More
    spot_img

    Love And Leashes กับรสนิยม BDSM ที่โคตรจะฟิน

    ไม่พูดถึงไม่ได้ครับ เพราะเป็นหนังอีกเรื่องที่รอจะดูจาก Netflix เหลือเกิน สำหรับ Love and Leashes ซึ่งได้เรท 18 + แต่ไม่ได้มีฉาก 18 + แบบชัดเจนเท่าไหร่นัก ซึ่งผมขอบอกตรงนี้ว่า หนังเรื่องนี้ใครที่รู้พลอตแล้วคาดหวัง sex แบบดุดันรับรองว่าผิดหวังแน่ ๆ แต่สิ่งที่อยากจะให้ดูของหนังเรื่องนี้คือความน่ารัก ชั้นเชิงในการเล่าเรื่อง และมันจะทำให้คุณเข้าใจ “รสนิยม” บางอย่างมากยิ่งขึ้น

    Love and Leashes รักจูงรัก

    ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดย ซอฮยอน แห่ง SNSD หรือ Girl’s Generation อดีตเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง โดยรับบทเป็น “นายหญิง” และ อีจุนยอง ในบทบาทของ “ทาส” ภายใต้ความสัมพันธ์แบบ BDSM ซึ่งกำกับโดย พัคฮยอนจิน ผู้ที่เคยมีผลงานภาพยนตร์อย่าง Lovers of Six Years และ Like for Likes ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่เธอสร้างผลงานลงสตรีมมิ่งอย่าง Netflix

    สำหรับบทภาพยนตร์ของ “รักจูงรัก” นั้นดัดแปลงมาจากการ์ตูนใน Webtoon อย่าง Moral Sense ซึ่งเล่าเรื่องของ จองจีอู (ซอฮยอน) และ จองจีฮู (อีจุนยอง) ซึ่งเป็นพนักงานบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งในเกาหลี

    เรื่องราวมันเริ่มต้นที่ จองจีฮู ย้ายมาเป็นรองผู้จัดการในแผนกของ จองจีอู ซึ่งแค่แรกเห็น จีอู ก็ตกหลุมรักพระเอกของเราเข้าทันที แต่ความเป็นสาวห้าว สาวมั่น ลุคสวย แต่ยิ้มยาก ก็ต้องรักษาท่าทีเอาไว้

    และด้วยความที่ชื่อคล้ายกัน ทำให้เกิดเหตุการณ์ส่งของผิดคนขึ้น และมันทำให้  จีอู ล่วงรู้ความลับที่จีฮู ปกปิดเอาไว้ นั่นคือรสนิยมทางเพศของจีฮู ที่ว่าเขาเป็น BDSM

    สำหรับตัวของจีฮูนั้นที่ต้องปกปิดเรื่องนี้เอาไว้ เพราะเขากลัวว่าจะเป็นที่รังเกียจของสังคมที่เขาอยู่ เพราะรสนิยมของเขาไม่ได้ถูกยอมรับในวงกว้าง แต่ จองจีอู กลับรับตัวตนของเขาได้ และจุดนี้เองที่ทำให้ความสัมพันธ์ในแบบของ ดอมและซับ เริ่มต้นขึ้น

    Love and Leashes

    BDSM คืออะไร

    ตัวอักษร 4 ตัวนี้มาจากคำว่า

    B – Bondage พันธนาการ

    D – Discipline การลงโทษ / Dominance การใช้อำนาจ

    S – Sadism การมีความสุขจากการทรมานผู้อื่น / Submission การอยู่ภายใต้อำนาจ

    M – Masochism การมีความสุขจากการถูกผู้อื่นทรมาน

    BDSM เป็นรูปแบบหนึ่งของกิจกรรมและความสัมพันธ์ทางเพศที่สุขสมจากความเจ็บปวดและความรุนแรง (แต่ไม่จำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์กันเสมอไปก็ได้) มีฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ใช้อำนาจ อีกฝ่ายหนึ่งเป็นผู้อยู่ใต้อำนาจ โดยทุกฝ่ายมีการตกลงกติกาต่างๆ ร่วมกันเป็นข้อสัญญาเพื่อความสบายใจและความปลอดภัย ซึ่งจะมีการกำหนด “safe word” เมื่อต้องการเพลย์  อย่างใน “รักจูงรัก” พระ-นางของเราก็จะใช้คำว่า “ดุงดุง”

    ความสัมพันธ์ในแบบ BDSM นั้นไม่ได้จำกัดตามบทบาทสังคมที่ ผู้ชายจะมีอำนาจเหนือกว่าผู้หญิง หรือเจ้านายจะต้องเหนือกว่าลูกน้อง อย่างในเรื่องนี้ จองฮู ที่เป็นผู้ชาย และมีตำแหน่งที่ใหญ่กว่าก็เลือกที่จะตกเป็นทาสของจองอู ที่เป็นผู้หญิง

    พระเอกผู้มีภาพลักษณ์สมบูรณ์แบบ เป็นที่รักของทุกคน อีกมุมหนึ่งเขาคือเจ้าสุนัขขี้แงที่มีรสนิยมเป็น ‘เมลซับ’ คือทาสชายที่พึงพอใจกับการถูกย่ำยี ตกอยู่ใต้อำนาจของนางเอกที่ค่อยๆ ศึกษาบทบาท ‘เฟมดอม’ หรือนายหญิงผู้ออกคำสั่ง

