ปัจจุบันสังคมได้เปิดรับเรื่องรอยสัก การสักมากขึ้นทำให้หลาย ๆ คนที่หลงไหลในงานศิลปะหันมาสักกันมากขึ้น ยิ่งกระแสรอยสักมินิมอลจากประเทศเกาหลีก็ยิ่งทำให้เกิดกระแสบวกมากขึ้น โดยเฉพาะคนไหนที่เป็นมือใหม่เรื่องการสักแล้วอาจจะอยากรู้ว่ามีวิธีไหนบ้างที่สามารถรักษารอยสักให้ดูใหม่ สีสด สีชัด และรวมไปถึงการดูแลหลังจากการสักอีกด้วย Inzpy จะพาทุกคนมาร่วมหาคำตอบกันค่ะ
วิธีดูแลรอยสัก
1.ต้องรักษาความสะอาด
หลังจากที่ช่างสักให้เราเสร็จแล้ว จะมีการพันฟิล์มหรือผ้าปิดแผลบริเวณที่สักไว้ให้จำไว้ว่าทุกครั้งที่เราจะสัมผัสบริเวณรอยสักให้ล้างมือให้สะอาดเสียก่อน เพื่อป้องกันการติดเชื้อเวลาที่เราเอามือไปสัมผัสรอยสักค่ะ
2.ทำความสะอาดอย่างเบามือ
วันแรก ๆ หลังจากสักเสร็จจะมีคราบน้ำเหลือง คราบเลือด และสีของรอยสักไหลซึมออกมานอกแผล ทำความสะอาดได้โดยการล้างรอยสักด้วยน้ำอุ่น ใช้มือกวักน้ำอุ่นราดบนรอยสักและถูอย่างเบา ๆ ช้า ๆ เพื่อล้างคราบ วิธีนี้จะช่วยไม่ให้รอยสักเกิดเป็นแผลสะเก็ด ข้อห้าม ไม่ควรใช้ใยบวบ สบู่ หรืออุปกรณ์ขัดตัวใด ๆ ในการทำความสะอาดรอยสักเด็ดขาด
3.เช็ดให้แห้ง
บริเวณรอยสักมีความบอบบางมากเราจำเป็นต้องระวังระวังเรื่องของการโดนน้ำ โดนตัวแผล การเช็ดรอยสักให้แห้งหลังทำความสะอาดคราบต่าง ๆ มี 2 วิธี ได้แก่ การผึ่งให้แห้ง หรือซับรอยสักให้แห้งด้วยกระดาษทิชชู่สำหรับเช็ดหน้า เพราะเนื้อจะแน่นและนุ่มกว่ากระดาษทิชชู่ทั่วไปโดยซับแบบเบามือ ไม่ถูปาดไปมา หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าขนหนูซับเพราะอาจจะทำให้รอยสักระคายเคืองและเศษผ้าขนหนูเข้าไปติดแผลได้
4.ทายาเคลือบรอยสัก
แนะนำให้ใช้ตัวยาชนิดขี้ผึ้งฆ่าเชื้อแบบไม่ผสมน้ำหอม หลังจากซับรอยสักแห้งแล้วผิวจะเริ่มตึง ๆ ให้ทายาบริเวณที่สักเพียงบาง ๆ ให้พิขึ้นเงาครอบคลุมทั่วรอยสักโดยถูอย่างเบามือ
5.ระวังอย่าโดนน้ำ
รอยสักใหม่ ๆ ก็เหมือนแผลสดดี ๆ นี่เองเราต้องรอให้แผลตกสะเก็ดก่อนจึงจะปล่อยให้โดนน้ำได้ ถ้าแผลเผลอโดนน้ำก็เพียงแค่ทำตามขั้นตอนที่บอกไปตั้งแต่ต้นนั่นเอง
6.ระวังเรื่องอาการคัน
เมื่อแผลแห้งผิวเริ่มตึง หรือเริ่มตกสะเก็ด เราต้องรับมือปัญหาเหล่านี้ด้วยการทาครีมเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับรอยสัก อดทนที่จะไม่เกาแผลสักนิดนะช่วงนี้
จบไปแล้วกับรวมวิธีดูแลรอยสัก ใครที่เพิ่งเข้าวงการสักอาจจะต้องอดทนมากเป็นพิเศษยิ่งเรื่องการเกาแผลนี่ต้องสะกดจิตตัวเองไว้เลย ถ้าเผลอไปเกาไปจับงานนี้อาจจะเจ็บตัวเพิ่มเพราะต้องไปเติมสีเก็บงานใหม่ แล้วเมื่อไหร่จะได้อวดรอยสักสักทีล่ะเนี่ย
แหล่งที่มา: helenathailand.co