More

    “ประกันสังคม” เสี่ยงเจ๊ง ม.33 อ่วม ต้องจ่ายเพิ่ม เริ่ม 2567

    ประกันสังคม ออกประกาศใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ จาก 750 บาท/เดือน เป็น 875 บาท/เดือน, 1,000 บาท/เดือน และ 1,150 บาท/เดือน ตามลำดับ 

    ประกันสังคม ม.33 ต้องรู้ ! เตรียมจ่ายเงินสมทบเพิ่มปี 2567

    เดิมทีผู้ประกันตนที่เป็นพนักงานบริษัท และมีประกันสังคมมาตรา 33 จะจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม 5 เปอร์เซ็นต์ของค่าจ้างที่ได้รับต่อเดือน (นายจ้างออก 5% ลูกจ้างออก 5%) โดยนับฐานเงินเดือนต่ำสุด 1,650 บาท และฐานเงินเดือนสูงสุดอยู่ที่ 15,000 บาท

    • เงินเดือน 5,000 บาท ต้องจ่ายเงินสมทบ 250 บาท
    • เงินเดือน 15,000 บาท ต้องจ่ายเงินสมทบ 750 บาท 
    • เงินเดือนเกิน 15,000 บาทก็ยังจ่ายเพียง 750 บาท

    เป็นแบบนี้ตลอด 28 ปี (นับตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2538 จนถึงปัจจุบัน 2566) แต่เมื่อสถานการณ์เศรษฐกิจ สังคม เงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น (จากข้าวจานละ 10 บาท กลายเป็น 50 บาท) จึงต้องมีการเปลี่ยนแปลง มิเช่นนั้นจะเจ๊งทั้งระบบ ซึ่งจะปรับเงินสมทบแบบค่อยเป็นค่อยไป

    “ประกันสังคม” เสี่ยงเจ๊ง ม.33 อ่วม ต้องจ่ายเพิ่ม เริ่ม 2567

    เตรียมปรับเพิ่มเพดานการคำนวณใหม่

    กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กำลังพิจารณาการกำหนดค่าจ้างขั้นสูงที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบกองทุนประกันสังคม ของผู้ประกันตนมาตรา 33 อัตราใหม่

    เหตุผลคือ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับกองทุนในการรองรับรายจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้น ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน และเป็นการปรับเพื่อให้เงินสมทบเป็นไปตามมาตรฐานของเพดานจ้างจากองค์กรแรงงานระหว่างประเทศ (ILO)

    ประกันสังคม 2567+ อัตราใหม่

    แต่ตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป ฐานสูงสุดไม่ใช่ 15,000 บาท อีกต่อไปแล้ว

    • ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567- 31 ธันวาคม 2569 จำนวนไม่ต่ำกว่าเดือนละ 1,650 บาท และไม่เกิน 17,500 บาท (5% จะตันที่ 875 บาทต่อเดือน)
    • ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2570- 31 ธันวาคม 2572 จำนวนไม่ต่ำกว่าเดือนละ 1,650 บาท และไม่เกิน 20,000 บาท (5% จะตันที่ 1,000 บาทต่อเดือน)
    • ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2573 เป็นต้นไป จำนวนไม่ต่ำกว่าเดือนละ 1,650 บาท และไม่เกิน 23,000 บาท (5% จะตันที่ 1,150 บาทต่อเดือน)

    ไม่แปลกใจถ้าผู้ประกันตนทั้งลูกจ้างและนายจ้างจะรู้สึกว่ามีภาระเพิ่มขึ้น (นายจ้างก็ต้องเพิ่มเงินสมทบด้วยเหมือนกัน) แต่ผู้เขียนมองว่าก็ไม่แย่… เพราะสิ่งที่ได้จากการจ่ายเพิ่ม คือจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ

    เช่น ใน พ.ศ. 2567 คนเงินเดือน 17,500 บาท  ที่ส่งเงินสมทบเดือนละ 875 บาท จะรับเงินทดแทนขาดรายได้กรณีว่างงานเพิ่มขึ้น จากเดือนละ 8,750 บาท (เดิม 7,500 บาท)  

    ผลประโยชน์ผู้ประกันตนจะได้รับหลัก ๆ คือ เพิ่มความเพียงพอของสิทธิประโยชน์ โดยเฉพาะเงินทดแทนจากการขาดรายได้ เช่น ว่างงาน หรือการถูกให้ออก อีกทั้งไว้รับมือกับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่สูงมากขึ้นกว่าเดิม และเป็นการกระจายรายได้จากผู้ที่มีรายได้มากสู่ผู้ที่มีรายได้น้อยภายในระบบด้วย

    ที่มา prosoft.co.th, MoneyHub


    บทความน่าสนใจ

    IAMMAI
    IAMMAI
    อย่าเรียกงก ให้เรียกระมัดระวังเรื่องการใช้จ่าย ยืนหนึ่งเรื่อง Property เพราะยืนคนเดียว ไม่มีใครยืนด้วย

    Related Post