ช่วงนี้ศิลปินต่างประเทศเริ่มที่จะกลับมาทัวร์คอนเสิร์ตในบ้านเราแล้ว ซึ่งก็มีหลายวง หลายศิลปินที่ประกาศออกมา ซึ่งมันทำให้นึกถึง การ์ตูนเรื่อง Beck ปุปะจังหวะฮา การ์ตูนที่เกี่ยวกับวงดนตรี และได้ออกไปทัวร์คอนเสิร์ต ผมบอกเลยว่าถ้าใครได้อ่านการ์ตูนเรื่องนี้ หรือดูหนัง Live Action แล้วล่ะก็มี Inzpy ที่จะลุกขึ้นมาทำวงดนตรีแน่นอน
Beck ปุปะจังหวะฮา มังงะที่คนรักดนตรีต้องอ่าน
สำหรับ ปุปะจังหวะฮา นั้นเป็นมังงะ หรือการ์ตูนญี่ปุ่นซึ่งเป็นผลงานของ Harold Sakuishi ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Shonen Magazine ฉบับรายเดือน ของสำนักพิมพ์โคดันฉะ ในปีช่วงปี 1999-2008 ครบ บอกเลยว่า Beck นั้นเป็นการ์ตูนที่สร้างแรงบันดาลใจได้ดีมาก ๆ สำหรับคนที่รักในเสียงดนตรี และเพลงร็อก!
ปุปะจังหวะฮานั้นเป็นเรื่องราวของ โคะยูกิ หรือ ทานากะ ยูกิโอ เด็กนักเรียน ม.ต้น ผู้อ่อนแอ ที่ไปโดนหมาที่มีลักษณะแปลก ๆ งับเข้าให้ ก่อนที่เจ้าของจะมาช่วยเอาไว้ โดยคน ๆ นั้นคือ ริวสึเกะ เด็กหนุ่มที่มาจากอเมริกา
ซึ่งดันเกิดความประทับใจกันและกัน ริวสึเกะ จึงมอบกีต้าร์ให้กับ โคะยูกิ และนี่คือจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ของวงดนตรีที่จะกลายเป็นตำนาน (มั้ง?) ในอนาคต
ซึ่งตัวของโคะยูกิ นั้นรู้ว่า ริวสึเกะอยากจะทำวงดนตรีครับ ซึ่งเจ้าตัวนั้นอยากที่จะร่วมวงกับริวสึเกะมาก ๆ แม้ว่าจะเล่นกีต้าร์ไม่เป็นเลย แต่เจ้าตัวก็ฝึกหนักสุด ๆ จนในที่สุดก็ขอไปลองเทสดู ซึ่งในตอนนั้น ริวสึเกะ มีสมาชิกอยู่แล้วสามคนคือ ริวสึเกะ เล่นกีต้าร์, จิบะ แรพเปอร์จอม Hype และ ไทระ มือเบสฝีมือเยี่ยมที่วงไหน ๆ ก็ต้องการตัว
ซึ่งโคะยูกิก็ไปร่วมแจมด้วย โดยเข้าไปเป็นในลักษณะคล้าย ๆ สมาชิกชั่วคราว ร่วมกับเพื่อนสนิทของเขาที่โดนรังแกมาด้วยกันในดรงเรียนอย่าง ซากุ ที่รับหน้าที่เป็นมือกลอง โดยในตอนแรกนั้น โคะยูกิ ไม่เป็นที่ยอมรับเท่าไหร่ จนกระทั่งโดยโอกาสโชว์พลังเสียงที่ทำเอาทุกคนอึ้งกันไปหมด และนั่นคือจุดที่ทำให้ทั้ง โคะยูกิ และ ซากุ ได้เป็นสมาชิกหลักแบบเต็มตัว
โดยการ์ตูนเรื่องดำเนินเรื่องสนุกมากนะครับ เพราะวง Beck นั้นเป็นวงอินดี้ ที่ทำกันเองทุกอย่าง อะขออธิบายคำว่า “อินดี้” ก่อน คือคำว่าอินดี้เนี่ย มันไม่ใช่ว่าเป็นวงที่ เป็นตัวของตัวเอง หรือมีเพลงแบบแนวลึก ๆ เข้าถึงยากอะไรแบบนั้นนะ เพราะจริง ๆ อินดี้ เนี่ยมันหมายถึง วงที่ทำเอง วงเล็ก ๆ ที่ค่อย ๆ เริ่มต้นขึ้นมา ก่อนที่จะมีสังกัด ประมาณนั้นแหละ
