5 อันดับ สายพันธุ์เต่าน่าเลี้ยง ดูแลง่าย และข้อควรรู้ก่อน “เลี้ยงเต่า”

เนื่องในวันที่ 23 พฤษภาคม ของทุกปีเป็น วันเต่าโลก (World Turtle Day) นอกจากจะรณรงค์ให้เต่าน้อยคงอยู่กับเราได้อย่างยาวนานแล้ว Inzpy วันนี้มี 5 อันดับ สายพันธุ์เต่าน่าเลี้ยง ดูแลง่าย และ ข้อควรรู้ก่อน “เลี้ยงเต่า” เพื่อรณรงค์ให้เต่าที่เป็นสัตว์เลี้ยง มีชีวิตที่ดี มีความสุขกันทุกบ้านค่ะ

5 อันดับ สายพันธุ์เต่าน่าเลี้ยง ดูแลง่าย

1. เต่าซูลคาต้า (Sulcata tortoise)

เต่าซูลคาต้า หรือที่รู้จักในชื่อ “เต่าเดือยแอฟริกัน” เป็นเต่าบกที่ความใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากเต่ายักษ์กาลาปากอส และเต่ายักษ์อัลดาบรา โดยขนาดเมื่อโตเต็มที่ยาว 150 ซม. และหนักถึง 91 กก.

มีอายุยาวกว่า 100 ปี มีถิ่นกำเนิดในทะเลทรายซาฮาราในแอฟริกา และมีเปลือกสีเหลืองน้ำตาลที่มีลายสีน้ำตาลเข้มหรือสีด

สายพันธุ์เต่าน่าเลี้ยง ที่เป็นที่รู้จักจากนิสัยที่เชื่องและอยากรู้อยากเห็น และเป็นที่นิยมของเหล่าบรรดาไฮโซทั้งหลาย ที่เลี้ยงไว้เสริมบารมีความร่ำรวย ตามศาสตร์ความเชื่อ (ส่วนหนึ่งก็ไว้อวดกันว่าใครจะเลี้ยงได้ตัวใหญ่ที่สุด)

น้องเป็นเต่าที่เลี้ยงง่ายและไม่ทำร้ายใคร สามารถเลี้ยงในสนามหญ้าหน้าบ้านได้ แต่น้องต้องการพื้นที่มากในการเดินเตร่และเล็มหญ้า จึงไม่เหมาะสำหรับคอนโด / อพาร์ตเมนต์ นอกจากนี้เต่าซูลคาต้าพวกมันยังต้องการแสงแดดมาก

2. เต่าดาวอินเดีย (Geochelone elegans)

เต่าดาวอินเดียเป็นเต่าบกขนาดกลางสายพันธุ์พื้นเมืองในอินเดียและศรีลังกา บนกระดองหลังของเต่าดาวอินเดียจะเป็นรูปโดมสูง กระดองมีลวดลาย และสีสันสวยงามเปลือกตา ด้วยสีเหลืองหรือสีแทนที่มีเครื่องหมายรูปดาวสีดำ เต่าดาวอินเดียสามารถโตได้ยาวถึง 50 ซม. และหนักได้ถึง 15 กก.

เต่าดาวอินเดีย เป็นสัตว์รักสงบ ไม่วุ่นวาย และเป็น “สายพันธุ์เต่าน่าเลี้ยง” ที่ดีสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ไม่ชอบอากาศชื้น ฉะนั้นเต่าจะอยู่ในพื้นที่ร้อนแห้งและไม่มีน้ำขัง พวกมันเหมาะสมกับการใช้ชีวิตในคอกกลางแจ้ง เนื่องจากพวกมันชอบสภาพแวดล้อมที่มีแดดและแห้ง

3. เต่าเรดฟุต (Chelonoidis carbonarius)

เต่าเท้าแดง หรือ เต่าเรดฟุต เป็นเต่าบกขนาดกลางสายพันธุ์พื้นเมืองในอเมริกาใต้ พวกมันมีเปลือกสีน้ำตาลเข้มหรือสีดำที่มีแต้มสีแดงหรือสีส้มที่ขาและหัวตามชื่อของมัน เต่าเท้าแดงสามารถโตได้ยาวถึง 50 ซม. และหนักได้ถึง 15 กก.

มันเป็นเต่าที่เกิดมาในสภาพอากาศกลางๆ ทำให้มันสามารถปรับตัวได้กับสภาพอากาศหลายรูปแบบในที่เลี้ยง เต่าเรดฟุตนั้นราคาไม่แพง และรวมกับนิสัยขี้สงสัยชอบเดินของมัน กระตือรือร้นและอยากรู้อยากเห็น ทำให้มันมักจะเป็นตัวเลือกแรก ๆ ของผู้เลี้ยงเต่าบกมือใหม่

วิธีเลี้ยงเต่า เต่าเรดฟุตจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่เพียงพอ ใช้ชีวิตในคอกกลางแจ้ง เนื่องจากพวกมันชอบสภาพแวดล้อมที่มีแดดและชื้น

4. เต่าญี่ปุ่น หรือ เต่าแก้มแดง (Trachemys scripta elegans)

เป็นเต่าน้ำจืดชนิดหนึ่ง ที่ได้ชื่อว่าเต่าญี่ปุ่นเพราะในประเทศไทย พ่อค้าชาวญี่ปุ่นเป็นบุคคลแรกที่นำเต่าชนิดนี้มาขาย แต่น้องมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ทวีปอเมริกาเหนือ

