ทองมายา Inzpy ชวนไปไหว้ พระธาตุประจำปีเกิด (part3) ตามนักษัตรของแต่ละคน เพื่อเสริมสิริมงคลชีวิต สำหรับครึ่งปีหลัง 2566 นี้
ตลอดต้นปีที่ผ่านมานี้ สำหรับใครที่รู้สึกว่าตลอดต้นปีของเราดูไม่ราบรื่นเอาสะเลย ทำอะไรก็ติดขัด จะหยิบจับอะไรก็ดูมีปัญหา มีเรื่องให้กังวล ทุกข์ใจอยู่เสมอ บ้างก็ผิดใจกันกับคนใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัวหรือคนรัก บ้างก็ตกงาน กลายเป็นหนี้ไม่มีทรัพย์สินติดตัว
ในอดีตชาวล้านนามีการเล่าขานกันว่า ก่อนที่คนเราจะมาเกิดในครรภ์ของมารดา ดวงวิญญาณจะลงมาพักอยู่ที่พระธาตุประจำนักษัตร และเมื่อถึงเวลาตามกำหนดแล้ว ดวงวิญญาณจะเคลื่อนจากพระธาตุไปสถิตอยู่บนกระหม่อมของบิดาเป็นเวลา 7 วัน หลังจากนั้นก็จะกลับเข้าสู่ครรภ์ของมารดาอีกครั้ง และภายหลังจากที่เสียชีวิตลงแล้ว ดวงวิญญาณก็จะกลับสู่พระธาตุประจำปีนักษัตรของตนเอง
พระธาตุ คือ พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า และสถานที่ หรือ พระเจดีย์ที่มีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุอยู่นั่นเอง
พระธาตุประจำปีเกิด ปีนักษัตร วอก คือ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร
วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เป็นวัดชื่อดังสำหรับคนเกิดปีวอก วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม เป็นพระอารามหลวงชั้นเอกชนิดวรมหาวิหาร นับว่าเป็นศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์แห่งภาคอีสาน พระบรมธาตุนี้เป็นเหมือนเครื่องหมายของความเจริญรุ่งเรืองทางพุทธศาสนาของนครพนมมาตั้งแต่ยุคก่อน
สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 8 ในยุคที่อาณาจักรศรีโคตรบูรเจริญรุ่งเรือง ประดิษฐานอยู่บนภูกำพร้าริมฝั่งแม่น้ำโขง เป็นสถานที่ที่พุทธเจ้าเคยเสด็จมาโปรดสัตว์น้อยใหญ่ พระบรมธาตุเจดีย์องค์สำคัญซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คนสองฝั่งโขง บรรจุพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) ของพระพุทธเจ้าไว้
องค์พระธาตุพนมนั้น ได้รับการปฏิสังขรณ์มาหลายครั้ง จนเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ปี พ.ศ. 2518 พระธาตุพนมได้พังทลายเนื่องจากความเก่าของพระธาตุ และอีกสาเหตุคือ ภัยพิบัติจากการฝนตกพายุพัดแรง ชาวบ้านเลยได้ร่วมบริจาคทุนทรัพย์ เลยได้มีการก่อสร้างองค์พระธาตุขึ้นใหม่ โดยสร้างครอบฐานพระธาตุองค์เดิมไว้
นอกจากองค์พระธาตุพนมบรมเจดีย์ที่เป็นปูชนียสถานที่สําคัญ ภายในยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ เช่น
พระอุโบสถ ภายในประดิษฐานพระประธาน นามว่า “พระองค์แสนศาสดา”
ลานหอพระแก้ว “พระพุทธมารวิชัยศาสดา” องค์พระประธานในหอพระแก้วประดิษฐานอยู่เด่นเป็นสง่าหน้าองค์พระธาตุพนม
พิพิธภัณฑ์ ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมรัตนโมลีศรีโคตรบูร เป็นที่เก็บรวบรวมพระพุทธรูปและโบราณวัตถุต่าง ๆ รวมทั้งภาพเขียนประวัติวัดพระธาตุพนม
บ่อน้ำพระอินทร์ บ่อน้ำเก่าแก่ที่ขุดแต่โบราณ แต่ก่อนพระภิกษุ สามเณร แม่ชีในวัด และประชาชนในหมู่บ้านใกล้เคียง อาศัยตักน้ำจากบ่อนี้ไปดื่มกินและสรงน้ำพระธาตุ
หอพระนอน หรือ หอพระพุทธไสยาสน์ และพระพุทธบาทจำลองในวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร
มหารัตนศาลา เป็นที่ประดิษฐานพระสังกัจจายน์ไม้เก่าแก่โบราณ
ต้นศรีมหาโพธิ์ ต้นโพธิ์ต้นนี้นำมาจากประเทศอินเดีย รัฐบาลไทยได้มอบให้ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ติสฺโส อ้วน) มาปลูกไว้เมื่อปี พ.ศ. 2495
สถูปอิฐพระธาตุพนมองค์เดิม ทางวัดได้นำเศษอิฐในคราวองค์พระธาตุล้มมาก่อขึ้นเป็นสถูปสูง 8 เมตร เพื่อให้ประชาชนได้ระลึกถึงและกราบไหว้บูชา
โดยทุกวันขึ้น 10 ค่ำ เดือน 3 ถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี จะมีการจัดงานนมัสการองค์พระธาตุพนม ซึ่งถ้าใครมีโอกาสไม่ควรพลาดไปสักการะบูชาสักครั้งในชีวิต
