การปลูกผักหน้าฝนที่ถูกต้องตามฤดูการ
การ ปลูกผักหน้าฝน ในช่วงนี้ควรเลือกผักที่ตรงตามฤดูกาลเพราะจะช่วยให้สามารถเก็บผลได้ไวมากขึ้นรวมถึงยังสามารถดูแลได้ง่าย ช่วยประหยัดเงิน ได้ออกแรง และหมดน่าฝนก็มีผลผลิตไว้กินที่ดีต่อสุขภาพ เรียกว่ามีแต่ได้กับได้ วันนี้เลยขอแนะนำผักหน้าฝนสำหรับปลูกในครัวเรือน ปลูกง่ายทำได้เองที่บ้าน โดย ผักที่ควรปลูกหน้าฝน มีดังนี้
-
ผักชีลาว (เก็บเกี่ยวได้ใน 14 วัน)
ผักชีลาวอยู่ในตระกูลเดียวกับผักชี เป็นพืชล้มลุก โดยส่วนใหญ่มักจะถูกเก็บต้นและใบสดก่อนออกดอก สามารถนำมาประกอบอาหาร มีโภชนาการหลากหลาย ทั้ง วิตามิน B วิตามิน C ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง มีแคลเซียมสูงช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ช่วยระบบขับถ่าย รวมถึงช่วยเพิ่มน้ำนมให้กับคุณแม่และส่งผลดีต่อลูกในครรภ์ ซึ่งผักชีลาวสามารถเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่ 14 วันหลังจากทำการปลูก และสามารถเก็บเมล็ดมาเพื่อเพาะพันธ์ได้หลังจาก 50-70 วัน ถือว่าเป็นพืชที่ออกผลผลิตให้เก็บเกี่ยวได้เร็วมาก ๆ
-
ผักโขม (เก็บเกี่ยวได้ใน 20 วัน)
ถือเป็นผักที่ขึ้นได้ทั่วไปตามแหล่งธรรมชาติ มีหลากหลายพันธ์แต่พันธ์ที่นิยมนำมารับประทานอาหารคือ ผักโขมสวน ผักโขมหนาม ผักโขมหัด เป็นต้น ผักโขมเป็นพืชที่มีโปรตีนสูง และมีทั้งกรดอะมิโน วิตามิน และแร่ธาตุ แต่ผักโขมนั่นก็มีข้อควรระวังนั่นคือมีสารออกซาเลต (Oxalate) ค่อนข้างสูง คนที่เป็นโรคนิ่ว โรคเกาต์ จะต้องระวังไม่ควรกินในปริมาณมาก ส่วนการเก็บเกี่ยวผลผลิตนั้น หลังจากการปลูก 20-25 วัน ก็จะสามารถเริ่มเก็บเกี่ยวได้ ส่วนถ้าใครอยากเก็บเมล็ดพันธ์ไว้เพาะสามารถเก็บได้หลังจากเพาะ 70 วัน ปลูกง่ายไม่ต้องลงทุนมากแถมยังให้ผลผลิตไวมาก ๆ ด้วย
-
ต้นหอม (เก็บเกี่ยวได้ใน 30-45 วัน)
ต้นหอมผักคู่ครัวคนไทยมาอย่างยาวนานเป็นพืชล้มลุกตระกูลเดียวกับกระเทียม โดยต้นหอมนั้นมีสรรพคุณที่หลากหลาย ทั้งนำไปประกอบอาหารหรือนำไปทำเป็นน้ำมันหอมระเหย ที่ช่วยบรรเทาอาการหวัดได้ และต้นหอมนั้นมีสารฟลาโวนอยด์ที่ช่วยต้านมะเร็งได้อีกด้วย และสามารถช่วยลดไขมันในเลือดได้ ถือว่าเป็นวัตถุดิบของคนไทยที่มีสรรพคุณมากมาย สามารถเก็บเกี่ยวได้ใน 30-45 วันหลังการเพาะปลูก เป็นพืชคู่ครัวที่ปลูกได้ง่ายเก็บเกี่่ยวได้ไวเหมาะสมในฤดูฝนอีกด้วย
-
ดอกขจร (เก็บเกี่ยวได้ใน 30 วัน)
