ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง พร้อมประโยชน์เน้น ๆ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน คัดสรรมาให้แล้ว!!
ผลไม้วิตามินซีสูง จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน… คุณรู้หรือไม่ ? ว่าวิตามินซีกับผิวพรรณนั้นเป็นของคู่กันเลย วิตามินซีทำให้ผิวดีขึ้นได้ ซึ่งนอกจากจะคู่กับผิวพรรณแล้ว ยังมีคุณสมบัติที่จำเป็นต่อร่างกายของเราอีกมากมาย วิตามินซีมีบทบาทในด้านระบบภูมิคุ้มกัน โดยเสริมความแข็งแรงของเยื่อบุผิว ซึ่งมีหน้าที่ในการป้องกันการรุกรานของสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ได้ รวมทั้งกระตุ้นให้ระบบต้านอนุมูลอิสระทำงานได้ดี ทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวซึ่งมีหน้าที่ทำลายเชื้อโรคสามารถทำงานได้อย่างปกติ
นอกจากประโยชน์ในเรื่องของผิวแล้ว วิตามินซียังมีส่วนช่วยในการป้องกันหวัด เนื่องจากคุณสมบัติที่ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังช่วยในเรื่องของการป้องกันโรคอื่นๆ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคเลือดออกตามไรฟัน โรคที่มาจากการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย เส้นเลือดอุดตันในหลอดลม เป็นต้น
วิตามินซี เป็นวิตามินที่ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถสังเคราะห์ได้เอง แต่มีความสำคัญอย่างมากกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งวิตามินซีหาได้ไม่ไกลจากตัวเราเลยค่ะ สามารถหาได้ง่าย ๆ อย่างเช่น จากผลไม้ การทานผลไม้ในปริมาณที่พอเหมาะก็จะทำให้ร่างกายนั้นได้รับวิตามินซีตามความเหมาะสมของร่างกายได้
วันนี้ Inzpy ก็ได้ทำการคัดผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงมาให้เพื่อน ๆ ได้เลือกทานกันด้วยค่ะ ประโยชน์และสาระเน้น ๆ จะมีผลไม้อะไรบ้าง และจะมีผลไม้ที่ทุกคนชอบกันหรือเปล่า ตามไปดูกัน !
รวมผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง คัดสรรประโยชน์เน้น ๆ
1.ส้ม
ผลไม้ยอดฮิต “ส้ม” ด้วยรสชาติที่มีให้เลือกทั้งเปรี้ยวทั้งหวาน แถมอุดมไปด้วยวิตามินหลายชนิด มีให้เลือกทานหลากหลายสายพันธุ์ ส้มมีใยอาหารที่ช่วยในระบบขับถ่ายให้ดีขึ้น ช่วยสร้างสมดุลให้กับระบบขับถ่าย ช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้อีกด้วย โดยสามารถเลือกทานได้ทั้งจากผลส้มสด ๆ หรือคั้นเป็นน้ำมาดื่มให้ชื่นใจก็ได้เหมือนกันค่ะ นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ส้มยังมีประโยชน์ในเรื่องของ…
- มีคุณสมบัติช่วยสร้างคอลลาเจน ทำให้ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้
- มีส่วนช่วยในการบำรุงสายตาให้ดีขึ้น
- แคลเซียมเเละวิตามินดีในส้ม ช่วยให้กระดูกเเละฟันแข็งแรง
- ส้มมีสารฟลาโวนอยด์ที่ช่วยป้องกันอาการอักเสบ
2.ลิ้นจี่
