More

    เมื่อมีเงินก้อนจะเลือกลงทุนหรือโปะหนี้ดี?

    เมื่อมีเงินก้อนจะเลือกลงทุนหรือโปะหนี้ดี ?

    หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีหนี้และดอกเบี้ยเดินอยู่ทุกวัน แล้วเกิดคำถามกับตัวเองว่า หากได้เงินมาสักก้อนหนึ่งจะเอาไปลงทุนหรือเอาไปโปะหนี้ดี ? ซึ่งถือว่าเป็นคำถามโลกแตก เพราะมีความซับซ้อนและสร้างความกังวลให้กับคนที่ต้องตัดสินใจในเรื่องนี้ ดังนั้น เรามีคำแนะนำดีๆ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจแก้ปัญหาเหล่านี้ได้บ้าง

    1. สำรวจสภาพคล่องทางการเงิน และเงินสำรองยามจำเป็น

    อย่างแรกเลย คุณจำเป็นต้องสำรวจสภาพคล่องทางการเงินของตัวเองก่อน หากคุณยังไม่มีเงินสำรองยามจำเป็น หรือมีไม่ถึง 3 – 6 เท่าของเงินเดือน หรือ 3 – 6 เท่าของรายจ่ายที่จำเป็น เมื่อมีเงินก้อนเข้ามาเราไม่แนะนำให้ไปลงทุนหรือไปโปะหนี้ใดๆ แต่ให้เก็บเงินก้อนนั้นไว้เป็นเงินสำรองยามจำเป็น เพราะชีวิตคนเราอาจเกิดเรื่องไม่คาดฝัน ทำให้จำเป็นต้องใช้จ่ายอย่างเร่งด่วนได้ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเผื่อกรณีตกงาน เป็นต้น

    2. สำรวจหนี้สินของตนเอง

    ต่อมาให้คุณสำรวจหนี้สินของตนเองว่าหนี้สินของคุณเป็นหนี้สินระยะยาว เช่น ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ หรือเป็นหนี้สินระยะสั้น เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้จากการกู้นอกระบบ หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล ฯลฯ หรือไม่ นอกจากนี้ให้สำรวจดูว่าหนี้ที่ตนเองมีนั้น มีอัตราดอกเบี้ยเท่าไหร่ เป็นดอกเบี้ยคงที่หรือดอกเบี้ยแบบลดต้นลดออก และเป็นหนี้ที่ต้องรีบปลดหรือไม่

    • กรณีหนี้ที่มีเป็นดอกเบี้ยแบบคงที่ หมายถึง การผ่อนเงินต้น และดอกเบี้ยในจำนวนเงินเท่ากันทุกงวดจนครบสัญญา เช่น ค่าผ่อนรถ ในกรณีนี้อาจไม่จำเป็นต้องรีบโปะหนี้ เพราะไม่ว่าจะโปะหนี้เพิ่มเท่าไหร่ ก็ไม่ได้ช่วยให้ค่าดอกเบี้ยลดน้อยลง แนะนำให้นำเงินไปลงทุนได้
    • กรณีหนี้ที่มีเป็นดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้เงินกู้นอกระบบ ที่มีดอกเบี้ยสูงมากกว่า 20 – 25% ต่อปี เราแนะนำให้โปะหนี้ก้อนนี้ก่อนเลย เนื่องจากเป็นหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงมาก ต้องรีบกำจัดออกจากตัวเองมากที่สุด เพราะหากนำเงินไปลงทุนก่อน การลงทุนเพื่อรอผลตอบแทนเทียบเท่าหรือมากกว่านี้ เป็นเรื่องที่ยากพอสมควร อีกทั้งยังมีความเสี่ยงจากการลงทุนอีกด้วย 
    • กรณีหนี้ที่มีเป็นดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก แต่เป็นหนี้ค่าผ่อนบ้าน แนะนำให้พิจารณาก่อนว่าหากเรานำเงินไปลงทุน เราจะได้ผลตอบแทนมากกว่าอัตราดอกเบี้ยบ้าน เช่น 3 – 7% ต่อปี หรือไม่ หากได้ผลตอบแทนมากกว่าดอกเบี้ยบ้านที่ต้องจ่าย ก็แนะนำให้นำเงินก้อนที่ได้มาไปลงทุนได้เลย แต่ถ้าได้ผลตอบแทนต่ำกว่า ก็สามารถแบ่งเงินบางส่วนไปโปะหนี้ค่าบ้านได้ หรือหากไม่แน่ใจว่าควรโปะหนี้หรือไม่ อาจใช้สูตรคำนวณสัดส่วนหนี้สินต่อทรัพย์สิน ดังนี้
      (มูลค่าหนี้สินที่มีทั้งหมด ÷ มูลค่าทรัพย์สินที่มีทั้งหมด) x 100 = สัดส่วนหนี้สินต่อทรัพย์สิน 

