบันได้นำมาประยุกต์เป็นสูตรที่ร่วมสมัยยิ่งขึ้น

    เริ่มต้นเมนูหลักกันด้วย

    “หมูย่างคุณย่า” เป็นเมนูฟิวชั่นที่นำเนื้อหมูสันนอกชิ้นโตมาหมักด้วยเครื่องเครา คำนวณเวลาในการหมักและย่างจนหอม นุ่ม กำลังดี เสิร์ฟมาพร้อมกับสลัดผักออแกนิก มันฝรั่งทอด และน้ำจิ้ม 3 แบบ ทั้งน้ำจิ้มซีฟู้ด น้ำจิ้มแจ่ว และซอสมะเขือเทศ ให้คุณเลือกรับประทาน

    เสร็จแล้วต้องห้ามพลาดลิ้มรสชาติของหวาน

    โดยเฉพาะเค้กที่ทางร้านทำขึ้นเอง วันนี้เราเลือกทาน “Lemon Cheesecake” ที่ให้ความสดชื่น
    รสชาติเปรี้ยวนำ หวานตาม ของซอสเลม่อน ตัดกับความหอม มัน เค็ม ของชีสเค้ก อร่อยจนยิ้มไม่หุบ

    ในส่วนของเครื่องดื่ม ขอเลือกเมนูที่เพิ่มความสดชื่นด้วย

    “Passion Mint Slurpy” น้ำเสาวรสสดปั่นพร้อมกับใบมิ้นท์ เปรี้ยวนำ พร้อมได้ความหอม เย็นสดชื่นจากใบมิ้นท์

    “Kiwi Smoothies” น้ำกี่วี่สดปั่นละเอียด หวานอมเปรี้ยวกำลังดีเช่นกัน

    นอกจากนี้ ทางร้านยังมีกาแฟเป็นเมนูเครื่องดื่มแนะนำที่คอกาแฟต้องห้ามพลาด เพราะเจ้าของร้านใช้เมล็ดกาแฟสดคุณภาพดีสัญชาติไทยจากดอยช้าง และดอยปางขอน ที่ปลูกในจังหวัด เชียงราย มาเป็นวัตถุดิบ ผ่านกรรมวิธีการคั่วบดแบบอินเตอร์ จนเบลนด์ออกมาเป็นกาแฟสูตรเฉพาะของทางร้าน

    บรรยากาศสุดชิลทางด้านหลังคาเฟ่ เป็นเปลนั่งเล่น ชมบรรยากาศริมน้ำกก

    Melt in Your Mouth ตั้งอยู่ที่ 268/4 หมู่ 21 ตำบลรอบเวียง อำเภอเมือง จังหวัด เชียงราย ติดกับสวนสาธารณะเกาะลอย หาไม่ยาก

    Google Map : https://goo.gl/maps/r7bzcLBEhKQCAjdV7

    ร้านเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 – 20.30 (ในสถานการณ์ปกติ)
    หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเวลาเปิดปิดช่วงสถานการณ์โควิด โทร. 053-020549

    ร้านกาแฟอื่นๆที่น่าสนใจ :

    ร้านกาแฟโทนสีดำสุดเท่ Labyrinth Cafe – แล็บลิ้นน คาเฟ่

     

    คาเฟ่ ทะเล (ทิพย์)  Chillin’ Neighbor Cafe & Restaurant ย่าน นนทบุรี

    ถนนสุดโหด 5 โค้ง ประเทศไทย ทั้งชัน และ หักศอก ต้องระวัง

    การเดินทางท่องเที่ยว ในประเทศไทย ส่วนมากนิยมใช้รถในการเดินทางเพื่อไปถึงจุดหมาย แต่จุดหมายปลายทางอันสวยหรู อาจต้องพบเจอความยากลำบาก และเป็นประสบการณ์ที่ต้องจดจำ เราจะขอแนะนำ ถนนสุดโหด ของประเทศไทย ที่มีโค้งอันตราย หรือ ต้องระวังอย่างมาก

