More
    Home Blog Page 1074

    Puerto Princesa – Palawan ที่เที่ยว ฟิลิปปินส์ แบบ Local Style

    Puerto Princesa – Palawan ที่เที่ยว ฟิลิปปินส์ แบบ Local Style

    Puerto Princesa

    ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นประเทศที่มีหมู่เกาะเล็กๆ อยู่เยอะมาก ขึ้นชื่อในเรื่องของทะเล ที่สวยใส ติดอันดับโลกเลยก็ว่าได้ แต่ที่ฟิลิปปินส์ยังมีอีกมุมมองนึงที่น่าสนใจ ที่ Puerto Princesa บนเกาะ Palawan ทุกอย่างยังคงความเป็นธรรมชาติ ชนบทแบบ Local สุดๆ ที่อยากลองไปสัมผัสสักครั้ง

    Puerto Princesa

    ค่าเงินที่ ฟิลิปปินส์ เป็นค่าเงิน เปโซ ซึ่งคำนวณเป็นเงินไทย 1 เปโซ จะราวๆ 0.6 บาท ถือว่าค่อนข้างถูกพอสมควรค่ะ ค่าเงินถูกแบบนี้ ของใช้ และอาหารที่นี่ก็ถือราคาเบามากถ้าเทียบกับบ้านเรา โดยเฉพาะอาหารทะเล เก๋กู๊ดสุดๆ

    ที่ เปอร์โตพรินเซซา ยังคงความเป็นวิถีชนบทมากๆ แม้แต่อาคาร บ้านเรือน ร้านต่างๆ ขนาดถ่ายภาพออกมายังได้ฟิลเหมือนเราใช้ฟิลเตอร์ภาพฟิล์มแบบนั้นเลยค่ะ ดูเป็นวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ไม่ได้วุ่นวายมากนัก อาจจะเป็นเพราะเป็นเมืองเล็กๆบนเกาะ ที่น้อยคนจะรู้จัก

    Puerto Princesa

    การเดินทางของเราในครั้งนี้ ก็จะต้องนั่งเครื่องไปลงที่มะนิลาก่อน แล้วต่อเครื่องบินภายในประเทศมาลงที่ เปอร์โตพรินเซซา อีกที แล้วหลังจากนั้น การเดินทางของเราบนเกาะนี้ก็จะใช้เป็นรถสาธารณะ ที่คล้ายๆสามล้อบ้านเรา แต่เอามอเตอร์ไซต์มาทำเป็นรถพ่วง เริ่ดมั้ยล่ะคะ 555+ ขึ้นครั้งนึง ตกคนละประมาณไม่เกิน 10 บาท

    Puerto Princesa

    สำหรับร้านอาหารในเมืองนี้ ถือว่าค่อนข้างหาร้านดีๆยากอยู่นะคะ ถ้าที่เจอจากการเสิร์ชบน Google Map ก็จะมีร้าน Badjao Seafront Retaurant ร้านนี้แหละค่ะ ที่คิดว่าโอเคสุด ประตูทางเข้าไปในร้านล้อมรอบไปด้วยไม้ป่าโกงกาง ก็บ่งบอกได้ว่าที่นี่ ยังคงเป็นความธรรมชาติอยู่พอสมควรเลยค่ะ

    เมนูอาหารที่นี่ ถือว่าคล้ายกับบ้านเราอยู่บ้างนะคะ แต่จะเน้นไปในเรื่องของอาหารทะเลซะส่วนใหญ่ เพราะที่นี่หาง่ายกว่า หมู หมา กา ไก่ ก็คือ สัตว์ทะเลนี่แหละค่ะ แถมราคาไม่แรงด้วยนะคะ น้ำจิ้มซีฟู้ดที่นี่แปลกมาก คล้ายๆน้ำส้มสายชูหมัก หรือน้ำหมักเกลืออะไรสักอย่าง ซึ่งเราว่ารสชาดมัน ไม่ได้เลย 555+ เลยขอพริก มะนาว น้ำปลา มาปรุงเอง แต่ที่แปลกตาเห็นจะเป็นมะนาว เพราะมะนาวที่นี่คือ ส้มจี๊ด บ้านเราค่า มันเป็นความเปรี้ยวอมหวานไปอีก ก็เป็นเรื่องที่แปลกดี

    พีคสุดคือการไปเดินตลาดสดของที่นี่ค่ะ คุณพระ! ทูน่าตัวใหญ่ๆวางขายเต็มตลาด ขายเพียงราคากิโล 180เปโซ ตกราวๆกิโลละ 100 บาท โอ้โห อาซาบาลาเฮ่มาก 555+ ถูกจริงจัง นอกจากนี้ก็ยังมี กุ้ง หอย ปู ปลาแบบบิ๊กไซส์วางขายเต็มเลยค่ะ โอ้ยยย อยากซื้อส่งกลับบ้าน แต่กลัวจะเน่าก่อน

    อีกสิ่งหนึ่งที่รู้สึกว่า สะดุดตา เพราะเห็นเริ่มมีขายเยอะในบ้านเรา ก็คือสาหร่ายพวงองุ่นค่ะ เค้าวางใส่จานใหญ่ๆขายเพียง จานละ 100 เปโซ แล้วเม็ดมันใหญ่ พวงใหญ่มาก น่าซื้อไปทำยำสาหร่ายสุดๆ

    อ้อแล้วก็ตลาดที่นี่จริงๆมีมะนาว ที่เป็นมะนาวจริงๆขายนะคะ แต่ราคาค่อนข้างสูง น่าจะสูงกว่าราคามะนาวบ้านเราด้วยด้วยค่ะ ถ้าได้ไปรอบหน้าตั้งใจไว้ว่าจะพก มะนาว น้ำปลาไปเอง 555+

    Puerto Princesa

    มาถึงฟิลลิปปินส์ทั้งที จะขาดไม่ได้เลยคือการออกไปลงทะเล เพราะทะเลที่นี่วิวสวย น้ำใสเห็นตัวปลา ขึ้นชื่อจริงๆค่ะ ตอนที่มองเห็นวิวทะเลที่นี่ คือใสสะอาด สุดลูกหูลูกตา มันเป็นธรรมชาติที่ยังดูสดใหม่อยู่เลย นั่งกินลมชมวิว คือสดชื่นมาก รู้สึกปอดสะอาดสุดๆ และวันนี้ก็เป็นวันที่โชคดีของเราที่ฟ้าเปิด

    Puerto Princesa

    เรือของฟิลิปปินส์ อย่างเรือประมง เค้าจะมีความเป็นเอกลักษณ์ตรง ปีกข้างที่ทำยื่นออกมาค่ะ คือถ้าใครเห็นภาพที่มีเรือแบบนี้อยู่ก็อาจเดาได้ไม่ยาก ว่าที่นั่นคือ ฟิลิปปินส์ การนั่งเรือแบบนี้ถือว่าโอเคค่ะ ไม่ค่อยรู้สึกโครงเครง ชิลๆสบายๆ ดีต่อใจสุดๆไปเลยแกร

    รู้สึกพลาดมาก ที่ตอนนั้น Gopro ยังใช้ไม่ค่อยเป็น ก็ถ่ายได้บ้างไม่ได้บ้าง ซึ่งที่เห็นอยู่นี้จะเป็นเกาะ Star Fish ตามชื่อเลยค่ะ ก็จะมีปลาดาว นอนเรียงรายอยู่ใกล้ๆหาด สามารถยืนดูได้เลย เพราะน้ำใสมาก ก.ไก่ล้านตัว แค่ดำ Snokeling ก็แฮปปี้มากแล้วค่ะ

    ที่นี่เค้าขายอาหารทะเลสดๆเป็นเรื่องปกติมากเลยค่ะ อย่างหอยเม่นนี้ก็จะมีให้เราเลือกเป็นตัวๆ เสร็จแล้วคนขายก็จะทำการตัดหนาม และผ่าให้เรากินสดๆ กับน้ำจิ้มซีฟู้ดหมัก ที่รสชาดไม่ได้เลย 555+ หอยเม่นถึงหน้าตาจะดูไม่เหมือนตามร้านอาหารญี่ปุ่นที่หลายคนไปทานสักเท่าไหร่นะคะ แต่รสชาดคือได้เลย คือโอเคมาก และราคาไม่แพงด้วย