    หากผลการคำนวณออกมาว่า คุณมีหนี้เกิน 50% เราแนะนำให้นำเงินไปโปะหนี้ก่อน แต่หากยังไม่ถึง 50% ก็สามารถแบ่งเงินไปลงทุนได้ เพราะถือว่าความเสี่ยงยังไม่สูงมากนัก

    เลือกลงทุนอะไรได้บ้าง

    นอกจากการลงทุนทำธุรกิจส่วนตัวแล้ว การลงทุนมีหลายรูปแบบ เช่น เงินฝากประจำ ลงทุนกองทุนรวมตราสารหนี้ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมหุ้น ลงทุนในหุ้น ฯลฯ ซึ่งแต่ละรูปแบบก็มีเปอร์เซ็นต์ผลตอบแทนจากการลงทุนแตกต่างกันไป โดยเราขอเน้นย้่ำไว้เสมอว่า “ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง” หากคุณพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วว่าสิ่งที่คุณกำลังจะลงทุนจะได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายทั้งหมด เราก็แนะนำให้นำเงินไปลงทุนได้

    แต่หากยังไม่แน่ใจเรื่องการลงทุนจริงๆ แล้วมีหนี้อยู่เพียงจำนวนหนึ่ง เป็นหนี้ที่ไม่ได้สูงมากนัก แต่อยากโปะหนี้ก้อนนี้หมด เพราะเป็นหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงเกิน 25% ต่อปี แต่ไม่รู้จะหาเงินจากไหนดี บัตรกดเงินสดเป็นอีกหนึ่งทางออกที่สามารถช่วยคุณได้ เพราะเป็นสินเชื่อที่ของ่าย อีกทั้งดอกเบี้ยยังเป็นแบบแบบลดต้นลดดอก ดอกเบี้ยสูงสูงสุดไม่เกิน 25% ต่อปี

    เช่น บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส ที่นับว่าเป็นหนึ่งตัวช่วยทางการเงินที่ดีและคุ้มค่า เพราะมอบอัตราดอกเบี้ยพิเศษกดเงินสด 0% นาน 30 วัน* อีกทั้งมีโปรโมชันพิเศษสำหรับการซื้อสินค้ากับห้างสรรพสินค้าและร้านค้าที่ร่วมรายการให้เลือกใช้ 

    หากสนใจสามารถสมัครบัตรกดเงินสดยูเมะพลัสได้ที่เว็บไซต์ หรือดาวน์โหลด Umay+ Application ทั้งระบบ iOS และ Android เพียงพิมพ์คำว่า Umay+ Application ในช่องค้นหา แล้วกดดาวน์โหลด จากนั้นทำการสมัครผ่านแอปพลิเคชันได้เลย

    *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด


    บทความที่เกี่ยวข้อง

    IAMMAI
    IAMMAI
    อย่าเรียกงก ให้เรียกระมัดระวังเรื่องการใช้จ่าย ยืนหนึ่งเรื่อง Property เพราะยืนคนเดียว ไม่มีใครยืนด้วย

    Related Post