    ถนนขึ้นภูทับเบิก

    เนื่องจากเป็นยอดภูที่สูงมาก ที่หลายคนพิชิตมาแล้ว ภูทับเบิก อยู่จังหวัดเพชรบูรณ์ แต่มีความสูงชันมาก ทำให้มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ยิ่งหน้าหนาวแล้ว กลางวันยังเย็นอยู่เลย แต่ก่อนที่จะไปพิชิตยอดเขาลูกนี้ รับรองว่ารถเล็กหรือรถตู้ต้องมีหนาวก่อนขึ้นถึงแน่นอน เพราะความชันของภูทับเบิก จึงเรียกได้ว่าเป็น ถนนสุดโหด อันดับต้นๆของไทยเลยค่ะ ระยะทางจากตีนเขาขึ้นสู่ยอดภู รวมแล้ว 18 กิโลเมตร ซึ่งเคยมีคนนั่งนับจำนวนโค้งรวมได้ 111 โค้งพอดี เลขสวยเลย

    ถนนเข้าแม่สอด

    ถนนสายเอเชีย สาย 1 ก่อนเข้าตัวเมืองจังหวัดตาก มีแยกซ้ายป้ายไปแม่สอด ระยะทางจากต้นถนนสายเอเชียนั้น อีก 1 ชั่วโมง เพื่อนๆ จะได้พบกับ ถนนสุดโหด กันหล่ะ แต่ด้วยความที่เป็นถนนใหญ่ และดีมาก ทำให้บรรยากาศการขับรถค่อนข้างชิลล์ และที่สำคัญ ช่วงหน้าหนาว มีได้พบกับทะเลหมอกแน่นอน ไปกันค่ะ ไปกัน

    ถนนทางขึ้นอุทยานเขาใหญ่

    รับรองว่าหลายคนเคยไปเขาใหญ่แล้วแน่นอน แต่หลายคนไปรับบรรยากาศตีนเขาก็ได้อารมณ์แล้ว แต่สายลุยทั้งหลายต้องการเขาไปกางเต็นท์ในอุทยานเลย และการขึ้นอุทยานต้องผ่านด่านโค้งหลายโค้ง ซึ่งแคบและเล็กก็มี ทางริมหน้าผาก็มี และที่สำคัญที่สุดคือต้องระวังสัตว์ป่าทั้งหลายด้วย แต่ความโหดก็ยังไม่มาก ถ้าเทียบกับอีก 2 อันดับต่อไป

    โค้งปิ้งงู

    picture: pinterest

    แค่ชื่อก็บอกได้ว่ามันโค้งขนาดไหน โค้งปิ้งงูอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูพาน ที่ใครจะไปสกลนคร และเดินทางจากกาฬสินธุ์จะต้องผ่านเส้นทางนื้ ที่ได้ชื่อนี้เพราะภาพถ่ายมุมสูงทำให้เห็นเส้นทางยาวๆ คดเคี้ยวไปมาๆ หลายชั้น ซึ่งริมทางมีหลักกิโลเมตรยักษ์เป็นที่สังเกต ไม่รู้ตอนนี้มีใครไปนับโค้งหรือยังว่ามีกี่โค้ง แต่คงไม่โค้งเท่ากับอันดับสุดท้าย

    1864 โค้งขึ้นแม่ฮ่องสอน

    รับรองได้ว่าใครเคยไปแม่ฮ่องสอนโดยรถยนต์ จะต้องโม้ได้ว่าไปมาแล้ว เพราะทางขึ้นแม่ฮ่องสอนมีถึง 1864 โค้ง ไปกลับก็ 3728 โค้ง คนไปอำเภอปาย มันแค่ครึ่งทาง ยังไม่ได้ถ่ายรูปกับป้าย “ผู้พิชิต 1864 โค้ง” ที่วัดพระธาตุดอยกองมู รับรองได้ว่า แม่ฮ่องสอนมันเยี่ยมจริงๆ ถ้าไปถึง ซึ่งระหว่างทางจะผ่านทางคดเคี้ยวมากมาย ริมเขาก็มี ดงต้นไม้ใหญ่ก็เยอะ ผ่านหมู่บ้านชนเผาหลากหลาย วัดที่สวยแปลกตา และกับบรรยากาศของทะเลหมอกทอดยาว อย่างจุดชมวิวดอยแม่อูคอ เชื่อได้เลยประทับใจมากแน่ๆ

    รู้เรื่องรถ คลิกเลย

    สายลุย คลิกเลย