    ตอนเย็นหลังจากกลับมาจากร่องเรือไปดำน้ำแล้ว เราก็เดินหาร้านอาหารกัน จริงๆร้านอาหารที่นี่เมนูค่อนข้างจะเหมือนกันแทบทุกร้าน อยู่ที่ว่าอยากเลือกนั่งร้านที่มีบรรยากาศแบบไหนเท่านั้นเองค่ะ และจะบอกว่าที่นี่ยังมีเมนูทีเด็ดอีกหนึ่งอย่าง ที่ไหนๆมาแล้วก็ขอลองสักครั้ง

    Puerto Princesa

    มันคือ หนอน ค่ะ ใช่ค่ะ อ่านไม่ผิด หนอนจริงๆ ตัวยาวๆใหญ่พอสมควร หลังจากได้งับไปนิดนึง ฟิลมันคล้ายกับหนวดปลาหมึก ข้างนอกจะกรุบๆ แต่ข้างในจะน้ำๆหน่อย ถามว่ากินต่อมั้ย ก็ไม่นะ 555+ คำเดียวรู้เรื่อง! แต่อย่างน้อยก็ถือว่าได้ลองแล้ว

    ถ้าใครอยากมาลองสัมผัสวิถีชาวเกาะ แบบชนบท Local สุดๆ ต้องลองมาที่ เปอร์โตพรินเซซา บนเกาะปาลาวันค่ะ มันคนละฟิลกับไปเที่ยวทะเลใต้บ้านเรา และของที่นี่ราคาไม่แพง ได้มาเห็นบรรยากาศใหม่ ในการใช้ชีวิตเรียบง่ายอีกมุมนึง เราอยู่ที่นี่ แทบจะไม่ได้จับมือถือเลยค่ะ รู้สึกว่า มีอะไรน่าสนใจมากมายที่ควรไปให้ได้สักครั้งในชีวิต

     

    5 Beach Club บรรยากาศสุดเจ๋ง สำหรับคนชอบปาร์ตี้ ไม่ควรพลาด คลิกเลย

     

    ทดลองกินดื่ม แนววิทยาศาสตร์ ในโรงงานยาเก่า Beaker and Bitter

    เปิดให้นั่งกินดื่มที่ร้าน มาได้ไม่เท่าไหร่ หลายคาเฟ่เต็มไปด้วยผู้คนที่เข้าไปด้วยความอัดอั้น จากการอยู่แต่บ้าน Beaker and Bitter คือตอบโจทย์

    คาเฟ่แห่งนี้ก็เช่นกันที่ได้รับความนิยมจากกลุ่ม Cafehopper เพียงแต่สิ่งที่ต่างออกไปคือ ภายในเงียบ และที่นั่งเพียบ พร้อมตอบโจทย์คนที่ชอบนั่งทำงานในคาเฟ่

    Beaker and Bitter คาเฟ่ที่นำพื้นที่โรงงานยาอายุกว่า 50 ปี มาปรับเปลี่ยนให้เป็นคาเฟ่สุดเก๋ ด้วยฝีมือของคนในครอบครัวบิ้วด์ภีมณพัชญ์ ธนชาญวิศิษฐ์บวกกับดีไซน์สุดครีเอทีฟจากเคนนี่เขม อินทรรักษ์ผู้รังสรรค์ธีมสุดเก๋ของร้านนี้

    คาเฟ่สไตล์ห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์แห่งนี้ ให้ความรู้สึกย้อนวัยไปสมัยที่มัธยมช่วงคาบเรียนวิทยาศาสตร์ เข้าห้องแล็บ พร้อมกับหยิบบีกเกอร์ และหลอดทดลองต่าง ๆ มานั่งพิสูจน์หลักการทางวิทย์ฯ ต่าง ๆ มากมาย หลายต่อหลายครั้ง แต่วันนี้ กับคาเฟ่แห่งนี้ เราได้ใช้อุปกรณ์เหล่านั้นมาเป็นภาชนะในการใส่เครื่องดื่มของทางร้าน เหมือนจำลองเหตุการณ์ในวัยเด็กกลับมาอีกครั้ง ซึ่งกล้าพูดเลยว่า ยังไม่มีคาเฟ่แห่งไหนนำไอเดียเหล่านี้มาใช้ และเป็นธีมหลักของร้านที่น่าสนใจขนาดนี้

    ด้วยความที่คาเฟ่แห่งนี้เป็นโรงงานยามาก่อน ทำให้กลิ่นไอของความเป็นห้องทดลองชัดเจน แบบไม่ต้องแต่งเติมอะไรมาก ทุกมุมภายในร้าน สามารถบอกเล่าเรื่องราวความเป็นโรงงานยาได้อย่างดี ทำให้ลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาสนุกสนาน ไปกับกิมมิกที่ทางร้านเตรียมไว้ให้ ทั้งการหยิบเสื้อกาวน์ แว่นตา เครื่องฟังเสียงหัวใจ มาสวมใส่เพื่อถ่ายรูปได้ ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าได้สนุกมากยิ่งขึ้น 

    นอกจากนี้เจ้าของร้านยังคิดธีมมาให้ลูกค้าได้ร่วมสนุกมากยิ่งขึ้น กับกิจกรรมหาหนูทดลองที่หายไป ที่สนุกกันทั้งฝ่ายพนักงานที่เป็นคนหาที่ซ่อนทุกเช้า และฝ่ายลูกค้าที่แทบจะพลิกร้านหาว่าหนูทดลองหายไปซ่อนที่ไหน ถ้าใครหาหนูทดลองเจอและนำมาคืนจะได้รับเครื่องดื่มฟรีหนึ่งแก้วเป็นของตอบแทน

    เมนูเครื่องดื่ม และเบเกอร์รี่ของที่นี่น่าสนใจตั้งแต่ชื่อเมนู ไปจนการจัดเสิร์ฟให้กับลูกค้า นอกจากนี้ อีกสิ่งที่น่าประทับใจนั่นก็คือสิ่งที่เห็นว่าเป็นพลาสติกในร้านอย่างแก้ว ฝา หลอด นั้นเป็นพลาสติกแบบ Biodegradable ทั้งหมด แม้แต่ถุงขยะที่ลูกค้ามองไม่เห็นก็เป็นพลาสติกแบบ Biodegradable เช่นกัน ด้วยความตั้งใจของทางร้านที่อยากจะรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน

    ซึ่งช่วงสถานการณ์โควิดตอนนี้ ทางร้านเปิดให้บริการตามปกติ สามารถนั่งทำงานในส่วน Alpha Lab ได้ มีที่กั้นระหว่างโต๊ะ หรือจะสั่งเดลิเวอรีก็ได้เช่นกัน เมนูที่อยากแนะนำคือ

     Black and White

    R.I.P Black Coffee

    Peach Tea
    Lemon Tart Meringue

    Beaker and Bitter ตั้งอยู่ที่ซอยสายลม 1 สามเสนใน พญาไท กรุงเทพฯ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 – 20.00 . 

    Z1mplex Mixology Laboratory คลิกเลย

    ท่องไปใน นิยาย คาเฟ่ บรรยากาศ ชวนฝัน แบบ เทพนิยาย

    วันนี้อยากจะ Heal ตัวเองด้วยการพักผ่อน จิบกาแฟดี ๆ กับเบเกอรี่อร่อย ๆ ในกรุง ท่ามกลางบรรยากาศสวนสวย ให้ได้รู้สึกผ่อนคลายหลังจากการทำงานอันเหนื่อยล้ามาหลายเดือน เราเลยขอพาทุกคนมาสัมผัสกับบรรยากาศดี ๆ เสมือนอยู่ในนิยายไปด้วยกัน

    บรรยากาศสวนภายนอก

    นิ ย า ยคาเฟ่สวนสวย ดีไซน์ชวนฝัน คือที่แรกที่เรานึกถึง หลังจากคลายล็อคดาวน์ และสามารถนั่งทานอาหารเครื่องดื่มในร้านได้ 

    สไตล์การออกแบบ

    นิยาย คือคาเฟ่สวยสวยย่านตลิ่งชัน ถูกออกแบบมาให้มีสไตล์แบบอิงลิชคอทเทจ ทำให้มีบรรยากาศแบบชวนฝันราวกับท่องเข้าไปในเทพนิยาย 

     ภายในร้าน

    ภายในโอบล้อมด้วยธรรมชาติ ทั้งสีเขียวของต้นไม้ และสีสันจากไม้ดอกนานาพันธุ์ พร้อมกับโรงเรือนกระจกที่รายล้อมไปด้วยแคคตัส และไม้ใบที่กำลังได้รับการนิยมปลูกกันอยู่ตอนนี้ ทำให้กลายเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มของคอกาแฟ และสายคาเฟ่

