More

    แชมเปญ ทำไมถึงเป็นสัญลักษณ์แห่งการเฉลิมฉลอง

    แชมเปญ ทำไมถึงเป็นสัญลักษณ์แห่งการเฉลิมฉลอง

    เมื่อพูดถึงแชมเปญ (Champagne) คนส่วนใญ่จะนึกถึงเทศกาลการเฉลิมฉลองต่าง ๆ เช่น เทศกาลคริสต์มาสหรือปีใหม่ แล้วทำไมแชมเปญถึงได้เป็นเครื่องดื่มแห่งการฉอง วันนี้เราจะมาตามหาความจริงกัน

    Champagne producers expect to celebrate record sales in 2022

    สัญลักษณ์ของการเฉลิมฉลอง

    ด้วยลักษณะการหมักบ่มที่ยุ่งยากกว่าไวน์ชนิดอื่น ๆ และผลิตได้เฉพาะในแคว้นชองปาญ ประเทศฝรั่งเศสเท่านั้น เครื่องดื่มชนิดนี้จึงกลายเป็นของหายาก และเป็นเครื่องดื่มเฉพาะของผู้ที่มีฐานะเท่านั้น ลักษณะพิเศษของแชมเปญที่มีสีเหลืองทอง และมีพรายฟองน้ำผุดขึ้นมาจนทำให้กลายเป็นเครื่องดื่มที่มีความพิเศษไม่เหมือนใคร การจะดื่มเครื่องดื่มชนิดนี้จึงต้องเกิดขึ้นในวาระพิเศษเท่านั้น และไม่มีวาระไหนที่จะเหมาะสมไปมากกว่าการเฉลิมฉลองต่าง ๆ แล้ว ในภายหลัง เครื่องดื่มชนิดนี้ยังถูกปรับปรุงและมีกฎหมายเพื่อควบคุมการผลิตและควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด ตั้งแต่เรื่องของสภาพภูมิอากาศ สภาพของดินที่ปลูกองุ่น รวมถึงลักษณะทางภูมิประเทศต่างๆ ที่อาจจะมีผลต่อรสชาติ ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดนี้จะต้องมีการระบุไว้ในฉลากของแชมเปญทุกขวด หากเครื่องดื่มนี้คุณซื้อมาจากฝรั่งเศสจริง ๆ จะมีบอกเลยว่าผลิตในภูมิประเทศแบบไหน มีปริมาณความชื้นเท่าไร ใช้องุ่นสายพันธุ์ใดบ้าง ทุกอย่างจะตรวจสอบย้อนหลังได้หมด เหมือนการซื้อแบรนด์เนมยี่ห้อหนึ่งเลย

    Champagne

    คำว่า “Champagne” มาจากไหน

    มาจากภาษาลาติน เป็นชื่อของเขตหนึ่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นแหล่งปลูกองุ่นและผลิตแชมเปญที่มีชื่อเสียง ตามกฎหมาย ไวน์ที่มีก๊าซที่ ผลิตในเขตนี้เท่านั้น จึงจะเรียกว่า แชมเปญ ซึ่งเป็นชื่อที่จดลิขสิทธิ์ไว้โดยเฉพาะ หากผลิตจากเขตอื่นๆจะเรียกว่า สปาร์กลิงไวน์ แชมเปญจึงเป็นสปาร์กลิงไวน์ชนิดหนึ่ง แต่เนื่องจากได้รับความนิยมมากที่สุดในบรรดาสปาร์กลิงไวน์ทั้งหลาย จึงมักเรียกสปาร์กลิงไวน์หรือไวน์ที่มีก๊าซโดยทั่วไปว่าแชมเปญองุ่นที่ใช้ทำแชมเปญ

     

