ร้อนแรงเกินห้ามใจเหลือเกินสำหรับว่าที่ “ภาพยนตร์ไทยแห่งปี” 4KINGS อาชีวะยุค 90 ที่เข้าโรงอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา พร้อมทำรายได้เปิดตัววันแรก 10ล้านบาท แต่ไม่ใช่แค่วันแรกเท่านั้นที่แรง เพราะในวันที่สองของการฉายก็สามารถรายได้เพิ่มไปอีกถึง 12 ล้านบาท รวมเป็น 22 ล้านบาทในปัจจุบัน!
ซึ่งหลายคนอาจจะตั้งคำถามว่า หนังไทยเรื่องนี้มันดีอย่างไร ทำไมถึงมาแรงขนาดนี้ หนังgangster หรือวัยรุ่นตีกัน มันจะมีอะไร มากกว่า คำหยาบคาย ภาพของความคึกคะนอง หรือภาพของความรุนแรง แต่อยากบอกให้คุณรู้ไว้ตรงนี้ จากใจของคนที่ไปดูมาแล้วว่า คุณคิดผิด
สิ่งที่ผมอยากให้คุณลองทำก่อนคือการเปิดใจ และให้โอกาสภาพยนตร์เรื่องนี้ มันไม่ใช่แค่การโปรโมทที่ดี แต่ความตั้งใจ และความใส่ใจของ พุฒิพงษ์ นาคทอง มันคือความละเอียดอ่อน และคือคำตอบที่ว่าทำไมหนังเรื่องนี้ คุณถึงต้องเข้าไปดู
รีวิว 4KINGS อาชีวะยุค 90 ภาพยนตร์ไทยที่ต้องดู
ภาพยนตร์ 4KINGS นั้นนำเสนอเรื่องราวผ่าน บิลลี่ อินทร (จ๋าย ไททศสมิตร) ที่ต้องเผชิญกับสิ่งที่ตัวเองเคยก่อไว้ในอดีตและมันกัดกินหัวใจของเขาและครอบครัว ตัวหนังย้อนไปช่วงปี พ.ศ. 2538
บิลลี่, ดา อินทร และ ลูแปง อินทร คือนักเรียนช่างกลจากโรงเรียนอินทร ที่มีพร้อมมีเรื่อง และต่อยตีกับโรงเรียนอาชีวะอื่น ๆ ทั้ง ประชาชล, กนก และบุรณพนธ์ ซึ่งทั้ง 4 โรงเรียนนี้เป็น 4 โรงเรียนที่เจอกันไม่ได้ เจอกันที่ไหน พังที่นั่น
พูดมาถึงตอนนี้หลายคนอาจจะคาดหวังฉากบู๊ วิ่งไล่ฟัดกัน บอกก่อนว่า มีครับ แต่มันไม่ได้มากมาย หรือเยอะจนล้นขนาดนั้น บางฉากแค่เห็นว่าสู้กัน ก็ตัดออกแล้วด้วยซ้ำ
แต่ผมไมได้ผิดหวังเลยนะ เพราะหากคุณเปิดใจ และตั้งใจดู นี่มันคือหนังชีวิต มันคือหนังดราม่า ที่มีแอคชั่นเข้ามาเจือปน มันเป็นเหมือนที่ผู้กำกับพูดเอาไว้ไม่มีผิดเพี้ยนครับ มันคือหนังที่แสดงให้เห็นถึงความแย่ ความเลวร้ายของสังคมอาชีวะ ในตอนนั้น ความรักเพื่อน ปัญหาครอบครัว เบื้องลึก เบื้องหลังของตัวละคร
ทุกคนมีปม มีปัญหาของตัวเอง โดยเฉพาะฉากในสถานกักกันที่ของ บิลลี่ ,โอ๋ ประชาชล และเอก บุรณพนธ์ มันยิ่งแสดงให้เห็นชัดว่า พวกเขาไม่ใช่ไม่มีความคิด แต่ว่า พวกเขาถูกสังคมหล่อหลอมให้เป็นแบบนั้น ความรักเพื่อน ความรักสถาบัน และบทสรุปแห่งความสำนึกผิด ที่ต้องบอกว่า มันเล่าเรื่องออกมาได้ดี และครบองค์ประกอบอย่างที่ควรจะเป็น
นอกจากนี้อีกสองสิ่งที่ประทับใจคือ การดีไซน์ฉาก การดึงความเป็นยุค 90 ออกมา ทั้งคำพูด การแต่งตัว หรืออะไรต่าง ๆ มันคือใช่ ยิ่งใครที่เกิดในยุคนั้น ได้ใช้ชีวิตในยุคนั้น ผมเชื่อว่า อินหนักแน่นอน
ส่วนอีกอย่างคือ casting นักแสดงทุกคน โอเคแม้บทอาจจะไม่เท่ากัน หลายการกระจายบทอาจจะไม่ดีพอ (ในความเห็นส่วนตัว) แต่ทุกตัวละครที่โผล่ออกมา จะมาก หรือจะน้อยคือดีหมด คือขอปรบมือให้นักแสดงเลยว่า ตีบทได้แตก ทั้งคำพูด ท่าทาง คาแรคเตอร์
โดยเฉพาะ ลูแปง อินทร ที่กวนได้ใจ พูดเก่ง เรียกเสียงฮา ได้ตลอดเวลา คือในแต่ละโรงเรียนมันจะต้องมีคนแบบนี้ คนที่จี๊ดทั้งคำพูดและการกระทำ อีกคนคือ ยาท เด็กบ้าน (บิ๊ก D Gerrard) ที่เล่นดีจนรู้สึกว่าเกลียดตัวโจ๊กเกอร์ตัวนี้แบบจริง ๆ
ส่วน จ๋าย ไททศสมิตร ในบทของ บิลลี่ ไม่ต้องห่วงเลยครับ เคยแสดงละครเวทีมาก่อน การสื่ออารมณ์ออกมาทางสายตาถือว่าเลิศ เป้ อารักษ์ ในบทของ ดา ผู้นำของอินทร ที่ตอนแรกผมไมได้คาดหวังที่สุดแล้ว ก็คือจัดเต็มเช่นกัน แสดงออกถึงความเป็นผู้นำอย่างเต็มเปี่ยม
เช่นเดียวกับ โจ๊ก อัครินทร์ ที่รับบทของ มด ประชาชล ที่ทั้งดุดัน โหดเหี้ยม ใจถึง พูดน้อย แต่เอาจริง และเอาหนักด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้คือเสน่ห์ของหรังเรื่องนี้เลยครับ ตัวละครอื่น ๆ ก็เช่นกัน คือหากคุณอยากดูการแสดงดี ๆ กับบทหนังดี ๆ เรื่องนี้รวมให้ครบ
เอาสรุปเลยนะครับ สำหรับ 4KINGS อาชีวะยุค 90 ถ้าให้ตีออกมาเป็นตัวเลขเลยคงจะให้ เรตติ้งอยู่ที่ 8/10 ถูกกดลงมาเพราะการกระจายบทที่รู้สึกว่า มันยังได้อีก แต่เชื่อเถอะว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้มีโอกาสสูงมากที่จะแตะ 100ล้านบาท ฉะนั้นคือที่ยังไม่ได้ดู ใครที่กำลังอคติ เปิดใจ และเข้าไปดูครับ คุณจะสนุกกับมันอย่างแน่นอน