     มุมมองภายนอก

    ซึ่งนอกจากการดีไซน์สวนสวยของเขาจะน่าสนใจแล้ว เรื่องของอาหาร และเครื่องดื่มก็มีความสวยงาม และรสชาติดีไม่แพ้กัน วันนี้เราลองสั่งเครื่องดื่มมาสองแบบ เริ่มต้นจาก 

     Espresso Mandarin

    กาแฟเอสเพรสโซ่ช็อต พร้อมกับน้ำส้มสด มีเกล็ดส้มเจือหน่อย ๆ ได้ความสดชื่นของน้ำส้มแท้ ๆ ผสมกับความเข้มข้นของกาแฟ เป็นเมนูเครื่องดื่มที่ช่วยเติมเต็มวันนั้น ๆ ได้อย่างดี

    Matcha

    สำหรับสายชาเขียว ขอแนะนำให้ลิ้มรสความเข้มข้นของเมนูนี้ มีให้เลือกทั้งร้อน เย็น และปั่น ชอบแบบไหน รับความเข้มข้นไปเท่า ๆ กัน หอมทั้งกลิ่นชาเขียวเข้มๆ และกลิ่นของนมสด พร้อมความหวานมัน

    ของหวาน

    พร้อมเลือกขนมเค้กมาทานคู่กับเครื่องดื่ม เป็น Macadamia Cake เป็นเนื้อเค้กช้อกโกแลตเนื้อเค้กนุ่ม ๆ ราดด้วยซอสคาราเมล ที่ท็อปด้วยแมคคาเดเมีย ทานคู่กับเครื่องดื่มได้ทุกรูปแบบ 

    อาหารคาว หวานเพิ่มเติม

    ส่วนเมนูอาหารอื่น ๆ นั้นมีให้เลือกอีกมากมาย ทั้งข้าวราดสไตล์อาหารไทย สลัด สำหรับคนรักสุขภาพ สปาเก็ตตี้แบบอิตาเลียน หรือของว่างทานเล่น เช่น โรตีแกงเขียวหวานไก่ ปีกไก่ทอด ฯลฯ ให้คุณได้เลือกทานกัน

    นิ ย า ยตั้งอยู่บนถนนทุ่งมังกร ซอยทุ่งมังกร 8 ตลิ่งชัน กรุงเทพฯ

    มีที่จอดรถกว้างขวาง พร้อมเปิดให้ท่องไปในดินแดนสวนสวยทุกวัน จันทร์ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.30 – 19.00 เสาร์อาทิตย์ เวลา 9.00 – 18.30 และหยุดทุกวันพุธ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 063-443-1961

    The Barn Brasserie คลิกเลย

    5 เก้าอี้สุดปัง! ดีไซน์เด่นเหนือกาลเวลา

    5 เก้าอี้สุดปัง! ดีไซน์เด่นเหนือกาลเวลา

    ทำความรู้จักกับเหล่าเก้าอี้สุดปัง ที่แม้ออกแบบมาแล้วเนิ่นนาน แต่ปัจจุบันก็ยังโด่งดัง เป็นที่นิยมมิเสื่อมคลาย บางไอเทมมีการปรับสี/เปลี่ยนวัสดุใหม่ให้เข้ากับยุคสมัย และการตกแต่งอันหลากหลายแถมทั้งหมดเคยถูกนำไปอวดโฉมประกอบฉากภาพยนตร์และรายการต่างๆ เพียบ! ที่สำคัญแต่ละชิ้นยังเป็นผลิตผลทางความคิดของเหล่าดีไซเนอร์หัวกะทิระดับโลกอีกด้วย 

    5 เก้าอี้
    Cr. Photo : einrichten-design.com

    LC2

    ผลงานคิดนอกกรอบไม่เหมือนใครของ Le Corbusier สถาปนิกชาวฝรั่งเศส-สวิส ที่นำโครงสร้างเฟรมเหล็กด้านในมาไว้ด้านนอก! ส่วนของที่นั่งบุด้วยวัสดุโพลียูรีเธนและเส้นใยธรรมชาติที่มอบสัมผัสนุ่ม พร้อมกับหุ้มตรึงด้วยเครื่องหนังสีดำสุดเท่ จนขึ้นแท่นเป็นงานดีไซน์ไอคอนอันโด่งดังในปี 1929 ต่อมาในปี 1964 แบรนด์ Cassina ได้รับสิทธิ์ในการผลิต ก่อนปัจจุบันจะออกแบบให้มีสีสันละลานตา ตอบโจทย์การตกแต่งห้องหับได้หลากหลายยิ่งขึ้น (ดูสินค้าได้ที่ Euro Creations )

    5 เก้าอี้
    Cr. Photo : einrichten-design.com

    Armchair Serie Up

    นับเป็นงานโมเดิร์นสุดจี๊ด ที่ดูแหวกแนวในปี 1969 ซึ่งรังสรรค์โดย Gaetano Pesce สถาปนิกชาวอิตาลีหัวอาร์ติสท์ ที่หยิบนำเรือนร่างของสตรีเพศผู้ถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวน มาออกแบบเป็นรูปทรงได้เก๋ไก๋ สะท้อนสัญลักษณ์เชิงศิลปะ แทนความเลื่อมล้ำระหว่างหญิงและชายได้แบบไม่ซ้ำทางใคร เป็นทั้งของใช้และของโชว์ ที่แม้วางตั้งไว้เฉยๆ ก็ดูเท่ ทรงพลัง ราวกับชิ้นงานประติมากรรมสุดล้ำค่าในบ้านทีเดียว (ดูสินค้าได้ที่ B&B ITALIA STORE BANGKOK)

    5 เก้าอี้
    Cr. Photo : einrichten-design.co.uk

    Eames Lounge Chair and Ottoman

    ผลิตผลสุดปังของคู่รักนักออกแบบระดับโลกอย่าง Charles และ Ray Eames ซึ่งถูกผลิตขึ้นในปี 1956 โดยเริ่มต้นมาจากทั้งคู่ทำขึ้นเพื่อมอบเป็นของขวัญให้แก่ Billy Wilder ผู้กำกับภาพยนตร์ ผู้เป็นเพื่อนเกลอของพวกเขา ก่อนจะถูกตีแผ่ในรายการ Arlene Francis Home Show (ช่อง NBC) จนโด่งดังในที่สุด และด้วยความที่มีดีไซน์คลาสสิกแกมหรูหรา แถมนั่งสบาย จึงทำให้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผลงานศิลปะถาวร ที่ถูกจัดแสดงขึ้นในพิพิธภัณฑ์ Museum of Modern Art ณ กรุงนิวยอร์กนั่นเอง (ดูสินค้าได้ที่ Chanintr)

    5 เก้าอี้
    Cr. Photo : zorrobot.de

    RED AND BLUE CHAIR

    เก้าอี้ในตำนานของ Gerrit Thomas Rietveld สถาปนิกชาวดัทช์ ที่แหกกฎการออกแบบ โดยนำภาพกราฟฟิค ของศิลปินชื่อดังอย่าง Piet Mondrian และ Theo van Doesburg มาเป็นแรงดลใจในการดีไซน์ จนขึ้นแท่นเป็นงานคลาสสิคที่ยืนหยัดมาจนถึงปัจจุบัน โดยความเท่ของมันคือการนำสีดำมาผสานเข้ากับสีแดง น้ำเงิน เหลืองได้อาร์ต… และโดดเด่น แถมวัสดุไม้บีชและไม้อัดที่นำมาถ่ายทอดยังเชื่อมต่อกันได้เท่แบบไร้เดือยและข้อต่อ (ดูสินค้าได้ที่ Euro Creations )

    5 เก้าอี้
    Cr. Photo : fritzhansen.com

    Egg Chair

    ไอเทมสุดฮ็อตในปี 1958 ออกแบบเน้นรูปทรงที่โอบรับสรีระท่านั่งอันแสนสบาย โดย Arne Jacobson นักออกแบบชาวเดนมาร์ก ซึ่งรูปทรงเริ่มต้นมาจากการปั้นดินเหนียวเพื่อสร้างงานประติมากรรม รวมถึงทางดีไซเนอร์ได้นำแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจาก Womb Chair ของ Eero Saarinens แต่ดัน… กลับโด่งดังกว่าซะอย่างนั้น โดยเริ่มเป็นที่ประจักษ์ในความงามมากขึ้น ตอนที่นำไปจัดวาง ณ ล็อบบี้โรงแรม Royal กรุงโคเปนเฮเกนนั่นเอง ปัจจุบัน Egg Chair ยังเป็นเก้าอี้ที่ถูกนำไปก๊อปปี้กันเยอะมาก…  (ดูสินค้าได้ที่ The House no.14/1)