    บาทหลวง Dom Perignon

    ประวัติศาสตร์

    แชมเปญเป็นชื่อของแคว้น Champagne ในฝรั่งเศส ไวน์ฟองที่มาจากแคว้นนี้เท่านั้นจึงเรียกอย่างเป็นทางการได้ว่าแชมเปญ และเรียกไวน์ฟองจากที่อื่นๆรวมกันว่า Sparkling Wine การเรียกแชมเปญเป็นชื่อสามัญของไวน์ฟองกันจนติดปากก็เพราะแคว้นแชมเปญคือต้นกำเนิดของไวน์ฟอง และเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่าเป็นแหล่งผลิตไวน์ฟองคุณภาพดีที่สุดในโลก เดิมทีแคว้นแชมเปญผลิตไวน์ไม่มีฟองจากองุ่น Pinot Noir และ Chardonnay เหมือนแคว้น Burgundy เพื่อนบ้านที่อยู่ด้านใต้และเป็นคู่แข่งกัน ไวน์ฟองเกิดจากอุบัติเหตุระหว่างการขนส่งไปประเทศอังกฤษ เพราะไวน์เกิดการหมักตัวครั้งที่สองขึ้นเองในขวดเนื่องจากอุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้เกิดฟองในน้ำไวน์ เป็นปัญหาที่คนทำไวน์สมัยนั้นต้องหาวิธีป้องกันแก้ไข ในทศวรรษ 1690 บาทหลวง Dom Perignon และ Frere Oudart ได้เปลี่ยนปัญหาให้เป็นโอกาส เพราะเห็นว่าไวน์มีฟองก็ให้มิติลึกล้ำอีกแบบหนึ่ง จึงหันมาตั้งใจทำไวน์ฟองอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ช่วยกันค้นหาวิธีทำให้ไวน์ฟองมีคุณภาพ และเป็นจุดเริ่มต้นของการค้นคิดกรรมวิธีเพื่อพัฒนาไวน์ฟองให้ถูกอกถูกใจบรรดาไวน์มาจนถึงทุกวันนี้

    Napoléon Bonaparte

    ที่มาของการเปิดขวดแชมเปญแบบ Sabrage

    ตำนานการเปิดขวดแชมเปญ นโปเลียนนั้นชมชอบแชมเปญอย่างมากเรียกได้ว่า คลั่งไคล้ โดยเฉพาะในโอกาสฉลองชัยชนะ หนึ่งในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ยืนยันได้ คือภาพวาดเมื่อครั้งเยือนโรงบ่ม Moët et Cie ในปี ค.ศ.1807 การมาเยียมห้องเก็บแชมเปญ Moet & Chandon ครั้งแรกของ Napoleon ในปี 1807 ถูกต้อนรับโดย Jean Remy Moêt


    นโปเลียนยังถือได้ว่าเป็นต้นกำเนิดประเพณี Sabrage หรือ Champagne Sabering หรือการใช้กระบี่เปิดแชมเปญ ในระหว่างสงครามนโปเลียน (1803–1815) กองทหารม้าของเขาได้รับชัยชนะต่อเนื่องในหลายสมรภูมิรบ ครั้งหนึ่งเมื่อกองทัพเดินทางกลับสู่เมืองชองปาญ ชาวเมืองก็ร่วมเฉลิมฉลองด้วยการโยนขวดแชมเปญให้กับเหล่าทหารบนหลังม้า แต่เครื่องแต่งกายที่เต็มยศนั้นค่อนข้างจะเป็นอุปสรรค ทหารม้าจึงชักกระบี่ที่เป็นอาวุธคู่กายมาฟันจุกคอร์กให้กระเด็น เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ไม่มีใครคาดคิดว่าวิธีการนี้จะกลายมาเป็นประเพณีฉลองชัยของกองทัพแห่งนโปเลียนไปโดยปริยาย

    Sabrage



    จนทำให้การเปิดขวดเฉลิมฉลองวิธีนี้ก็ถูกบัญญัติเรียกว่า Sabrage หรือ Champagne Sabering ที่กลายมาเป็นประเพณีคลาสสิกอย่างหนึ่งของการเปิดไวน์เฉลิมฉลองมาจนถึงทุกปัจจุบันนี้

    จบไปแล้วสำหรับครบเครื่องเรื่องแชมเปญฉบับรวบรัด หากอ่านมาถึงตรงนี้ เชื่อว่าจะทำให้ผู้ชายทั้งหลายมีความรู้และความเข้าใจเรื่องของแชมเปญมากขึ้นแน่นอนครับ ปิดท้ายด้วยสิ่งที่เราคอยย้ำเตือนเสมอมาเกี่ยวกับเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คือ เมาไม่ขับนะครับ

    Related Post