More
    spot_img

    สรพงศ์ ชาตรี ปิดตำนานพระเอกตลอดกาล

    เรียกว่าสูญเสียกันอย่างต่อเนื่องสำหรับวงการบันเทิงบ้านเรา ที่ล่าสุดต้องสูญเสีย “พระเอกตลอดกาล” สรพงศ์ ชาตรี ไปจากโรคร้ายอย่าง “มะเร็งปอด” ในวัย 73 ปี โดย “เอก-สรพงศ์” เข้าวงการครั้งแรกในปี พ.ศ. 2511 โดยชื่อเดิมว่า “พิทยา เทียมเศวต” เป็นคนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

     

    ต้นกำเนิด สรพงศ์ ชาตรี

    สำหรับชื่อ สรพงศ์ ชาตรี ที่ใช้ในการแสดงนั้น ผู้ตั้งให้คือ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ และหม่อมอุบล ยุคล ณ อยุธยา โดยคำว่า “สร” มาจาก อนุสรมงคลการ, “พงศ์” มาจาก สุรพงศ์ โปร่งมณี (ผู้พามาฝากตัวกับหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม) และเชื่อหรือไม่ว่า สรพงศ์ นั้นได้ผ่านการแสดงภาพยนตร์มาเกือบ 600 เรื่อง

    โดยในปี พ.ศ. 2526 เป็นปีที่เขา แสดงภาพยนตร์มาที่สุดถึง 61 เรื่อง ตลอดทั้งปี นอกจากนี้เจ้าตัวยังมีผลงานละครอีกมากกว่า 100 เรื่อง

    โดยคุณสรพงศ์นั้นเกิดในปี 2492 ที่อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จบการศึกษาระดับ ป.4 ก่อนจะบวชเรียนตอนอายุ 8 ขวบ และลาสิกขาเมื่ออายุได้ 11 ปี โดยได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ศิลปศาสตร์ สาขาสังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนา จากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

    ซึ่งเส้นทางในวงการบันเทิงของ เอก นั้นได้เริ่มเมื่ออายุประมาณ 19 ปี ที่เขาได้เจอกับ หม่อมเจ้าชาตรี เฉลิม ยุคล ซึ่งเริ่มจากการเป็นตัวประกอบปี 2512 รวมถึงทำหน้าที่เป็นด็กยกของในกองถ่ายละคร และขยับขึ้นมาสู่บทพระเอกครั้งแรกในปี 2514 ในภาพยนตร์ไซไฟชื่อว่า “มันมากับความืด”

    ซึ่งด้วยฝีมือการแสดง ทำให้ เอก-สรพงศ์ มีงานแสดงเข้ามาไม่ขาดสาย และไม่ได้เอยะด้วยปริมาณ แต่เต็มไปคุณภาพ การันตีจากรางวัลมากมายที่ได้รับ โดยเขาได้เคยถูกรับเลือกให้เป็น ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดงในปี พ.ศ. 2551

    ในตอนที่สรพงศ์ขึ้นมาเป็นพระเอกใหม่ ๆ ก็ถูกสบประมาทในที่ว่า “เป็นคนจมูกโต ตัวดำ จะเป็นพระเอกได้เหรอ” แต่ก็อย่างที่เห็นในทุกวันนี้ชายคนนี้ขึ้นหิ้งระดับตำนาน เป็นพระเอกตลอดกาลของเมืองไทย

    สรพงศ์ คว้าตุ๊กตาทองครั้งแรกกับภาพยนตร์อย่าง “ชีวิตบัดซบ” กับ “สัตว์มนุษย์” และมีชื่อเสียงไปในต่างประเทศจากภาพยนตร์เรื่อง “แผลเก่า”  ปี 2520 ซึ่งจัดว่าเป็นหนังที่ทำเงินมหาศาลในยุคกว่า 13 ล้านบาท (ในอดีตการที่จะมีหนังสักเรื่องทำเงินแตะหลัก 10 ล้านถือว่ายากมาก ๆ)

    นอกจากนี้ภาพยนตร์ที่ สรพงษ์เล่น ยังเคยถูกส่งชื่อเข้าชิงออสการ์ในสาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมมาแล้ว อย่าง “เสียดาย 2” โดยสรพงศ์ก็ได้รางวัลตุ๊กตาทอง สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

    และด้วยเวลาที่ผ่านไป สรพงศ์ที่แก่ตัวลง ก้ยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการภาพยนตร์ และมักจะได้รับบทเด่น ของเรื่องอยู่เสมอ อาทิ “สุริโยไท”, “องค์บาก 2” รวมไปถึง “ตำนานสมเด็จพระนเรศวร” ที่สรพงศ์รับบทเป็น พระมหาเถรคันฉ่อง พระอาจารย์ของพระนเรศ

    นอกจากงานแสดงแล้ว นักพากษ์ ยังเป็นอีกหนึ่งบทบาทที่สรพงศ์ได้โชว์ผลงานไว้ อาทิ “วู้ดดี้” จาก Toy Story นอกจากนี้ยังมีผลงานต่างประเทศอีกหลายเรื่อง  และหากผู้ถึงเรื่องเสียง ก็คงจะลืมไมได้เช่นกันว่า เอก-สรพงศ์ นั้นเคยออกมาถึง 5 อัลบั้ม ในช่วงยุค 90 โดยมีเพลดังอย่าง หัวใจไม่ได้เสริมใยเหล็ก และเพลงพ่อให้มา