    บทความน่าสนใจ : Pakkret House บ้านท้าแดดสุดเท่ ยืนตัวเด่นหรา… ได้อย่างมีกึ๋น

    กัญชาเมดอินเยอรมนี เขาใช้ทำอะไรบ้างน้าา

    กัญชาในบ้านเราปลดล็อกได้ไม่นาน ก่อนโควิดระบาดแค่แป๊บเดียว ในเยอรมนีเองก็ไม่ได้เสรีกว่าบ้านเราเท่าไร และเพิ่งมีการอนุญาตให้จำหน่ายผลิตภัณฑ์กัญชาเพื่อการรักษาทางการแพทย์เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมานี่เอง โดยมีผลิตภัณฑ์กัญชาล็อตแรกที่เมดอินเยอรมนี มาจากเมือง Neumunster ทางเหนือของประเทศ

    กัญชา
    Picture: themayor.eu

    ความเชี่ยวชาญในการปลูกเลยต้องอาศัยบริษัทจากแคนาดา ที่เป็นแดนกัญชาเสรีและมีการทำวิจัยเรื่องการปลูกกัญชาอย่างกว้างขวางเข้ามาช่วย ภายใต้การรักษาความปลอดภัยของไร่กัญชาระดับสูง ก่อนจะมีบริษัทผู้กระจายสินค้ารับหน้าที่กระจายสินค้าอีกที การกระจายสินค้านี้ก็ไม่ใช่ว่ากระจายไปทั่วนะ เพราะผลิตภัณฑ์ที่ได้ส่วนใหญ่เพื่อการรักษาผู้ป่วยเป็นหลัก กัญชาที่ผลิตภัณฑ์ได้ในเยอรมนี จึงผลิตเป็นยาล้วน ๆ โดยปัจจุบันมีการจำหน่ายในร้านขายยาเพียง 2,000-2,500 ร้านกระจายทั่วประเทศเยอรมนี จากจำนวนร้านขายขาที่มีจำนวน 19,000 ร้าน แสดงว่าร้านไหนจะจำหน่ายยาจากกัญชาได้ต้องได้รับอนุญาตเท่านั้น

    มีผู้ป่วยในเยอรมนีที่ได้รับอนุญาตให้ยาสินค้าจากกัญชาปัจจุบันมีจำนวนมากกว่า 90,000 ราย ซึ่งทำให้กัญชาที่ถูกปลูกในเยอรมนี ณ ตอนนี้ราว 10 ตันต่อปี ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการเท่าไร เพราะกัญชาจริง ๆ ก็เป็นพืชเกษตร ที่มีปัญหาด้านการเก็บเกี่ยวไม่ต่างจากพืชอื่น ๆ และมีการเน่าเสียบ้าง

    แต่ถึงกระนั้น สถานะของเยอรมนีตอนนี้ในเรื่องกัญชาก็แทบจะถือว่าเป็นศูนย์กลางหนึ่งในยุโรป จากการนำกัญชามาผลิตยาเพียงอย่างเดียว แต่ปัจจุบันก็ยังถือว่าไม่เพียงพอกับความต้องการในประเทศ ทำให้ต้องมีการนำเข้าสินค้าเข้ามาเรื่อย ๆ แต่ด้วยมาตรฐานเยอรมนีแพทย์มักจะเลือกสั่งสินค้าที่เมดอินเยอรมนีเป็นหลัก ทำให้บริษัทผู้ปลูกวางแผนกำลังจะเพิ่มกำลังการผลิตในอนาคต

    กัญชา
    Picture: independent.co.uk

    สรุปแล้วการใช้กัญชาในเยอรมนี แม้จะมีการปลดล็อกแต่การใช้งานก็เพื่อเป็นยา สำหรับการรักษาผู้ป่วยเท่านั้น และเป็นการใช้จากดอกกัญชาที่ให้สารออกฤทธิ์ที่มีอยู่ในกัญชาสูง แตกต่างจากบ้านเราโดยสิ้นเชิงที่ปลดล็อกเกือบทุกส่วนของต้นกัญชาแต่ไม่ปลดล็อกในส่วนของดอก ทำให้มีการนำไปใช้งานและนำไปผลิตสินค้าที่หลากหลายกว่ามาก

    อ่านบทความอื่น ๆ

    สมุนไพรใกล้ตัว ต้านหวัด สร้างภูมิคุ้มกัน

    ผักอบกรอบ All-kill ฆ่าทุกของกินเล่น

    5 Beach Club บรรยากาศสุดเจ๋ง สำหรับคนชอบปาร์ตี้ ไม่ควรพลาด

    สำหรับสายปาร์ตี้ทั้งหลายไม่ควรพาดกับสถานที่ต่อไปนี้ Beach Club สุดเจ๋ง ที่ทั้งคูลล์ และ มันส์ กันได้ตลอด ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน ได้สนุกสุดเหวี่ยงกันแน่ เริ่มจากสถานที่ใกล้กรุงเทพฯ อย่างพัทยากันเลย

    Cave Beach Club

    เป็นบีชคลับ ที่นั่งชิลล์ได้ตั้งแต่กลางวัน บรรยากาศ สุดเจ๋ง มาก เพราะที่นี่ทำเหมือนกระโจงอินเดียแดง เป็นเต้นท์ ใหญ่มาก และ มีที่นั่งหลากหลายสไตล์ บางมุมตกแต่ด้วยกระดานเซิร์ฟ ไว้ด้านบน ถ้าใครขับรถมา คือไม่ได้เดินมาจากหน้าหาด ก็จะได้มุมถ่ายรูปกับกระดานโต้คลื่นสวย ๆ อีก พอตกเย็นก็จะได้ยินเสียงเพลงเริ่มดังขึ้น เร้าอารมณ์ได้ดี

    พิกัด: cave beach club

    facebook: cave beach club

     Nikki Beach Club

    ค่อย ๆ ปรับ volumn เพิ่มขึ้นอีกหน่อย และข้ามมาถึงเกาะสมุยกันที่ นิกกี้ บีช คลับ ที่มีเมนูหลากหลายสไตล์ ให้ได้ลิ้มลอง ส่วนเรื่องปาร์ตี้ ที่นี่จะมีเป็นช่วงโอกาสพิเศษที่เข้ามาตลอด ส่วนปกติก็จะนั่ง ๆ นอน ๆ ริมทะเลกันไป ใครอยากกระโดดลงสระก็ลงเลยค่ะ

    พิกัด: Nikki beach club

    facebook: Nikki beach club

    Ark Bar Beach Club
    picture: pinteresst

    ยังคงอยู่กันที่เกาะสมุยกันค่ะ คลับนี้จะอยู่ที่หาดเฉวง หาดสุดฮิตบนเกาะ สำหรับสายปาร์ตี้ต้องห้ามพลาด เพราะยามค่ำ จะมี DJ แวะเวียนมาเปิดแผ่นกันให้กระหึ่มหาดกันเลยทีเดียว ที่ Ark Bar นี้แต่งได้อารมณ์เหมือน FINN ที่เกาะบาหลีเลย ไม่ไหวแล้ว อยากเปียก อยากเต้น

    พิกัด: Ark Bar Beach Club 

    instagram: Ark Bar Beach Club

    Kudo Beach Club

    เราข้ามมาเกาะภูเก็ตกันบ้าง สำหรับสายปาร์ตี้ hard core ต้องที่นี่เลย Kudo Beach Club ไม่ต้องเรียกน้ำย่อยกันล่ะ ที่นี่เปิดขวดแข่งกันเลยทีเดียว มีจัดงานแทบทุกวัน ใครสายแข็งเชิญมาทางนี้ สำหรับคลับนี้จะอยู่สุดหาดป่าตอง เลยขึ้นมาทางหาดกะหลิม ช่วงเย็น ๆ ถ่ายรูปสวยมาก เป็นหากที่ยังคงน่าสนใจอยู่

    พิกัด: Kudo beach club

    instagram: kudo beach club

    Cafe Del Mar

    คลับที่เริด หรู อลังการณ์งานสร้างมาก หากใครหลงรัก Ibiza หรือเคยไปเยือน คุณนั้นไม่ต้องไปไกลถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน แล้ว Cafe Del Mar ได้มาเปิดที่เมืองไทย ที่หาดกมาลา อย่างยิ่งใหญ่ อลังการ มาก ห้องอาหารที่นี่ใหญ่โตมาก เตรียมพร้อมรับกับงานใหญ่ ๆ ได้เลย มีมุมถ่ายรูปตั้งแต่ทางเข้าที่ติดถนน ไปจนถึงหาดเลย