ดอกขจรหรือดอกสลิด เป็นไม้เลื้อยประดับที่ดอกสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลาย และยังถือเป็นผักที่มีสรรพคุณทางด้านแพทย์แผนไทยสามารถรักษาโรคได้ ส่วนที่ใช้เป็นยาคือราก และดอก รากจะช่วยถอนพิษ ดอก ช่วยบำรุง หัวใจ ปอด ตับ ปอด โลหิต แก้เสมหะ ยอดอ่อน บำรุงตับ ปอด ดอกขจรจะออกดอกให้เก็บเกี่ยวได้ หลังจาก 30 วันเมื่อเริ่มปลูก และ 8-10 เดือนจะเป็นช่วงที่มีผลผลิตมากที่สุดโดยเฉพาะในช่วงเดือน พฤษภาคม-กรกฎาคม
-
ตำลึง (เก็บเกี่ยวได้ใน 30 วัน)
พืชไม้เลื้อยในวงศ์แตง ที่อย่าเรียกแค่ว่าปลูกง่าย เพราะบางบ้านไม่ได้ปลูกมันก็โตได้ มาพันรั้วบ้านเราให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง แต่เห็นแบบนี้ตำลึงมีคุณค่าทางโภชนาการที่สูงมาก ทั้งวิตามินและแร่ธาตุ โดยส่วนใหญ่นิยมเอาใบอ่อนและมาประกอบอาหาร มีสรรพคุณที่ช่วยถอนพิษ เป็นยาระบายอ่อนๆ มีวิตามินเอและสารต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งการปลูกนั้นถ้าเราปลูกตำลึงในช่วงฤดูฝนจะเจริญเติบโตได้ดีกว่าในช่วงฤดูอื่น สามารถเก็บเกี่ยวได้หลังจาก 30 วันที่ปลูก ถือว่าเป็นพืชที่ปลูกง่าย ใช้ทุนน้อย ไม่ต้องใช้พื้นที่มากและเก็บเกี่ยวได้เร็วอีกด้วย
-
หอมแดง (เก็บเกี่ยวได้ใน 45-60 วัน)
เป็นพืชที่อยู่ในเมนูแทบทุกภาคของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ เพราะหอมแดงมีความฉุนแต่รสชาติออกหวาน เหมาะแก่การนำมาทำอาหารไทยอย่างมาก และด้วยความฉุนนี้หอมแดงยังมีสรรพคุณทางยาที่ช่วยสามารถแก้อาการหวัดและต้านสารแปลกปลอมอื่นๆ ได้ นอกจากนี้หอมแดงยังอุดมไปด้วยวิตามินและคุณค่าทางอาหารอีกมาก ทั้งช่วยบำรุงสมอง ช่วยขับถ่าย และช่วยเรื่องผิวพรรณลดสิวลดจุดด่างดำได้ด้วย ถือเป็นวัตถุดิบที่ทั้งนำมาประกอบอาหารและบำรุงร่างกายได้อีกด้วย โดยการเก็บเกี่ยวผลผลิตสามารถเก็บได้ภายใน 45-60 วัน ในช่วงฤดูฝน แต่ถ้าปลูกในฤดูหนาวจะใช้ถึง 100 เพื่อการเก็บเกี่ยวเลยทีเดียว
-
ผักคะน้า (เก็บเกี่ยวได้ใน 50-55 วัน)
เป็นผักที่สามารถปลูกได้ตลอดปี แต่ฤดูที่เหมาะสมที่สุดคือช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว และถือว่าเป็นพืชที่มีระยะเวลาเก็บเกี่ยวที่สั้น เป็นพืชที่นิยมทานกันทั่วไปซึ่งคะน้ำนั้นมีสรรพคุณที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ ป้องกันการติดเชื้อต่างๆ มีสารลูทีน (Lutein) ช่วยลดความเสี่ยงของโรคต้อกระจกได้ ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม ทั้งบำรุงโลหิตและเพิ่มการไหลเวียนเลือด เป็นผักที่หาทานได้ง่าย ปลูกได้ง่ายและยังมีสรรพคุณที่หลากหลาย สามารถเก็บเกี่ยวได้ตลอดปี โดยเวลาที่เหมาะสมที่ควรเก็บเกี่ยวคะน้านั้นอยู่ที่ 50-55 วันหลังการเพาะปลูกเพาะจะเป็นช่วงที่มีน้ำหนักดีที่สุด
