More

    10 สไตล์การตกแต่งบ้าน เอาแนวนี้จะได้บอกช่างถูก EP.2

    มาสะท้อนตัวตนของคุณผ่านการแต่งบ้านกันเถอะ หลังจากที่เราได้รู้จัก 10 สไตล์การแต่งบ้านยอดฮิต EP.1 กันไปแล้ว เรามาต่อในตอนที่ 2 กันดีกว่า Inzpy มี 10 สไตล์การตกแต่งบ้าน ในฉบับที่ใครหลายคนอาจยังไม่รู้จักมาบอก ไว้เป็นไอเดียแต่งบ้านในฝัน จะได้บอกช่างและนักออกแบบภายในให้เข้าใจตรงกันด้วยนะคะ

    10 สไตล์การแต่งบ้าน แนวบ้านสวย ๆ ที่ใครหลายคนยังไม่รู้

    สไตล์การแต่งบ้าน

    1. สไตล์คอทเทจ (Cottage Style) 

    นึกถึงบ้านน้อยในป่าใหญ่ในแบบฉบับยุโรป ผสมผสานกลิ่นอายคันทรี่ ดูอบอุ่น สวยงาม จะมีการผสมผสานเอาความเรียบง่าย สีสัน และความเป็นธรรมชาติที่ไม่สมบูรณ์พร้อมของวัสดุ อีกทั้งยังแฝงความหวานแบบวินเทจเข้าไปด้วย เหมาะสร้างเป็นบ้านพักตากอากาศ

    1. สไตล์รัสติก (Rustic Style) 

    สไตล์การตกแต่งบ้าน คล้ายบ้านชนบทอันแสนอบอุ่น เหมือนผสมสไตล์ลอฟท์+วินเทจ+คันทรี แม้จะเปลือยผิววัสดุใช้วัสดุจากธรรมชาติในการตกแต่งเป็นหลัก อย่างหิน ไม้ หรือเชือก หรือผ้า (โดย “หิน” วัสดุตกแต่งผนังอันดับต้น ๆ เลย) แต่ก็มีการตกแต่งให้ดูสวยงาม

    1. สไตล์ทรอปิคอล (Tropical Style) 

    สร้างบรรยากาศที่ปลอดโปร่ง โล่ง สบาย เลือกใช้วัสดุตกแต่งที่มีที่มาจากธรรมชาติ อาทิ ไม้ ไม้ไผ่ หวาย หรือ อิฐแดง ผ้าพิมพ์ลายใบไม้ใหญ่ ๆ สีที่นิยม เช่น สีส้ม สีครีม สีน้ำตาลอ่อน สีเขียว สีฟ้า เป็นต้น แต่ไม่ฉูดฉาดมาก ให้บ้านดูสดใสมีชีวิตชีวา สบายและผ่อนคลาย

    สไตล์การแต่งบ้าน

    1. สไตล์โคสตัล (Coastal Style) 

    สไตล์การตกแต่งบ้าน ฟีลชายหาด ใช้สีโทนเย็น เช่น สีฟ้า, ขาว, น้ำเงิน, เขียว ผสมกับสีเอิร์ธโทน ให้บรรยากาศที่สดชื่น เย็นสบาย แบบบ้านริมทะเล แต่งบ้านด้วยวัสดุจากธรรมชาติ เช่น โต๊ะไม้ เก้าอี้หวาย ภาพวาดของท้องทะเล เครื่องจักสาน เปลือกหอย เปลผ้า

    1. สไตล์เทรดดิชั่นนอล (Traditional design) 

    จุดเริ่มต้นจากยุโรป เป็น “สไตล์การตกแต่งบ้าน” แบบดั้งเดิมที่มี detail ค่อนข้างเยอะ หรูหรา ใช้สีที่สด แต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่มีความโอ่อ่า และของที่มีหลาย ๆ เนื้อสัมผัส เช่น เนื้อ กำมะหยี่ เนื้อผ้าไหม หรือ ผ้าปักดอก มีการเล่นความลึกเยอะเป็นเลเยอร์ เช่น ผ้าม่านหลุยส์

    สไตล์การตกแต่งบ้าน

    1. สไตล์อินดัสเทรียล (Industrial Style) 