    พิกัด: cafe del mar phuket

    instagram: cafe del mar phuket

    Z1mplex Mixology Laboratory คลิกเลย

    เปิดตัวใหม่ Gopro Hero 10 Black 2021 มีวางจำหน่ายแล้ว

    เปิดตัวใหม่ Gopro Hero 10 Black สำหรับสาย Vlog สาย Adventure

    Gopro Hero 10 Black

    กล้องสาย Activities คงหนีไม่พ้น Gopro ซึ่งตอนนี้ได้เปิดตัวใหม่ Gopro Hero 10 Black ที่วางจำหน่ายไปเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา มาพร้อมกับความละเอียดกล้องเพิ่มขึ้น และจอด้านหน้าที่ให้เห็นรายละเอียดการจับภาพของคุณเองระหว่าง Selfie ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะเจ๋งขนาดไหน ติดตามชมกันเลยค่ะ

    Gopro Hero 10 Black

    กล้อง Action Camera ตัวใหม่ล่าสุด 2021 ของ Gopro ยังคงความเป็นดีไซน์เดิมเหมือนตัว Gopro 9 แต่เปลี่ยนสีของโลโก้บนตัวกล้องใหม่ให้เป็นสีฟ้า ดูโดดเด่นสวยงามมากยิ่งขึ้น นอกนั้นดีไซน์ด้านนอกแทบจะไม่แตกต่างกันเลยค่ะ

    ขนาดหน้าจอด้านหลังความกว้าง 2.27”

    ส่วนจอด้านหน้าขนาด 1.4”

    Black มีอะไรใหม่บ้าง?

    • โกโปร ฮีโร่ 10 นั้น มาพร้อมกับชิป ตัวใหม่ เป็นแบบ GP2 Processor เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของตัวกล้องมีความเร็ว และแรงมากขึ้น
    • การถ่ายโหมดวิดีโอ สามารถถ่ายไฟล์ได้ขนาดใหญ่สุดที่ 5.3K 60FPS และถ่าย 4K 120FPS ถือว่าได้ภาพที่คมชัดมากขึ้น และนำไปปรับ Slowmotion ได้แบบสมู้ทสุดๆไปเลยล่ะค่ะ
    • ตัวกันสั่นของ โกโปร ฮีโร่ 10 เป็นแบบ Hyper Smooth 4.0 ซึ่งกันสั่นได้ดีมากๆ กว่ากล้อง Action Camera ตัวอื่นๆที่เคยมีมา ปรับเส้นขอบฟ้าให้เอียงได้มากกว่าเดิม จาก 27 องศา เป็น 45 องศา
    • สามารถกันน้ำลึกได้ในระดับ 10 เมตร แบบไม่ต้องใช้ housing ได้ทนทานมากยิ่งขึ้น
    การถ่ายภาพนิ่ง

    ความละเอียดในการถ่ายภาพนิ่งได้สมจริง ในความละเอียดที่ 23.6 ล้านพิกเซล ได้ภาพที่คมชัด และเก็บรายละเอียดภาพได้ดียิ่งขึ้น แม้ในที่แสงน้อย จัดเก็บภาพเป็นแบบไฟล์ Raw ได้ ดูจากภาพที่ทาง Gopro Preview มันสวยมากจริงๆค่ะ

    การถ่ายวิดีโอ

    สำหรับการถ่ายวิดีโอ ความละเอียดสูงสุด 19.6 ล้านพิกเซล ให้ขนาดไฟล์ที่ใหญ่สุดในระดับ 5.3K  ใหญ่มากแม่ ใหญ่ไปไหน ลงโปรแกรมตัดต่อคือเครื่องค้างแน่ๆ 55+

    • ความละเอียดวิดีโอสูงสุด 5.3K ที่ 60FPS
    • ความละเอียดวิดีโอ 4K ที่ 120FPS
    • และความละเอียดวิดีโอ 2.7K ที่ 240FPS
    ระบบกันสั่น

    ตัวระบบกันสั่นแบบ Hyper Smooth 4.0 ที่พัฒนามาใหม่ในตัว Gopro Hero 10 Black จะบอกว่ากันสั่นได้ดีเวอร์เกินไป 555+ ถ้าไปถ่าย Activities ที่ดูสะเทือน หรือดูน่าตื่นเต้น มันนิ่งจนทำให้ความตื่นเต้นนั้นหายไปเยอะมากเลยค่ะ

    การถ่าย Slow-Motion

    สามารถถ่าย Slo-Mo หรือ Slow Motion ได้ช้าสุด 8 เท่า หรืออยู่ที่ 240เฟรมต่อวินาที ได้วิดีโอแบบสมู้ทสุดๆ ไม่มีสะดุด ถ้าอยากได้ช้ากว่านี้ ก็ดูเป็นแบบภาพนิ่งแล้วแหละค่ะ 555+

    การถ่าย Timelapse

    ส่วน Timelapse ก็ไม่ธรรมดา สามารถตั้งเวลาถ่าย Timelapse ได้ด้วย และสามารถถ่ายได้ดีแม้ในขณะที่ช่วงแสงน้อย อย่างตอนกลางคืนถือว่าเป็นกล้องที่ จิ๋วแต่แจ๋ว ตัวจริงค่ะ

    การ Live Stream

    Gopro Hero 10 Black

    สำหรับการ Live Stream ผ่านกล้อง Gopro Hero 10 สามารถตั้งได้ในระดับ 1080p พร้อมกับเปิดใช้ตัว Hyper Smooth 4.0 หรือตัวกันสั่นได้

    การถ่ายภาพใต้น้ำ

    การถ่ายภาพใต้น้ำ สามารถนำกล้องลงถ่ายภาพใต้น้ำได้แบบไม่ต้องใส่ housing ในระดับความลึกที่ 10 เมตร (แต่จริงๆตัวนี้ก็จะเหมือนโกโปรรุ่นก่อนๆที่เคยทำมา) แต่ว่าอาจจะทนขึ้นจากรุ่นก่อนๆ

    เท่านั้นยังไม่พอค่ะ ในส่วนของตัวหน้าเลนส์ เค้ายังเปลี่ยนวัสดุให้น้ำเกาะหน้าเบนส์ได้น้อยลง ก็คือหากนำ Gopro ไปถ่ายในที่มีน้ำแล้วกระเด็นโดนหน้าเลนส์ หรือกำลังขึ้นจากน้ำ จะลดการเกาะตัวของน้ำบนกระจกเลนส์ได้ดีขึ้นค่ะ

    การเชื่อมต่อ เพื่อ Upload ไฟล์

    *เพิ่มตัว upload ใหม่บนระบบ Cloud แบบอัติโนมัติ ผ่าน Quik App (ซึ่งมีค่าสมัครแบบรายเดือนอยู่ที่ 59บาทต่อเดือน หรือเลือกชำระแบบรายปีในราคา 329 บาท)

    • เชื่อมต่อ และ upload ภาพลง มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ได้อย่างง่าย ด้วย Wireless ผ่าน Quik App แต่เร็วกว่าเดิม 30%
    • และ การเชื่อมต่อ สามารถ Upload file ได้อย่างรวดเร็วการเชื่อมต่อด้วยสาย USB
    แบตเตอรี่

    ตัวแบตเตอรี่ สามารถถอดออกมาชาร์จได้ โดยมีความจุอยู่ที่ 1,720mAh

    ใช้เมมแบบ Micro SD Card

    อุปกรณ์เสริมที่ใช่ร่วมกับ Gopro Hero 10

    Max Lens Mod
    เลนส์ที่ช่วยเพิ่มมุมมองของภาพให้กว้างขึ้นกว่าเลนส์ปกติ อีก 155 องศา และ Max Superview สำหรับโหมดมาตรฐาน 16:9 ถ่ายได้ในมุมมองที่กว้างขึ้นเมื่อมีการเปิดโหมดกันสั่น

    Media Mod
    อุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อ กับการใช้งานอุปกรณ์เสริมอื่นๆได้ง่ายขึ้น คล้ายๆกับเคสที่มีไมโครโฟนในตัว มีช่องต่อ Micro-HDMI ที่สามารถต่อเข้ากับอุปกรณ์อื่นๆได้ มีพอร์ต Type-C ที่สามารถชาร์จแบตได้ โดยไม่ต้องถอดแบตออกมาชาร์จ และมีช่องสำหรับอุปกรณ์เสริม 2 ช่อง เช่น  ช่องต่อไมโครโฟนแยก