    ชีวิตคู่และครอบครัว

    สำหรับชีวิตคู่นั้น เอก-สรพงศ์ แต่งงาน3 ครั้งแรก คนแรกคือ  โย ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ โดยมีลูกด้วยกันชื่อว่า ขวัญ พิมพ์อัปสร หลังจากเลิกรากันไปก็แต่งงานกับแอ็ด-พิมพ์จันทร์ ใจวงศ์ มีลูกด้วยกัน 3 คน คือ เอิง พิศุทธินี , เอม พิศรุตม์ และ อั้ม พัทธกฤต

    ก่อนที่สุดท้ายจะเป็น “ดวงเดือน จิไธสงค์” ดีกรีรองอันดับ 1 มิสไทยแลนด์เวิล์ด  2529 ที่มาดราม่า แย่งมงกุฎเกิดขึ้นเมื่อผู้ที่ได้มงในปีนั้นคือ “แสงระวี อัศวรักษ์” แต่ได้มีนางงามท่านหนึ่งแย่งมงกุฎมาจาก “แสงระวี” และนำมาสวมให้ “ดวงเดือน จิไธสง” แทน นอกจากนี้ ดวงเดือน ยังมีดีกรีเป็นรองอันดับ 1 นางสาวไทย 2530 ซึ่งดวงเดือนนั้นก็อยู้กับสรพงศ์จนวินาทีสุดท้ายของชีวิต

    ด้านครอบครัวของสรพงศ์อย่างลุกสาว ขวัญ พิมพ์อัปสร และอดีตภรรยา โย ทัศน์วรรณ ได้พูดถึงการจากไปครั้งนี้ว่า  “ทราบข่าวอาการป่วยของคุณพ่อนานแล้วค่ะ ป่วยมาพักใหญ่แล้วค่ะ แต่ว่าที่ทุกคนอาจไม่ได้ทราบเพราะเป็นความประสงค์ของคุณพ่อที่ไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วง จริงๆ แล้วคุณพ่อเป็นคนที่แข็งแรงมากๆ แล้วก็คิดว่าเดี๋ยวรักษาแล้วก็กลับมาทำงานเหมือนเดิม เลยไม่ได้บอกอะไร”

    “คุณพ่อกำลังใจดีตลอดค่ะ คุณพ่อเป็นคนแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจค่ะ คุณพ่อกำลังใจดีตลอดค่ะ แม้กระทั่งวินาทีที่จะไป ก็ยังกำลังใจดี ไปแบบยิ้ม ไปแบบกำลังใจดีค่ะ ขวัญ ก็ได้อยู่กับคุณพ่อในวินาทีสุดท้ายด้วยค่ะ”

    “คุณหมอก็บอกว่าพยายามช่วย พยายามปั๊มแต่ไม่ขึ้น วินาทีที่เข้าไปจับมือคุณพ่อทุกครั้ง มือจะอุ่น แต่เมื่อวานมือคุณพ่อจะเย็น เราก็พยายามบีบให้มืออุ่นขึ้น แต่เราก็ใจเสีย เพราะรู้สึกว่าปกติมืออุ่นแต่เมื่อวานมือเย็น ทุกคนก็พยายามเอาใจช่วยค่ะ แต่คุณพ่อก็สู้มาเยอะแล้ว”

    สำหรับพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ สรพงศ์ ชาตรี พระเอกตลอดกาลและศิลปินแห่งชาติ ที่ศาลากลางน้ำ วัดเทพศิรินทราวาส หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล หรือท่านมุ้ย บุคลากรสำคัญในวงการภาพยนตร์ไทย เสด็จมาเป็นประธานในพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2565

    โดยมีดาราดังทั่วฟ้าเมืองไทย อาทิ อาแอ๊ด-สมบัติ เมทะนี, กรุง ศรีวิไล, ฤทธิ์ ลือชา, จิ๊บ-วสุ แสงสิงแก้ว และ จิ๊ก-เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ มาร่วมไว้อาลัย

    จิ๊ก-เนาวรัตน์ นักแสดงที่เคยเป็นคู่ขวัญร่วมแสดงภาพยนตร์กับสรพงศ์ เปิดเผยว่า ทราบข่าวว่าพี่เอกป่วยมาประมาณ 1 เดือน รู้สึกเป็นห่วงแต่ไม่มีโอกาสไปหาเนื่องจากสถานการณ์โรคระบาด โควิด-19 ทำให้ทุกอย่างแย่ไปหมด จึงได้แต่ฟังข่าวคราวจากคนใกล้ชิด จนกระทั่งมาทราบว่าพี่เอกได้จากไปแล้วจึงมาร่วมอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย

    โดยจิ๊ก-เนาวรัตน์นั้น รู้จักและคบหากับ เอกมากว่า 40 ปี รางวัลตุ๊กตาทองตัวแรกของจิ๊กก็ได้จากบทลำดวน ในภาพยนตร์เรื่อง “ถ้าเธอยังมีรัก” ของหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ซึ่งก็ได้ เอก-สรพงศ์ นี่แหละที่คอยช่วยเขี่ยวเข็ญให้

    เรียกว่า เป็นพระเอกที่มีผู้คนรัก และเคารพนับถือมากมายครับสำหรับ สรพงศ์ ชาตรี และทาง Inzpy เองก็ต้องขอแสดงความเสียใจ ต่อครอบครัว และคนที่รัก สรพงศ์ มา ณ ที่นี้ด้วย

     

     

    Related Post

    Most Popular

    Recommended