ที่มาเนื้อหา : https://travel.kapook.com/view268578.html
ที่มารูปภาพ : http://www.dhammathai.org/watthai/northeast/watphrathatphanom.php
พระธาตุประจำปีเกิด ปีนักษัตร ระกา คือ วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร
วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร เป็นวัดชื่อดังสำหรับคนเกิดปีระกา วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน เป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์สำคัญของจังหวัดลำพูน เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวลำพูน และเป็นหนึ่งในพระธาตุสำคัญแห่งดินแดนล้านนา นอกจากนี้ยังเป็นพระธาตุประจำปีของคนเกิดปีระกา ตามคติความเชื่อของชาวล้านนา
พระธาตุหริภุญชัย สร้างขึ้นใน ปี พ.ศ. 1607 โดย พระเจ้าอาทิตยราชเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ประกอบด้วย ธาตุกระหม่อม ธาตุกระดูกอก ธาตุกระดูกนิ้วมือ และธาตุย่อยอีกเต็มบาตรหนึ่ง
วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร เดิมทีเป็นพระราชวังของพระเจ้าอทิตยราชกษัตริย์ผู้ครองนครหริภุญชัย องค์ที่ ๓๓ ต่อจาก พระนางจามเทวี ปฐมบรมกษัตริย์ของเมืองหริภุญชัย
องค์พระธาตุหริภุญชัย ปัจจุบันเป็นเจดีย์ทรงระฆัง (ทรงกลม) แบบล้านนาอันสวยงามสมส่วน หุ้มทองจังโกสีทองงดงามอร่ามตา อีกทั้งยังเป็นต้นแบบและมีอิทธิพลต่อพระธาตุเจดีย์องค์อื่นๆ อีกหลากหลาย อย่างเช่น พระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง พระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน เป็นต้น
ทุกๆ ปีในวันเพ็ญเดือนหกจะมีการจัดงาน “ประเพณีสรงน้ำพระธาตุหริภุญชัย” โดยจะมีการอัญเชิญน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์จาก “ดอยมะข้อ” มาเข้าร่วมการสรงน้ำตามธรรมเนียมปฏิบัติแต่โบราณ
นอกจากองค์พระธาตุหริภุญชัยที่เป็นปูชนียสถานที่สําคัญ ภายในยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ เช่น
ซุ้มประตูโขง สองฟากฝั่งซุ้มประตูโขงท่าสิงห์ มี 2 สิงค์คู่สูงประมาณ 3 เมตร สีน้ำตาลอมแดงยืนเด่นงามสง่า ขนาบ 2 ข้างซ้าย-ขวา
วิหารหลวง ตั้งโดดเด่นอยู่บริเวณด้านหน้าขององค์พระธาตุหริภุญชัย ภายในวิหารหลวงประดิษฐาน “พระมหามุนีศรีหริภุญชัย” เป็นองค์พระพุทธรูปประธาน เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ สีทองเหลืองอร่ามดูขรึมขลังเปี่ยมศรัทธา นับเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองลำพูนองค์สำคัญยิ่ง
เจดีย์ปทุมวดี หรือ สุวรรณเจดีย์ เป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมเช่นเดียวกับเจดีย์เหลี่ยมหรือกู่กุดวัดจามเทวี กับงานศิลปกรรมหริภุญชัยอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
ที่มาเนื้อหา : https://mgronline.com/travel/detail/9650000072404
ที่มารูปภาพ : https://thai.tourismthailand.org/Attraction/วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร
พระธาตุประจำปีเกิด ปีนักษัตร จอ คือ วัดเกตการาม
วัดเกตการาม เป็นวัดชื่อดังสำหรับคนเกิดปีจอ วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ตำบลวัดเกต อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีพระธาตุเจดีย์เกษแก้วจุฬามณี
ตามพุทธประวัติกล่าวไว้ว่า พระเกศแก้วจุฬามณีเจดีย์ นั้นอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ประดิษฐานพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้า และด้วยเหตุนี้ ทำให้เราไม่สามารถเดินทางไปถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ได้ จึงสามารถบูชา พระธาตุที่วัดเกตการาม เชียงใหม่ ซึ่งมีชื่อคล้ายกับพระเกศแก้วจุฬามณีเจดีย์แทน