    Display Mod
    ถึงแม้ว่าตัว Gopro จะมีกล้องหน้าไว้สำหรับมองภาพแล้ว แต่ยังสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมได้ ทำให้มองเห็นภาพขณะถ่ายวิดีโอ หรือถ่าย Vlog ได้ใหญ่ขึ้น

    Light Mod
    ไฟติดกล้อง ช่วยเพิ่มแสง แบบ LED 10 ดวง สามารถปรับความสว่างได้ 4 ระดับ ใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 1ชั่วโมง เมื่อเปิดระดับไฟสูงสุด และ ใช้ได้นานถึง 6 ชั่วโมง เมื่อเปิดระดับไฟต่ำสุด สามารถกันน้ำได้ในระดับความลึกที่ 10 เมตร

    รายละเอียดเพิ่มเติม

    • ระบบเสียงแบบ Stereo + RAW
    • ไมโครโฟน 3 ตัว แบบลดเสียงรบกวน
    • รองรับการชาร์จไว แบบ Fast Charging
    • นอกจากนี้ยังมี Power Tool: HingSight, LiveBurt, Scheduled Capture และ Duration Capture

    บรรจุภัณฑ์ หรือแพคเกจ เค้าทำออกมาแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ และมี Travel Case ที่พร้อมให้คุณพากล้องออกไปลุยได้แบบสุดสวิงริงโก้ สามารถใส่อุปกรณ์เสริมได้แบบครบจบในใบเดียวค่ะ สายท่องเที่ยวแนะนำอย่างยิ่งค่ะ รับรองไม่ผิดหวัง

    GoPro Hero 10 Black วางจำหน่ายแล้ว ในราคา 16,500 บาท

    ดูรายละเอียดเพิ่มได้ที่ Gopro Thailand

     

    Apple เปิดตัวแล้ว Iphone 13 Series คลิกเลย

    แนะนำ 6 ลานกางเต็นท์ใกล้กรุงเทพฯ สำหรับสายแคมป์ที่ต้องการไปสัมผัสธรรมชาติแต่มีเวลาน้อย

    แนะนำ 6 ลานกางเต็นท์ใกล้กรุงเทพฯ สำหรับสายแคมป์ที่ต้องการไปสัมผัสธรรมชาติแต่มีเวลาน้อย

    สายแคมป์

    กระแสของการตั้งแคมป์กำลังจะกลับมาอีกครั้ง หลังจากที่เริ่มมีมาตรการณ์คลายล็อกดาวน์ให้สามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้  ลานกางเต็นท์ต่างก็เริ่มทยอยเปิดให้บริการกันมากขึ้น สายแคมป์ที่รักธรรมชาติต่างก็ตื่นตัว และเตรียมตัวเดินทางท่องเที่ยวกันมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากต้องการผ่อนคลายความเครียดจากการทำงานด้วยธรรมชาติบำบัด วันนี้เราจึงจะมาแนะนำ 6 ลานกางเต็นท์ใกล้กรุงเทพฯ สำหรับสายแคมป์ที่มีเวลาน้อย ให้ท่านได้สามารถไปนอนพักสัก 2 วัน 1 คืน แบบไม่ต้องขับรถเหนื่อย ได้พักผ่อนกันอย่างเต็มอิ่ม สายแคมป์ที่มีงานรัดตัวมีเวลาน้อย ลองไปดูกันค่ะ

    ปางหวันโฮมสเตย์ อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
    ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯถือว่าใช้เวลาเดินทางไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ที่นี่ถือเป็นลานกางเต็นท์ที่เคยเป็นกระแสดังมาก ๆ เมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากมีสาวสวยมาถ่ายรูปรีวิวลงในกลุ่มกางเต็นท์ชื่อดังกลุ่มหนึ่ง จนทำให้สายแคมป์แห่กันไปที่นี่อย่างล้นหลาม ที่ปางหวันโฮมสเตย์ หรือบ้านไร่ปางหวันแห่งนี้ ตั้งอยู่ติดกับริมแม่น้ำภาชี ซึ่ง ลานกางเต็นท์ของที่นี่มีให้บริการทั้งแบบติดริมน้ำ และบริเวณสนามหญ้าที่เป็นลานกว้าง มีต้นไม้ใหญ่ริมน้ำที่เป็นจุดเด่น ที่คนนิยมไปถ่ายรูปกัน นอกจากนี้แล้วยังมีห้องพักไว้ให้บริการอีกด้วย ใครที่ต้องการมาเสพธรรมชาติ นอนฟังเสียงธารน้ำไหล ที่นี่ถือเป็นตัวเลือกยอดฮิตของชาวแคมป์อีกที่หนึ่งเลยทีเดียว
    ค่าบริการ: 200 บาท/คน/คืน
    โทร: 081-700-1133
    พิกัด : https://goo.gl/maps/3yncu1naQKKMv9eJ8
    Facebook: https://www.facebook.com/pangwhanhomestay

    Anthony Campground อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
    Anthony Campground ลานกางเต็นท์แห่งนี้อยู่ห่างจากกรุงเทพฯประมาณ 100 กว่ากิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางสั้น ๆ เพียง 1 หนึ่งชั่วโมงกว่า ซึ่งถือว่าน้อยมาก ๆ สายแคมป์ที่ต้องการมาสัมผัสธรรมชาติ และได้รับความสะดวกสบายไปพร้อม ๆ กัน แนะนำให้เลือกเดินทางมายังลานกางเต็นท์แห่งนี้ จุดเด่นของที่นี่ คือ มีต้นไม้ใหญ่ค่อนข้างเยอะ ให้ความร่มรื่นเป็นอย่างมาก จุดกางเต็นท์จะอยู่เลียบลำธาร สามารถลงเล่นน้ำได้ อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้ง Wifi มีไฟฟ้าให้ต่อใช้ รวมทั้งมีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญให้บริการอีกด้วย
    ค่าบริการ: ค่าลงทะเบียน 130.-
    มีค่าบริการพื้นที่ ดังนี้
    – เต็นท์นอน (นำมาเอง) ฟรี
    – เต็นท์ครัว2×2 และ 2×3 เมตร 100.-
    – เต็นท์ครัว3×3 และ 3×4 เมตร 200.-
    – เต็นท์ครัว4×4 หรือ 4×5 เมตร 300.-
    – รถบ้าน/รถเต็นท์ คันละ 300.-
    โทร : 092-632-3655
    พิกัด : https://goo.gl/maps/2UiWpYqHQsN7WP4K9
    Facebook: https://www.facebook.com/Anthonycampground

    Rimtara Camping อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
    ที่นี่ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯประมาณ 3-4 ชั่วโมง ลานกางเต็นท์ เพิ่งเปิดให้บริการได้ไม่นานมากนัก เหมาะกับสายแคมป์ที่ต้องการความเงียบสงบ ต้องการมาพักผ่อน และดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่างเต็มที่ เพราะที่นี่ค่อนข้างเข้มงวดกับการรักษากฎห้ามส่งเสียงดังรบกวนท่านอื่น ๆ เมื่อถึงเวลาที่กำหนด  สัญญาณมือถือของที่นี่จะมีเฉพาะ AIS เท่านั้นนะคะ แต่จะมี WIFI ไว้ให้บริการ  การจัดโซนตั้งแคมป์ของที่นี่จะถูกแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซนริมน้ำและโซนป่า สามารถเลือกกางได้ตามความชอบของแต่ละท่าน โซนริมน้ำนั้นสามารถลงเล่นน้ำคลายร้อนได้ ในส่วนของโซนป่านั้นมีลักษณะเป็นต้นสนตั้งเรียงรายสวยงาม เหมือนกางเต็นอยู่ที่ต่างประเทศเลยค่ะ
    ค่าบริการ: ค่าบริการ 150 บาท/คน/คืน
    โทร : 080-206-2232
    พิกัด : https://goo.gl/maps/DUwhekf9mgHqZi8p8
    Facebook: https://www.facebook.com/rimtara.camping/