    ซึ่งการเพลย์ของกลุ่ม BDSM นั้นหากไม่นับการมี sex ก็จะไล่ไปตั้งแต่ล็อคข้อมือ เชือกผูก ใช้รองเท้าส้นสูงเหยียบ หรือพวกโซ่ แส้ กุญแจมือ ทั้งหลายแลที่เรา ๆ ชอบผู้แซวกันเล่นในกลุ่มเพื่อน ประมาณนั้น

    แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นการจะเป็น “ดอม” หรือเป็นซับใด ๆ ก็แล้วแต่ หัวใจสำคัญของ BDSM คือ “การสมยอม” จะไม่มีการบังคับขืนใจ ถ้าเริ่มการเพลย์ไปแล้วอีกฝ่ายม่โอเค ก้ต้องหยุดกิจกรรมดังกล่าวทันที

    ความรู้สึกหลังดู

    ด้วยความที่เป็นหนังที่รอคอย จึงตั้งใจดูเป็นพิเศษ สิ่งหนึ่งเลยที่ค้นพบคือ “ใจเกเร” ผมไม่ใช่คนที่ดูหนังเกาหลีเป็นหลักครับ ไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับทางเกาหลีมากนัก แต่ว่าเรื่องนี้มันทำให้ผมหลงรัก อีจุนยอง นอกจากการแสดงที่ทำได้ดี (โดยเฉพาะการเห่าแบบสุนัข) ความน่ารักน่าหยิก ที่ติดมากับเจ้าตัวมันทำให้ฟินแบบบอกไม่ถูก

    แต่ในอีกความรู้สึกหนึ่งคือการได้เปิดโลกนะครับ เปิดโลกของ BDSM ทำให้ผมเข้าใจในรสนิยมนี้มากขึ้น คือหลายคนน่าจะเคยผ่านหนังในลักษณะนี้มาแล้วอย่าง “Fifty Shade” ซึ่งเรื่องนั้นก็คือ BDSM แบบเต็มข้อสุดพลัง ฉาก sex โจ่งครึ่ม ความซาดิสท์มาเต็มพิกัด โดยการใช้ภาพเล่าเรื่อง

    ส่วนเรื่องนี้จะเล่าด้วยชั้นเชิงของการเพลย์ ที่ไม่ได้มีเรื่องของเพศสัมพันธ์เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่มันคือความสัมพันธ์ของคนสองคนที่มีจุดมุ่งหมายต่างกัน แต่มีปลายทางร่วมกันประมาณนั้น คือทั้ง จองอูและจองฮู ต้องการปลดปล่อย อย่างนางเอก ก็ต้องการปลดปล่อยความหงุดหงิด ความน่ารำคาญ ที่มีต่อหัวหน้างานจอม Harassment

    ส่วนพระเอก เขาแค่ต้องการนายหญิงที่ตอบสนองความต้องการของเขา คนที่เขาอยู่ด้วยและสบายใจ ยอมรับในตัวตนของเขา และด้วยรสนิยมส่วนตัวที่เขาจะรู้สึกฟินมาก ๆ กับการเพลย์แต่ละครั้งโดยมีนางเอกเป็นคนคุมเกม

    ซึ่งนี่คือสิ่งที่ผมบอกว่า จุดมุ่งหมายต่างกัน แต่ปลายทางมันมีจุดร่วมกันอยู่ นางเอกที่ค่อย ๆ เรียนรู้การเป็น “เฟมดอม” (นายหญิง) ก็ใช้รสนิยมการเป็น “ซับ” ของพระเอก ในการปลดปล่อยสิ่งต่าง ๆ ในตัวเอง ส่วนตัวพระเอกก็ได้ซึมซับความทรมาน การถูกกดขี่ ในแบบที่ตัวเองต้องการ

    มันทำให้ผมเข้าใจนะว่า ทำไมตัวหนังถึงได้เรท 18 + จริง ๆ ให้เรท 20 + ยังได้ เพราะคนดูเองก็ต้องมีความรู้ความเข้าใจ ในเรื่องของรสนิยมทางเพศระดับหนึ่ง มันไม่ใช่หนังที่ดูแล้วจะเอาไปลอง หรือไปทำตามได้ง่าย ๆ หากคนที่ไม่เข้าใจ หรือไม่ได้มีความชอบจริง ๆ มันคือความทรมาน หรือความสนุกเพียงชั่วครู่ หรืออารมณ์ชั่ววูบเท่านั้นเอง

    ส่วนฟีลของหนัง มันเป็นหนังฟีลกู้ดครับ ฟีลกู้ดมาก ๆ ไม่มีจุดไหนที่ชวนเครียด ดูไป ยิ้มไป เขินไปตลอดเวลา เคมีของทั้ง ซอฮยอน และ อีจุนยอง มันเข้ากันดีมาก ๆ แม้ตัวพลอตเรื่องจะแปลก แต่เส้นเรื่องไมได้เดายากขนาดนั้น ซึ่งในมุมกลับกันมันเดาง่ายเลยแหละ แต่มันก็ทำให้ตัวหนังเข้าใจง่ายขึ้นเยอะ

    และอีกสิ่งที่ชอบนะครับคือ Love and Leashes ไม่ได้นำเสนอแค่ด้านความฟิน หรือการทำให้เล่าเข้าใจ BDSM เท่านั้น แต่มันยังพูดถึงข้อเสีย และความอันตราย รวมถึงความอึดอัดในความสัมพันธ์บางอย่างด้วย แต่จะนำเสนอในรูปแบบไหน ก็ไปได้ครับใน Netflix ตอนนี้ทะยานขึ้นไปเป็น อันดับ 2 ของ Netflix เรียบร้อยจ้า

    Related Post

    Most Popular

    Recommended