พระธาตุเจดีย์เกษแก้วจุฬามณี เป็นพระธาตุที่บรรจุเครื่องทรงและพระเมาฬีของเจ้าชายสิทธัตถะเอาไว้ และทรงสละทิ้งเมื่อคราวออกผนวช อีกทั้งยังเป็นที่เก็บรักษาพระเขี้ยวแก้วของพระพุทธองค์ หลังการถวายพระเพลิงพระบรมศพอีกด้วย
ซึ่งถ้าใครสังเกต จะเห็นได้ว่าปลายยอดของเจดีย์นั้น จะเอนเล็กน้อย เนื่องจากผู้ที่สร้างเจดีย์นี้ ไม่ต้องการให้ยอดของเจดีย์ ชี้ขึ้นไปยังสวรรค์ที่เป็นที่ตั้งของพระธาตุเกศแก้วจุฬามณี เพราะเป็นการไม่เหมาะสมนั่นเอง
ที่มาเนื้อหา : https://travel.trueid.net/detail/OvKRQz2b9ANw
ที่มารูปภาพ : https://api.guideglai.com/node/7795
พระธาตุประจำปีเกิด ปีนักษัตร กุน คือ วัดพระธาตุดอยตุง
วัดพระธาตุดอยตุง เป็นวัดชื่อดังสำหรับคนเกิดปีกุน วัดแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณส่วนที่เรียกว่าหน้าอกของดอยนางนอน ตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของชาวเขา โดยมีพระธาตุดอยตุง ปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดของชาวเชียงราย เชื่อกันว่า เป็นที่สถิตของเทพารักษ์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง
ตามตำนานเล่าว่า พระธาตุดอยตุงสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอชุตราช กษัตริย์ผู้ครองเมืองโยนกนาคพันธุ์ (ปัจจุบันคืออำเภอแม่จัน) พระมหากัสสปะได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระรากขวัญเบื้องซ้าย (กระดูกไหปลาร้า) แล้วมอบให้แก่พระเจ้าอชุตราชได้สร้างเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุนั้นไว้บนดอยแห่งนี้
ซึ่งพระธาตุดอยตุงเป็นที่บรรจุพระรากขวัญเบื้องซ้าย (กระดูกไหปลาร้า) ของพระพุทธเจ้า มีลักษณะเป็นเจดีย์สีทองอร่าม 2 องค์คู่กัน ในรูปแบบทรงปราสาทยอดทรงระฆังกลมขนาดเล็ก ตั้งบนฐานสี่เหลี่ยม กรุกระเบื้องดินเผา และถือเป็น พระธาตุประจำปีกุน ซึ่งปีกุนในคติล้านนานั้น สัญลักษณ์คือช้าง (กุญชร) ไม่ใช่หมูเหมือนที่เราเข้าใจ
ตุง นับเป็นสัญลักษณ์สำคัญของชาวล้านนา หมายถึงความเจริญรุ่งเรือง และชัยชนะ ในวัดจะมี รอยปักตุง เป็นรอยแตกบนผืนดิน เป็นรอยที่ใช้ปักฐานตุงบูชาพระธาตุเมื่อประมาณ 1,000 ปีที่แล้ว ตุง นับเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของชาวล้านนา หมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง การมีชัยชนะ
ในตอนแรกพระธาตุดอยตุงมีองค์เดียว รูปแบบการก่อสร้างเป็นศิลปะเชียงแสนย่อมุมไม้สิบสอง แต่ในสมัยก่อนเชียงรายได้ถูกปล่อยให้เป็นเมืองร้างหลายครั้ง ทำให้พระธาตุดอยตุงทรุดโทรมและพังทลายลงตามกาลเวลา พระเจ้ามังรายมหาราชจึงทรงมีรับสั่งให้สร้างเจดีย์อีกองค์ไว้ใกล้กันอีกองค์หนึ่ง จึงทำให้พระธาตุดอยตุงมี 2 องค์
ต่อมาในปี พ.ศ. 2470 องค์พระธาตุทรุดโทรมมาก ครูบาเจ้าศรีวิชัย กับประชาชนเมืองเชียงรายจึงได้บูรณะขึ้นใหม่ โดยสร้างเป็นเจดีย์องค์ระฆังขนาดเล็ก 2 องค์ บนฐาน 8 เหลื่ยม ตามศิลปะแบบล้านนา การบูรณะครั้งหลังสุดมีขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2516 โดยกระทรวงมหาดไทยได้สร้างพระธาตุองค์ใหม่ขึ้นครอบพระเจดีย์เดิมไว้ คล้ายกับพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม นั่นเอง
ที่มาเนื้อหา : https://workpointtoday.com/เปิดประวัติ-วัดพระธาตุ/
ที่มารูปภาพ : https://thai.tourismthailand.org/Attraction/พระธาตุดอยตุง
สามารถอ่านบทความไหว้พระธาตุประจำปีเกิด เสริมสิริมงคลชีวิต 2566 (part1) เพิ่มเติมได้ที่ : https://inzpy.com/entertain/horoscope/wat-phra-that-of-year-part1/
สามารถอ่านบทความไหว้พระธาตุประจำปีเกิด เสริมสิริมงคลชีวิต 2566 (part2) เพิ่มเติมได้ที่ : https://inzpy.com/entertain/horoscope/wat-phra-that-of-year-part2/
_____
ติดตาม Inzpy ได้ที่
Youtube:
https://www.youtube.com/@Inzpy
Facebook:
https://www.facebook.com/inzpyth/