    บ้านไร่สามพอ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
    ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งลานกางเต็นท์ที่เหมาะสำหรับชาวกรุงสายแคมป์ที่มีเวลาน้อยนิด แต่อยากไปสัมผัสธรรมชาติเขียวขจีสดชื่น และร่มรื่น จุดเด่นของลานกางเต็นท์บ้านไร่สามพอแห่งนี้ ก็คือจะเป็นลานกางเต็นท์ที่มีลานหญ้าเขียวขนาดกว้างขวาง มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา มองไปทางไหนก็มีแต่ความสบายตา แถมอยู่ติดกับลำธารอีกด้วยสามารถลงเล่นน้ำคลายร้อนได้ ความสะดวกสบายอีกอย่างคืออยู่ไม่ไกลจากจุดในตัวเมืองทำให้การเดินทางมาที่นี่นั้นค่อนข้างง่ายค่า ยามเช้าที่พระอาทิตย์กำลังจะขึ้นจะได้สัมผัสแสงสีทองที่สาดส่องลงมาเป็นภาพที่สวยงามน่าชมมากๆ รับรองว่ามาแล้วไม่มีผิดหวัง
    บริการ: 150 บาท/คน/คืน
    โทร : 088-782-1561
    พิกัด : https://goo.gl/maps/B7RuBTuFp9STCHnv7

    ไร่แตงโมชายสิบ อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี
    ลานกางเต็นท์ ของที่นี่จะมีลักษณะเป็นลานโล่งกว้าง ตั้งอยู่ริมน้ำลำตะเพิน เหมาะสำหรับสายแคมป์ที่ชอบทำกิจกรรม เพราะที่นี่จะมีกิจกรรมต่างๆให้ทำมากมาย อาทิเช่น การพายเรือคายัค หรือนั่งเรือถีบ ที่นี่อาจจะไม่มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงามากนักในตอนกลางวันแดดจะค่อนข้างร้อน แต่วิวที่นี่รับรองว่าสวยงามมากๆไม่แพ้ลานกางเต็นท์ที่อื่น ด้านหน้าเป็นวิวอ่างเก็บน้ำกว้างใหญ่สุดสายตา ส่วนฉากด้านหลังมองไปเห็นทิวเขาโอมล้อมไว้อย่างสวยงาม ได้ชมทั้งพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า และพระอาทิตย์ตกยามเย็น เป็นบรรยากาศที่สวยงามโรแมนติกสุดๆยิ่งมากับแฟนรับรองว่าฟินอย่างแน่นอน
    บริการ: ค่าบริการ 100 บาท/คน/คืน
    โทร : 092-909-5995
    พิกัด : https://goo.gl/maps/6UqEMkNAQXFSDEoa9
    Facebook: https://www.facebook.com/Chaisibswatermelonfarmcampsite/

    บ้านไร่พอเพียง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
    จุดเด่นของที่นี่ก็คือ ลานกางเต็นท์ ขนาดย่อมบนสนามหญ้าสีเขียวสดใสที่อยู่ติดกับบริเวณริมน้ำ สามารถลงเล่นน้ำคลายร้อนได้ และที่นี่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ในตอนเช้าท่านก็สามารถตื่นขึ้นมาใส่บาตรพระสงฆ์ได้อีกด้วย เรียกว่าอิ่มเอมกับธรรมชาติและยังได้อิ่มอกอิ่มใจกับการทำบุญไปพร้อมๆกันอีกด้วย นอกจากลานกางเต็นท์แล้วที่นี่ยังมีบริการร้านคาเฟ่ให้นั่งทานอาหาร เครื่องดื่มและถ่ายรูปสวยๆลงโซเชียล หากใครไม่ได้นำเต็นท์มาเองก็มีบริการเต็นท์แบบกระโจมให้พักด้วย ขอบอกว่าเจ้าเต็นท์นี้ตกแต่งได้อย่างน่ารักมากๆ ช่วงกลางคืนก็มีการประดับไฟสวยงามเหมาะแก่การถ่ายรูปไปอวดเพื่อนๆ รับรองว่าจะต้องอิจฉาอย่างแน่นอน
    ค่าบริการ: นำเต็นท์มาเอง 200 บาท/คน/คืน กระโจมหลังละ 1,500 บาทพักได้ 2 ท่าน
    โทร : 082-653-5966
    พิกัด : https://g.co/kgs/9Be6VP
    Facebook: https://www.facebook.com/baanraiporpiangcamping/

    เป็นยังงัยกันบ้างคะ สำหรับ 6 ลานกางเต็นท์ที่เรานำมาแนะนำให้กับทุกๆท่านในวันนี้ มีลานไหนที่ถูกใจกันบ้างหรือป่าว หากถูกใจแล้วก็เตรียมตัวเก็บกระเป๋าออกเดินทางกันได้เลย ไม่ต้องรอช้า ธรรมชาติอันแสนสดชื่อนกำลังรอพวกเราอยู่ ไปกัน!!!

    10 อุปกรณ์สำคัญในการ ตั้งแคมป์ กางเต็นท์ ให้สะดวกสบายมากขึ้น คลิกเลย

    Pakkret House บ้านท้าแดดสุดเท่ ยืนตัวเด่นหรา… ได้อย่างมีกึ๋น

    Pakkret House บ้านท้าแดดสุดเท่ ยืนตัวเด่นหรา… ได้อย่างมีกึ๋น

    Pakkret House

    โปรเจ็คท์​ Pakkret House คืออีกหนึ่งผลงานสุดคูลของ “เชิงชาย เรียวเรืองแสงกุล” สถาปนิกจาก Archimontage Design Fields Sophisticated ซึ่งชูให้เห็นสถาปัตยกรรมภายนอกอันตระการตา ขณะเดียวกันตอบโจทย์ฟังก์ชั่นการอยู่อาศัยที่สะดวกสบายและร่วมสมัยของเจ้าของบ้านได้อย่างลงตัว

    Pakkret House
    กำแพงอิฐสูง 7.5 เมตร นอกจากทำหน้าที่บังความร้อนเข้าสู่ภายในโดยตรง ยังสร้างให้ตัวอาคารโดดเด่น และเกิดแสงเงาที่ฉาบไล้ดูสวยงาม

    ปูมหลังของการออกแบบ เกิดจากเจ้าของบ้าน ต้องการขยายพื้นที่อยู่อาศัยเพิ่มเติม โดยเลือกที่ดิน ขนาด 96 ตร.ว. ที่ติดกันกับบ้านหลังเดิม (ย่านปากเกร็ด จ.นนทบุรี) เนรมิตเป็นบ้าน 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ใช้สอย 420 ตร.ม.

    แต่ด้วยข้อจำกัดที่ตัวบ้านต้องวางขนานไปกับทางยาวของที่ดิน และหันหน้าไปทางตลาด ซึ่งเป็นทางเข้าหลักฝั่งทิศตะวันตกจึงทำให้พื้นที่ใช้งานภายในต้องหันหน้ารับแดดในช่วงกลางวันแทบตลอดเวลา

    สถาปนิกจึงแก้ปัญหาโดยออกแบบกำแพงอิฐขนาดใหญ่สูงเสมอหลังคาชั้นบน (สูง 7.5 เมตร) ไว้หน้าอาคาร เพื่อเป็นกันชนอีกปราการหนึ่ง ในการลดทอนความร้อนที่จะแผ่เข้ามาในบ้านโดยตรง รวมถึงแต่ละกำแพงยังถูกกำหนดให้แบ่งแยกจากกัน และทำมุมในองศาที่ต่างกัน ทั้งนี้นอกจากช่วยเสริมส่งให้ตัวอาคาร ดูโดดเด่นแปลกตาแล้ว ความห่างของช่องกำแพง ยังปล่อยให้แสงธรรมชาติลอดผ่านเข้ามาเพิ่มความสว่างแก่พื้นที่ด้านในให้ไม่ดูทึบตัน ที่สำคัญทิศทางของแสงเงาที่ลอดผ่านมาฉาบไล้บนพื้นและผนังอาคารแต่ละห้วงเวลา สร้างให้เกิดรูปแบบและลวดลายที่สวยงามต่างกันอีกด้วย

    Pakkret House
    การเลือกวัสดุหลังคาแบบโปร่งแสง ถูกนำมาเสริมทัพให้พื้นที่ด้านในนั้นดูไม่ทึบตัน
    Pakkret House
    การติดตั้งไฟ ส่องฉาบไล้ไปบนกำแพง สำหรับสร้างบรรยากาศในช่วงเวลาพลบค่ำ ขับเน้นให้ตัวอาคารในยามราตรีดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
    Pakkret House
    พื้นที่แพนทรี่ ออกแบบเชื่อมต่อกับพื้นที่ทานข้าว และห้องนั่งเล่น/รับแขก ดูโปร่งสบายด้วยการออกแบบเพดานที่สูง ล้อรับกับกำแพงด้านนอก