คนส่วนใหญ่คนจะเลี้ยงเพราะความน่ารัก โดยหารู้ไม่ว่าน้องโตได้ถึงหนึ่งฟุต ลักษณะเมื่อแรกเกิด กระดองจะเป็นสีเขียว เมื่อโตขึ้นจะเปลี่ยนไปเป็นสีคล้ำ เท้าทั้ง 4 ข้างมีพังผืดใช้ว่ายน้ำได้ดี มีจุดเด่นคือ รอบๆ ดวงตามีสีแดง

เต่าญี่ปุ่น จัดเป็นเต่าที่เลี้ยงง่ายและกินไม่เลือกทั้งพืชและสัตว์ มีอาหารสำเร็จรูปหลายยี่ห้อวางขายให้เลือกใช้ เนื่องจากเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ วิธีเลี้ยงเต่า จึงต้องมีพื้นที่แห้งให้มันได้ขึ้นมาผึ่งตัวบนบกบ้าง มีการเปลี่ยนน้ำทุกอาทิตย์ ไม่ต่างจากปลาหรือสัตว์น้ำอื่นๆ เพราะมันจะขับถ่ายของเสียลงในน้ำ

5. เต่าเสือดาว (Geochelone pardalis)

เต่าเสือดาวเป็นเต่าบกสายพันธุ์ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก รองจาก เต่ากาลาปากอส, เต่าอัลดาบร้า และเต่าซูลคาต้า มีถิ่นกำเนิดในทุ่งหญ้าสะวันนาของแอฟริกา

เป็นเต่าบกที่มีลวดลายของกระดองสวยงาม พวกเขามีสีเหลืองหรือเปลือกสีแทนมีรอยดำคล้ายจุดเสือดาว สามารถโตได้ยาวถึง 75 ซม. และหนักได้ถึง 27 กก.

เต่าเสือดาวเป็นที่รู้จักจากบุคลิกที่เชื่องและสงบ และเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดีสำหรับผู้ที่มีพื้นที่กว้าง เหมาะกับการใช้ชีวิตในคอกกลางแจ้ง เนื่องจากพวกมันชอบสภาพแวดล้อมที่มีแดดและแห้ง

สิ่งที่คุณควรรู้ก่อน “เลี้ยงเต่า”

ถ้าพูดถึงเต่า ก็จะนึกถึงความเก่าแก่ และอายุที่ยืนยาว แต่ใช่ว่าเราสามารถเลี้ยงเต่าแบบทิ้งขว้างได้ เพราะน้องละเอียดอ่อนกว่าที่คิด ดังนั้นคนไหนที่อยากเลี้ยงเต่า ต้องนึกถึงสิ่งเหล่านี้ให้ดี

1. เต่าเป็นสิ่งที่ผูกพันในระยะยาว – เต่าบางสายพันธุ์สามารถมีชีวิตอยู่ได้หลายทศวรรษ ดังนั้นควรเตรียมพร้อมที่จะดูแลพวกมันไปนาน ๆ
2. วิธีเลี้ยงเต่า แต่ละสายพันธุ์นั้นแตกต่างกัน – ควรศึกษาสายพันธุ์ก่อนเลี้ยง เพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถตอบสนองความต้องการเฉพาะของน้อง ๆ ได้
3. คุณภาพน้ำเป็นสิ่งสำคัญ – เต่าต้องการน้ำที่สะอาดและผ่านการกรองเพื่อสุขภาพที่ดี
4. การให้อาหารเต่าอาจทำให้น้ำเน่าเสีย – รับมือการเตรียมอาหารและเศษขยะในน้ำ ซึ่งจำเป็นต้องทำความสะอาดเป็นประจำ
5. เต่าต้องการอาหารที่หลากหลาย – เต่าไม่ได้กินแต่ผักบุ้ง ต้องให้ทั้งอาหารเม็ด ทั้งผักและผลไม้สด อย่างสมดุล
6. เต่าต้องการแสงและอุณหภูมิที่เหมาะสม – หากไม่มีแสงและอุณหภูมิที่เหมาะสม เต่าของคุณอาจป่วยและตายได้
7. โรงเรือนและอุปกรณ์ที่ใช้เลี้ยงอาจมีราคาแพง – เต่าไม่ใช่สัตว์เลี้ยงที่ต้องการการบำรุงรักษาต่ำ แท็งก์น้ำ แสงสว่าง และเครื่องทำความร้อนที่เหมาะสมอาจมีราคาสูง
8. เต่าสามารถเป็นพาหะนำเชื้อซัลโมเนลลาได้ – หมั่นล้างมือทุกครั้งหลังจับเต่าหรือทำความสะอาดตู้ปลา

บทความน่าสนใจ

• แนะวิธีเลี้ยงงู Ball Python ม้วนเดียวจบ!
• แนะนำ 7 ห้างพาหมาแมวไปเดินเล่น
• 5 Think สิ่งต้องรู้ก่อนเลี้ยงเจ้านาย ในคอนโด !
• แมวจรจัดมาอยู่บ้าน ไม่อยากเลี้ยง วิธีไล่แมวจรจัดออกจากบ้าน

และสุดท้าย เต่าสามารถเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่าหลงใหล ขี้อ้อน และสนุกสนานได้ไม่ต่างจากสุนัขและแมว เต่าจะมอบมิตรภาพที่แสนยาวนานหลายปี ถือเป็นรางวัลชีวิตเลยค่ะ ฉะนั้นควรบำรุงรักษาตู้เลี้ยง การให้อาหาร และตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ให้น้องเต่าแสนรักอยู่กับเราไปนาน ๆ นะคะ

ขอบคุณที่มาจาก glurgang.com, petsayhai.com

เรียบเรียงโดย Inzpy