Nike ฉลอง 50 ปี ผ่านนิทรรศการ Nike at 50: A Genealogy of Progress
Nike เฉลิมฉลองการเดินทางที่ไม่สิ้นสุดในการสนับสนุนนักกีฬา
ภารกิจของไนกี้ในการนำแรงบันดาลใจและนวัตกรรมมาสู่นักกีฬาทุกคน เกิดขึ้นจากความเชื่อที่ว่า “ไม่เคยหยุด” ไนกี้ไม่เคยหยุดกำหนดเป้าหมายและความฝันใหม่ ๆ เช่นเดียวกับนักกีฬาที่บริษัทให้การสนับสนุน
“รองเท้าทุกคู่ทำให้เราพัฒนาขึ้น ทุกความผิดพลาดทำให้เราพัฒนาขึ้น และเหตุผลเดียวกันนี้ ทำให้นักกีฬาทุกคนพัฒนาขึ้น” ฟิล ไนท์ ผู้ก่อตั้งไนกี้ กล่าว
ปีนี้ ไนกี้ เฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีแห่งการขับเคลื่อนโลกด้วยพลังแห่งกีฬา และนำการเฉลิมฉลองนี้มาสู่นักกีฬา ในท้องถิ่น ผ่านการจัดแสดงนิทรรศการ Nike at 50: A Genealogy of Progress ที่ดูแลโดยไนกี้ ฮ่องกง จิตวิญญาณที่ไม่เคยหยุดได้รับการถ่ายทอดผ่านส่วนจัดแสดง 4 โซนที่สะท้อนความก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ ของไนกี้ ประสบการณ์ทั้งหมดถูกเรียงร้อยเชื่อมโยงด้วยตระกูลผลิตภัณฑ์และพันธกิจของไนกี้ในการสนับสนุนนักกีฬา พร้อมนำพาเราไปสู่จินตนาการอันบรรเจิดในอีก 50 ปีข้างหน้า และสร้างโลกที่ดีกว่าเดิมเพื่ออนาคตของกีฬาและโลกใบนี้
Nike 50 Moments: เฉลิมฉลองอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
การสนับสนุนนักกีฬา และกีฬาของไนกี้ มีรากฐานมาจากวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรม ซึ่งปรากฏชัดในผลิตภัณฑ์ของเรา โซนจัดแสดงนี้ผสมผสานอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของไนกี้ เข้ากับประสบการณ์ภาพและเสียงที่ดื่มด่ำสมจริง เพื่อนำพาผู้ชมหวนรำลึกถึงมรดกและช่วงเวลาสำคัญทางประวัติศาสตร์ รองเท้ารุ่นดังที่เป็นลายเซ็นของแบรนด์ และโฆษณาที่สร้างปรากฏการณ์ในยุคของเรา ตลอดจนสนับสนุนนักกีฬาและความเป็นไปได้มากมายที่รออยู่ในอนาคต ผู้ชมจะได้พบกับใบหน้าที่คุ้นเคยของนักกีฬาชาวฮ่องกง เช่น เร็กซ์ โซว (Rex Tso), สเตฟานี่ อู (Stephanie Au) และเอ็ดการ์ เฉิง (Edgar Cheung (Ka Long)) ที่โซนนี้
Moon Path: วิวัฒนาการของนวัตกรรมเพื่อการวิ่งมาราธอน
รองเท้า มูน ชู (Moon Shoe) ซึ่งเปิดตัวในปี 2515 เป็นทั้งอนุสรณ์ของปีแห่งอิสรภาพและความมุ่งมาดปรารถนาของไนกี้ ตั้งแต่แรกเริ่ม ไนกี้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อให้นักกีฬา* สามารถทำผลงานได้ดีที่สุด โซนนี้จัดแสดงในรูปแบบของทางเดินที่บอกเล่าเรื่องราวของไนกี้กับการวิ่งมาราธอนผ่านรองเท้าวิ่งที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน ซึ่งนิยามโดยเทคโนโลยีและความมุ่งมั่นของไนกี้ที่จะสนับสนุนนักกีฬาและปกป้องโลกนี้ให้ดีขึ้น เริ่มต้นจาก มูน ชู รุ่นออริจินอล นำเสนอโดย เค11 มิวเซีย (K11 Musia) ไปจนถึงรุ่น อัลฟาฟลาย เน็กซ์% (Alphafly Next%) ที่ทำลายสถิติ