    สำหรับด้านหน้าบ้าน วางแปลนให้มีที่จอดรถ 2 คัน (อยู่ใต้ระเบียงใหญ่) ภายในประกอบด้วยห้องนอน 4 ห้อง (กระจายตัวอยู่ชั้นหนึ่งและชั้นสอง) ด้านล่างออกแบบเป็นห้องรับแขก ต่อเนื่องกับแพนทรี่ และพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งเผยการดีไซน์เพดานสูงแบบ Double Volumn ดูหรูหราและโปร่งสบาย ส่วนด้านหลังจัดสรรเป็นพื้นที่ครัว ติดกับพื้นที่เก็บของ ซักรีด และลานซักล้าง

    Pakkret House

    และทั้งหมดนี้คือโปรเจ็กท์เท่ๆ ที่โชว์ให้เห็นความงามของรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ไม่ซ้ำใคร เหมาะใจกับผู้ที่กำลังมองหาแรงบันดาลใจในการตกแต่งบ้านสไตล์โมเดิร์นลอฟท์ ที่มีทั้งความดิบ เท่ และสง่างาม รวมถึงมีกึ๋นในการแก้ปัญหาเรื่องความร้อนและข้อจำกัดของพื้นที่ได้อย่างน่าสนใจ

    Pakkret House

    Project Name : Pakkret House

    Architect : Archimontage Design Fields Sophisticated   

    Interior Designer : Archimontage Design Fields Sophisticated

    Photographer : DOF Sky|Ground

     

    บทความน่าสนใจ : มัดรวมเทคนิค ทลายพื้นที่เล็กให้กว้างขึ้น

     

    ภูทับเบิก สวรรค์ ของคนล่า ทะเลหมอก ต้นหนาวนี้ พลาดไม่ได้

    ภูทับเบิก อยู่ในตำบลวังบาล อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์  เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัด มีระดับความสูงถึง 1,768 จากระดับน้ำทะเล อากาศที่นี่เย็นสบายตลอดทั้งปี

    ช่วงปลายฝนต้นหนาวนี้ ถ้าให้นึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่คนนิยมไปกันอย่างล้นหลามก็คงไม่หนีพ้นการไปเที่ยวเขาซึ่งช่วงนี้เป็นฤดูกาลแห่งการล่าทะเลหมอกที่มักจะเจอหมอกปุย ๆ ขาว ๆ แผ่ขยายเป็นวงกว้างสุดลูกหูลูกตาไม่ต่างจากทะเล สถานที่ขึ้นชื่อที่ใคร ๆ ต่างก็รู้ว่าถ้ามาล่าท้าหมอกต้องมาที่นี่ ภูทับเบิก สวรรค์ของนักล่าทะเลหมอก

    ก่อนการเดินทางควรเช็คสภาพรถ และความพร้อมของคนขับให้เรียบร้อย เราเดินทางจากกรุงเทพฯด้วยรถยนต์ส่วนตัวใช้เวลาเดินทางราว ๆ 5-6 ชั่วโมงก็มาถึง อำเภอหล่มเก่า ที่เป็นจุดบริเวณทางขึ้นภูทับเบิก ซึ่งจุดนี้จะมีปั๊มน้ำมัน และร้านสะดวกซื้อ แนะนำเติมน้ำมันให้เต็มถัง ขาดเหลืออะไรให้ซื้อให้ครบจากตรงนี้ไปได้เลย เพราะหลังจากนี้จะเป็นการขับขึ้นเขาด้วยเส้นทางสุดโหดยาว ๆ ไปจนถึงยอดภู ข้อควรระวังในการขับรถ คือ อย่าขับชิดคันหน้าจนเกินไป และควรใช้เกียร์ต่ำ พร้อมแล้วก็ลุยกันเลย!!!

    เส้นทางขึ้นภูทับเบิกค่อนข้างชัน มีโค้งติด ๆ กันค่อนข้างเยอะ และยังเจอหมอกตลอดทาง ควรขับอย่างระมัดระวัง อย่ามัวมองวิวเพลินนะคะ เราใช้เวลาจากจุดตีนเขามาถึงด้านบนราวๆ 40 นาที บนยอดภูจะมีที่พักแบบที่เป็นรีสอร์ท เต็นท์ให้เช่า หรือหากใครมีเต็นท์ของตัวเองก็สามารถนำมากางได้ เสียแค่ค่าเช่าพื้นที่กางนิดหน่อยแต่เนื่องจากมีประสบการณ์แล้ว ครั้งนี้เราตัดสินใจจองที่พักค่ะ ที่พักบนภูทับเบิกที่เป็นบ้านพักหรือรีสอร์ทแนะนำให้จองล่วงหน้าก่อนมานะคะ เพราะแม้ที่พักจะเยอะ แต่ถ้าเป็นช่วงพีคเช่นนี้ส่วนมากจะเต็มค่ะ ส่วนใครที่อยากมานนอนเต็นท์สัมผัสบรรยากาศแนะนำให้ทำใจมาซักนิดนะคะ เพราะที่นี่ลมและฝนแรงมาก 

    กิจกรรมบน ภูทับเบิก นั้นนอกจากชมทะเลหมอกยามเช้าแล้ว ก็ยังมีจุดถ่ายรูปที่คนนิยมถ่ายคือไร่กะหล่ำปลี และโอ่งแดงค่ะ 

    เมื่อถึงช่วงค่ำเมนูยอดฮิตของการมาเที่ยวภูเขาก็คือหมูกระทะ  นั่นเองงง อากาศหนาว ๆ ได้ทานหมูกระทะร้อน ๆ หน้าห้องพัก มันฟินจริงๆค่ะ อิ่มจากหมูกระทะแล้วก็มานั่งชิลชมบรรยากาศจิบเครื่องดื่มเย็น ๆ ซักนิด หากโชคดีฟ้าเปิดก็จะได้เห็นดาวสวย ๆ ถือว่าคุ้มค่ากับการมาพักผ่อนมาก ๆ

    เช้านี้เราเตรียมตัวตื่นตั้งแต่ช่วงตี 5 ค่ะ เพื่อรอลุ้นทะเลหมอกว่าจะเป็นอย่างไร การจะเจอทะเลหมอกแบบเต็มตามีปัจจัยหลายๆอย่างทั้งความชื้น ความเร็วลม รวมถึงดวงด้วย มาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้วก็ยังไม่เจอแบบแน่น ๆ อ้วน ๆเหมือนคนอื่นเขาซักที แอบเศร้าเบา ๆ 

     จากนั้นเราก็เตรียมเก็บของอำลายอดภูทับเบิกกลับกรุงเทพฯกัน แต่ก่อนกลับขอแวะจุดไฮไลท์อีก 2 จุด ที่อยู่ใกล้ๆกัน นั่นก็คือ พระธาตุผาซ่อนแก้ว และร้านกาแฟ Pino Latte มาถึงนี่แล้วจะไม่แวะก็ไม่ได้

     

    เที่ยวเหนื่อยมาครึ่งวันท้องเริ่มร้องได้เวลาเติมพลังลงกระเพาะ อาหารขึ้นชื่อของที่นี่ก็หนีไม่พ้นขนมจีนเส้นสด ซึ่งมีร้านดังอยู่หลายร้าน วันนี้เราพามา ร้านขนมจีนต้นตังค์ ร้านที่คนเพชรบูรณ์แนะนำมา ขอบอกว่านอกจากขนมจีนอร่อยยังมีเมนูอื่น ๆ ที่เด็ดไม่แพ้กันอย่างลูกชิ้นแดงทอด และตำด๊องแด๊ง เป็นส้มตำปูปลาร้าที่ใส่แป้งขนมจีนที่ปั้นเป็นตัว ๆ ไม่ทันได้ถ่ายหมดไวมากค่ะ น้ำยาจะมี 4 แบบนะคะ น้ำยาป่า น้ำยากระทิ น้ำพริก และน้ำปลาร้า เป็นน้ำยาที่คนเพชรบูรณ์เค้านิยมกินกัน ใครไม่เคยลองก็ต้องมาลองกันหน่อย 

     อิ่มอกอิ่มใจแถมอิ่มท้องกันแล้ว ก็พร้อมเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ

    5 ที่เที่ยวห้ามพลาดเมื่อมาถึง บึงกาฬ คลิกเลย