รู้อะไรมั้ยคะ… เพียงทานลิ้นจี่วันละ 3 ลูก เราก็จะได้รับปริมาณวิตามินซีตามที่ร่างกายต้องการได้แล้วค่ะ แถมรสชาติยังหวานละมุนลิ้น อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ โดยเฉพาะวิตามินบี 1 ที่ช่วยป้องกันอาการเหน็บชา ช่วยบำรุงหลอดเลือด กระดูกและฟัน ลิ้นจี่มีใยอาหารสูง ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร เเละปรับสมดุลระบบลำไส้เเละการขับถ่ายได้ดี นอกจากนี้ ประโยชน์ของลิ้นจี่ยังมีอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น…
- ช่วยต้านเชื้อโรค แบคทีเรีย เเละไวรัสต่างๆ อีกทั้งยังช่วยป้องกันระบบทางเดินหายใจไม่ให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ป้องกันไข้หวัดได้ดี ช่วยบรรเทาอาการไอ คัดจมูกได้
- ช่วยป้องกันรังสี UVA เเละ UVB ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้
- ช่วยให้หัวใจแข็งแรง เเละลดความดันโลหิตได้ ช่วยปรับความสมดุลของการไหลเวียนเลือดในร่างกาย
3.เชอร์รี่
เชอร์รี่…หลาย ๆ คนน่าจะชอบทานผลไม้ชนิดนี้ ผลไม้ที่มีรสชาติหวาน ๆ เปรี้ยว ๆ ซึ่งนอกจากรสชาติจะดีแล้ว เชอร์รี่ยังมีคุณประโยชน์มากมายอย่างไม่น่าเชื่อเลยนะคะ นอกจากจะเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายแล้ว ยังช่วยในเรื่อง..
- ช่วยให้คุณนอนหลับได้อย่างสบายมากขึ้น เชอร์รี่มีสารกระตุ้นเมลาโทนิน ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย
- ดีสำหรับดวงตาของคุณ เชอรร์รี่มีเบต้าแคโรทีที่ช่วยส่งเสริมวิสัยทัศน์ที่ดีและให้ทำให้ดวงตามีสุขภาพดีขึ้น
- ป้องกันการติดเชื้อโรคเเละเชื้อไวรัส ไม่ทำให้เป็นหวัดง่าย
- ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้ เพราะเชอร์รี่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพที่ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง ทั้งยังช่วยในเรื่องชะลอการเกิดริ้วรอย ชะลอความแก่
- เชอร์รี่มีสารรแอนโทไซยานิน ที่ช่วยให้ร่างกายคลายเครียด สามารถช่วยลดอาการซีมเศร้าลงได้
- เชอร์รี่ช่วยยกระตุ้นการผลิตเมลานิน ทำให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้น
- ลดอาการปวม และบรรเทาอาการปวด เชอร์รี่เป็นเหมือนแอสไพลินธรรมชาติที่ช่วยบรรเทาอาการปวด เมื่อยกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ได้
4.สตรอว์เบอร์รี
ไหนใครเป็นสตรอว์เบอร์รี่เลิฟเวอร์บ้างยกมือขึ้น สีแดงฉ่ำ ๆ วิตามินซีสูงมากนะจะบอกให้ มันน่ากัดน่าทานอะไรแบบนี้ แนะนำว่าให้ทานสด ๆ เลยนะ ยิ่งสด โภชนาการยิ่งสูง ! และนอกจากสีสันจะสดใสสวยงามน่าทานแล้ว สตอว์เบอร์รี่ยังช่วยในเรื่องของ
- ยับยั้งสารก่อมะเร็งต่าง ๆ ได้ เพราะสตรอเบอร์รี่อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด
- เมื่อนำไปเทียบกับผลไม้ชนิดอื่นในเรื่องการช่วยต้านอนุมูลอิสระพบว่า สตรอเบอร์รี่จะมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระมากกว่าส้มถึงหนึ่งเท่าครึ่ง/ มากกว่าองุ่นแดง 2 เท่า / มากกว่ากีวี 3 เท่า / มากกว่ามะเขือเทศ 7 เท่า / มากกว่ากล้วยหอม 7 เท่า และมากกว่าลูกแพรถึง 15 เท่า !