Allure of Air: สำรวจโลกของไนกี้ แอร์
เมื่อ แอร์ (Air) เข้าสู่จักรวาลไนกี้ในช่วงปลายทศวรรษ 1970 แอร์ได้รับการตอบรับด้วยศักยภาพที่ยอดเยี่ยม อันเกิดจากการออกแบบ วิศวกรรม และการผลิตที่มาบรรจบกัน ในปี 2530 เทคโนโลยีนี้ได้รับการ “เปิดเผย” สู่สายตาชาวโลกพร้อมกับการถือกำเนิดของรองเท้าตระกูล แอร์ แม็กซ์ (Air Max) ที่กลายเป็นไอคอน โซนนี้จัดแสดงในรูปแบบของอุโมงค์ที่อุทิศให้กับ ไนกี้ แอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่โดดเด่นที่สุดของบริษัท ตลอดเส้นทางเดินในอุโมงค์ ผู้ชมจะได้พบกับรูปทรงใหม่ ๆ และการรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ ผ่านเทคโนโลยีรับแรงกระแทก ซึ่งแอร์ถือเป็นผู้บุกเบิกและเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ยั่งยืนที่สุดของไนกี้
Move to Zero Lounge: ค้นพบแนวปฏิบัติด้านการออกแบบที่ยั่งยืน
การทบทวนวิธีการออกแบบและกระบวนการผลิตเพื่อพัฒนาสมรรถนะของนักกีฬาและปกป้องโลก เป็นสิ่งที่ไนกี้ยึดถือปฏิบัติมาแต่ไหนแต่ไร ภายในโซนนี้เป็นการจัดแสดงประวัติศาสตร์ของนวัตกรรมที่ยั่งยืนของไนกี้ อาทิ ZVEZDOCHKA ซึ่งเป็นหนึ่งในความพยายามแรก ๆ ของไนกี้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ภายใต้ระบบแบบปิด (Closed-loop) และ เพกาซัส เทอร์โบ เน็กซ์ เนเจอร์ (Pegasus Turbo Next Nature) ซึ่งเป็นการพัฒนาล่าสุดของรองเท้าประสิทธิภาพสูงที่คำนึงถึงอนาคตของโลกเป็นสำคัญ
นอกจากนี้ นักสร้างสรรค์ผู้มีวิสัยทัศน์ชาวฮ่องกง 6 คน นำขยะจากกระบวนการผลิตของไนกี้มาจัดแสดงเป็นผลงานศิลปะ ภายใต้แนวคิดการสร้างพื้นที่อยู่อาศัยที่ยั่งยืน ขยะที่ถูกอัปไซเคิล (upcycled) ได้แก่ กล่องรองเท้าที่ไม่เป็นที่ต้องการ และเศษผ้าจากการผลิตของไนกี้ ขยะจากการผลิตทั้งหมดถูกเก็บรวบรวมจากในพื้นที่ ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของไนกี้ที่มีต่อระบบซัพพลายเชนหมุนเวียน ผลงานศิลปะแต่ละชิ้นเปิดจำหน่ายเพื่อการกุศล โดยรายได้ทั้งหมดจะนำไปมอบให้ แชร์ ฟอร์ กู๊ด (Share For Good) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มระดมเงินบริจาค (crowd-donation) ของบริษัท นิว เวิลด์ ดีเวลอปเมนต์ (New World Development) เพื่อสนับสนุนชุมชนที่ต้องต่อสู้กับโควิด-19 และกำลังฟื้นตัวหลังโควิด-19