ซึ่งวงของริวสุเกะและดคะยูกิ ก็ค่อย ๆ ไต่เต้า เริ่มจากช่วยกันแต่งเพลง ช่วยกันซ้อม ช่วยหัดให้โคะยูกิเล่นกีต้าร์ได้ดีขึ้น ก่อนที่จะเริ่มไปเล่นในไลฟ์เฮ้าส์เล็ก ๆ และด้วยศักยภาพของวงที่ดีอยู่แล้ว (แต่ยังไม่ดัง)
บวกกับเสียงร้องของโคะยูกิ ก็ทำให้มค่ายเพลงทาบทามเข้ามา แต่มันก็มีข้อแม้ต่าง ๆ ตามด้วย อาทิต้องเปลี่ยนชื่อวง ต้องไปทัวร์ต่างประเทศแบบไม่ได้พัก ต้องทำตามเงื่อนไข บลา บลา บลา ต่าง ๆ
เท่านั้นยังไม่พอ พวกเขายังโดนอำนาจมืดของคนในวงการดนตรีญี่ปุ่นเล่นงานอีก เรียกว่าอุปสรรคเยอะเหลือเกิน เอาง่าย ๆ ว่า วงแตกก็เคยมาแล้ว คลื่นใต้น้ำภายในวงอย่างงี้
แต่กระนั้นในความโชคดีคือ แม้ว่าพวกเขาบางคนจะงอนกันแค่ไหน แต่ก็ไม่เคยมีใครที่ตัดใจจาก Beck ได้เลย และสุดท้ายพวกเขาก็กลับมาในที่จุดเริ่มต้นของพวกเขา ซึ่งวงของพวกเขานั้นก้ต้องยอมรับว่า มักจะเจอก้าวกระโดดสำคัญ ๆ อยู่บ่อย ๆ และก้าวสำคัญที่สุดคือ “Dying Breed”
วงดนตรีที่โด่งดังมาก ๆ ในอเมริกา เรียกว่าเป็นวงหน้าใหม่ที่ฮิตระเบิดระเบ้อ โดยมี เอ็ดดี้ และ แมท เป้นแกนนำ ซึ่งเอ็ดดี้นั้นเป็นเพื่อนสนิทของ ริวสึเกะ หรือ เรย์ ที่เอ็ดดี้เรียก โดยในครั้งหนึ่ง Dying Breed มาเยือนญี่ปุ่น เพ่อในวงการเพลงได้ดีลกับวงว่า จะให้ศิลปินในสังกัดของตัวเองขึ้นไปแสดงร่วมกับ DB
แต่ปรากฎว่า แมท นั้นเผากีต้าร์ของศิลปินคนนั้น และเรียกโคะยูกิ ขึ้นมาร้องสร้างความประทับใจ และชื่อเสียงให้กับ Beck ไปอีกเยอะเลย ซึ่งหลังจากตรงนั้นเหมือนว่า พวกของโคะยูกิจะก้าวข้ามอาจมืดในญี่ปุ่นได้แล้ว แต่ไม่วายต้องไปเจอระดับเจ้าพ่อตัวจริงของอเมริกา ที่ตามล่า ริวสึเกะ เพราะเขาขโมย ลูซีน กีต้าร์ระดับตำนานไป
ซึ่งตรงนี้เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนของเรื่อง จากที่วงมีชื่อเสียง ได้ออกอัลบั้ม จากวงอินดี้ก็มีสังกัด จากเล่นไลฟ์เฮาส์ก็ได้เล่นเฟสติวัล จนสุดท้ายต้องมาต่อสู้ใน เฟสติวัลสุดท้ายของเรื่องที่ Beck นั้นได้แสดงบน Satge 3 อันเป็นเวทีเล็ก ๆ แต่ต้องทำเควสรวบรวมคนให้มากกว่า Stage 1 และ 2 ให้ได้ ไม่อย่างงั้น ตาย!