-
มะเขือเปราะ (เก็บเกี่ยวได้ใน 60-90 วัน)
เป็นพืชในวงศ์มะเขือ เป็นพืชล้มลุกซึ่งส่วนใหญ่จะนำผลของมันไปประกอบอาหาร ในแกงต่างๆ และถือเป็นพืชที่มีสรรพคุณมาก ทั้งช่วยลดน้ำตาลในเลือด ลดไข้ แก้ไอ ลดคอเลสเตอรอล และไม่ได้แค่ ดอกที่สามารถรับประทานได้ รากนั้นถ้านำมาต้มจะช่วยขับปัสสาวะ แก้ไอ แก้อักเสบในลำคอได้อีกด้วย ส่วนของใบนั้นถ้านำมาขยี้แผลจะช่วยห้ามเลือด ถือว่าเป็นพืชที่มีสรรพคุณทางการแพทย์มากเหมาะแก่การนำมาปลูกในครัวเรือน โดยมะเขือเปราะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ใน 60-90 วันหลังจากการเพาะปลูก
-
มะเขือยาว (เก็บเกี่ยวได้ใน 60-80 วัน)
เป็นพืชล้มลุก จัดอยู่ในวงศ์มะเขือ มะเขือยาวถือเป็นผักที่มีคุณค่าทางอาหารหลายชนิด ทั้งวิตามินและแร่ธาตุ และมีวิตามินพี (Bioflavonoid) ปริมาณมาก ช่วยแก้เรื่องความดันโลหิตสูง อาการอาเจียนเป็นเลือด โรคลักปิดลักเปิด เป็นต้น และเมือเขือยาวยังมีความสามารถด้านการดูดซับน้ำมันจึงช่วยยับยั้งการดูดซึมของคอเลสเตอรอลผ่านผนังลำไส้ได้ ถือเป็นพืชที่เป็นวัตถุดิบหลักในการประกอบอาหารและใช้ระยะเวลาไม่นานมากในการเก็บเกี่ยวผลผลิต
-
พริกหยวก (เก็บเกี่ยวได้ใน 70-90 วัน)
พริกหยวกเป็นไม้ล้มลุก และเป็นผักที่มีสรรพแก้โรคต่างๆ ได้อย่างหลากหลายทั้งสามารถช่วยลดไขมันในเลือด ปกป้องตับ ลดน้ำตาลในเลือด แก้หวัด และอีกสารพัดซึ่งนี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ยกมา พริกหยวกถือเป็นพริกที่ไม่เผ็ดมากแต่ให้รสชาติของพริกได้อย่างครบถ้วนถือเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ชอบกินเผ็ด พริกหยวกสามารถเก็บผลผลิตได้ในช่วงเวลาประมาณ 2-3 เดือนหลังจากการเพาะปลูก
ข้อดีของ ปลูกผักหน้าฝน
คือมำให้เรามีกิจกรรมทำมากขึ้นเมื่อต้องอยู่บ้านนาน ๆ ในช่วงที่ฝนตกและอาจออกไปไหนไม่ได้ รวมถึงถ้าเราเลือกพืชผลที่ถูกต้องตามฤดูกาลจะช่วยสามารถเก็บกินได้เร็วและประหยัดมากขึ้น เพราะในช่วงฤดูฝนพืชผักจะมีราคาสูงขึ้นมากกว่าฤดูกาลอื่น การมีสวนไว้เก็บกินเองจึงช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้ด้วย
ติดตามข่าวสารจากเราได้ที่
Website : https://inzpy.com/
Youtube : https://www.youtube.com/c/Inzpy
Facebook : https://www.facebook.com/inzpyth
Facebook : https://www.facebook.com/inzpyjoy