    ไว้ตกแต่งบ้านหรือร้านค้าให้ดูแบบดิบ ๆ คล้ายกับโรงงาน โชว์ความงามของวัสดุ เหมือนยังทำไม่เสร็จ คล้ายกับสไตล์ลอฟท์ แต่ต่างกันตรงที่ลอฟท์มีความใหม่ของงานมากกว่า ส่วนอินดัสเทรียลจะมีความเก่ากว่า ส่วนของเหล็กจะลดน้อยลงและมีผนังปูนเก่ามากกว่า

    1. สไตล์มิดเซนจูรี่ โมเดิร์น (Mid-Century Modern Style) 

    คือสไตล์โมเดิร์นในระหว่างปี 1950-1960 ใช้รูปทรงเลขคณิตเป็นหลักเหมือนกัน รายละเอียดไม่เยอะ โล่ง ๆ ดูสว่างสะอาดตา เน้นประโยชน์ใช้สอยเหมือนกัน จะเชื่อมห้องด้วยกระจกบานใหญ่แทนพนังทึบ เน้นสีขาว น้ำตาล ดำ มีแทรกสีสดมาบ้างเพื่อไม่ให้ห้องจืดเกินไป

    สไตล์การตกแต่งบ้าน

    1. สไตล์เฟรนซ์ คันทรี (French country Style) 

    ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบ้านในฟาร์ม ให้ความอบอุ่น เป็นกันเอง โดยใช้เฟอร์นิเจอร์เก่าหน่อย ของสะสมแบบบ้าน ๆ สีขาวจะถูกใช้มากที่สุด นอกนั้นมักเป็นสีโทนร้อนที่อบอุ่น อย่างสีเหลืองอ่อนที่มาจากกองฟาง สีส้มอ่อนและสีทองจากแสงแดด สีเขียวอ่อนจากทุ่งหญ้า

    สไตล์การตกแต่งบ้าน

    1. สไตล์แชบบี้ชิค (Shabby chic Style) 

    รับแรงบันดาลใจจากแนววินเทจ เก่าแต่เก๋ ต่างตรงที่ แชบบี้ชิค จะมีความเป็นผู้หญิง อ่อนโยน และละเอียดอ่อน มีความหรูหรา อลังการ ของตกแต่งเยอะ

    สไตล์การแต่งบ้าน

    ส่วนมากใช้สีขาว สีครีม และสีโทนพาสเทล ดอกไม้ขาดไม่ได้เลย มีความสว่างและใช้แสงจากธรรมชาติเยอะ โรแมนติกเหมือนในนิยาย

    สไตล์การแต่งบ้าน

    1. สไตล์เรโทร (Retro Style)

    ย้อนยุคไปใน ค.ศ. 1920 ที่แฟชั่นเฟื่องฟู มีอิทธิพลวัฒนธรรมอเมริกา กลายเป็นบ้านสุดแนว เท่ได้แบบไม่มีวันเก่า แปลกตา จัดจ้าน และสนุกสนาน สีสันต้องเตะตา เช่น สีเหลือง เขียว ส้ม ผสานลวดลายกราฟิก โปสเตอร์ติดผนัง มิกซ์เฟอร์นิเจอร์หลายวัสดุ เช่น ผ้าบุ, ไม้ หรืออะลูมิเนียม ประดับไฟวาววับหลากสีสัน

    จบไปแล้วกับ “สไตล์การตกแต่งบ้าน” สุดเก๋ ที่ใครหลายคนเพิ่งรู้จัก แต่ยังมีสไตล์การแต่งบ้านยอดฮิตอีกนะ โดยอ่าน EP.1 ที่นี่ ได้เลยค่ะ ขอให้ทุกคนสนุกกับการแต่งบ้านนะคะ

    บทความน่าสนใจ

    ที่มา phichayacurtain.comkapook.com

    IAMMAI
    IAMMAI
    อย่าเรียกงก ให้เรียกระมัดระวังเรื่องการใช้จ่าย ยืนหนึ่งเรื่อง Property เพราะยืนคนเดียว ไม่มีใครยืนด้วย

    Related Post