บอกเลยว่านี่เป็นการ์ตูนดนตรีที่ดำเนินเรื่องสนุกจริงครับ เนื้อหาโคตรเข้มข้น เอาความจริงของวงการดนตรีมาพูดถึง แทรก ๆ ซึม ๆ นอกจากนี้ยังมีเหล่าศิลปินรับเชิญชื่อดังมากมายมาโปผล่ในเรื่องอีก อย่างเช่น เคิร์ท โคเบน, จอห์น เลนน่อน, บ็อบ มาร์เลย์ หรือ จิมมี่ เฮนดริก
คาแรคเตอร์ที่มีแรงบันดาลใจ
ส่วนดีไซส์ของตัวละคร ไม่ได้วาดมาแบบส่ง ๆ ทุกคนมีคาแรคเตอร์และแรงบันดาลใจ อย่าง คิบะ ก็เหมือนกับ “Zack de la Rocha” แห่งวง Rage Against the Machine, ริวสึเกะ มือกีต้าร์มากพรสวรรค์ ที่มีกลิ่นของ “Jimmy Page” มือกีต้าร์แห่งวง Led Zeppelin อยู่เต็มไปหมด
ส่วน โคะยูกิเองก็ได้มีคนใน Pantip วิเคราะห์มากว่า คล้ายกับ Tom Morello แห่งวง Rage Against the Machine ด้วยการเล่นกีต้าร์ Telecaster และสวมหมวกแก็ปเหมือนกัน ไหนจะสกิลการแต่งเพลงแบบจอห์น เลนน่อน การร้องเพลงแบบ เลียม กัลลาเกอร์ อีก (เอ็งจะเทพไปแล้วเฮ้ย)
ส่วนไทระ อันนี้ดุออกแบบสุด ๆ ด้วยสไตล์ Slap เบสสุด Funky สีผม หุ่น ลักษณะท่าทาง แถมชอบถอดเสื้อ เขาต้องเป็นตัวแทนของ “Flea” แห่งวง Red Hot Chili Peppers แน่นอน
สุดท้าย ซากุ คนนี้ดูแล้วไม่เหมือนใครที่สุด ยกเว้นท่าตีกลองที่คนใน Pantip บอกว่า คล้ายกับ เดฟ โกรว สมัยตีให้กับ Nirvana ครับ
การ์ตูนเรื่องนี้ได้รับความนิยม จนถูกทำออกมาเป็น Live Action เลยครับ และอยากจะบอกว่า เป็น Live Action ที่ดีเรื่องหนึ่งเลยครับ คือด้วยความเป็นหนัง 2 ชั่วโมงหน่อย ๆ การจะเก็บให้ครบทุกเรื่องราวคงเป็นไปไม่ได้ แต่ตัวหนังนั้นก็เก็บรายละเอียดสำคัญ ๆ ได้ครับ
ทั้งเรื่องของนิมิตของวง อุปสรรคต่าง ๆ เรื่องของ Dying Breed มาเฟียต่างประเทศและลูซีน พัฒนาการของวงและตัวละครที่ค่อย ๆ ถูกยอมรับขึ้นเรื่อย ๆ
และแน่นอนว่า เพลงประกอบก็ดี อย่าง Evolution คือมันส์มาก แม้ว่าเสียงโคะยูกิจะถูก mute เอาไว้ ส่วนหนึ่งเพราะในมังงะมันบรรยายไว้ดีแบบเว่อร์วัง คงจะหาเสียงร้องแบบนั้นไมได้ เลยปิดไปจบ ๆ (ฮา)
เอาเป็นว่าไปหาอ่าน และหาดูกันครับ เป็นการ์ตูนที่ควรค่าแก้การอ่านสักครั้งในชีวิตจริง ๆ สำหรับ Beck ปุปะจังหวะฮา