- ช่วยขับล้างพิษออกจากร่างกายได้ เช่น กรดยูริกที่สะสมอยู่ตามข้อต่อกระดูก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเก๊าท์
- บำรุงระบบประสาทเเละสมอง ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอัลไซเมอร์
- ป้องกันการเกิดโรคโลหิตจาง สตรอว์เบอร์รีมีแมกนีเซียมเเละโพแทสเซียมที่ช่วยปรับสมดุลของความดันโลหิตให้เป็นปกติ
- ช่วยบำรุงสายตาเเละชะลอความเสื่อมของดวงตาได้
5.แอปเปิ้ลเขียว
แอปเปิ้ลหวานกรอบ ใครชอบแอปเปิ้ลมาดูประโยชน์ของแอปเปิ้ลกันทางนี้ เป็นผลไม้ที่วิตามินซีสูง และน่าจะเป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่หลาย ๆ คนมักจะชอบทานกัน รสชาติเปรี้ยว หวานเเละหอม แน่นอนว่าทานแอปเปิ้ลเเล้วช่วยสร้างเสริมภูมิต้านทานได้ดี เเละยังช่วยในเรื่อง
- ควบคุมน้ำหนัก เพราะจะช่วยให้เราอิ่มท้องได้นานขึ้น
- ช่วยปรับสมดุลระบบขับถ่ายเเละการย่อยอาหาร
- เปลือกแอปเปิ้ลมีสารโพลีฟีนอล ที่ช่วยปกป้องผิวจากเเสงเเดดได้ ช่วยบำรุงผิวพรรณได้ดี
- ลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย แอปเปิ้ลเขียวมีสารเพคตินที่จะช่วยดักจับคอเรสเตอรอล
- เป็นเบาหวานสามารถรับประทานได้ ช่วยควบคุมระดับนน้ำตาลในเลือด
- ช่วยบรรเทาเเละป้องกันโรคหวัดได้ดี
6.กล้วยหอม
ทานหนึ่งลูกก็อยู่ท้องแล้วสำหรับใครที่ลดน้ำหนัก ในกล้วยมีทั้งวิตามินเเละแร่ธาตุหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน บี 1 บี 2 เเละ บี 6 รวมถึงวิตามินซี ทำให้กล้วยเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์หลากหลายมาก
- เพิ่มพลังงาน ช่วยปรับสมดุลระดับน้ำตาลในเลือด เเละยังช่วยให้อิ่มท้องเเละลดอาการอยากอาหารได้อีกด้วย
- ลดแผลในกระเพาะอาหาร มีฤทธิ์ต่อต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหารได้
- แก้ท้องผูก ลดตระคริว
- คลายเครียด กล้วยมีสารทริปโตเฟน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นผลิตฮอร์โมนเอ็นโดรฟิน ช่วยให้มีความสุข ผ่อนคลายความเครียดได้
- ลดอาการเจ็บคอได้
ผลไม้วิตามินซีสูง ที่เรานำมาฝากทุกคนกันในวันนี้ ชอบกันหรือเปล่าคะ มีผลไม้ชนิดไหนที่เป็นผลไม้ที่เพื่อน ๆ โปรดปรานกันบ้างหรือเปล่า เราเชื่อว่าใครหลายคนต้องมีผลไม้ที่ชอบอยู่เเล้วแน่ ๆ ยิ่งรู้ประโยชน์เเบบนี้ ยิ่งต้องรีบจัดมาทานกันให้ไวเลย ตัวช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งเเรง
ที่สำคัญ ขีดเส้นใต้สองขีดเลยนะคะ นอกจากทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงเเล้ว อย่าลืมรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ด้วยนะคะ และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้สุขภาพดี แข็งแรงกันแบบยาว ๆ ไปเลย !
“การทานคอลลาเจน” ยิ่งอายุมากยิ่งควรรับประทาน จริงหรือไม่? คลิกที่นี่