อุบัติเหตุบนท้องถนนสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้นการทำประกันรถยนต์นับว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่เจ้าของรถทุกคนควรทำ เพราะสามารถช่วยคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์และผู้ขับขี่ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่างๆ ได้ โดยเฉพาะประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด สำหรับใครที่ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับรายละเอียดของการทำประกันรถยนต์ ว่าประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง และหากต้องการเคลมประกันจะมีค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติมหลังจากทำประกันไปแล้วหรือไม่นั้น สามารถหาคำตอบได้จากบทความนี้
ประกันรถยนต์เปรียบเสมือนเกราะคุ้มภัย ช่วยให้อุ่นใจทุกการขับขี่
การทำประกันรถยนต์นั้นมีประโยชน์หลายด้าน และเราไม่อยากให้เจ้าของรถยนต์ทุกคนมองข้าม ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
- ช่วยคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถยนต์และอุปกรณ์ เช่น ตัวถัง เครื่องยนต์ กระจก ยาง เป็นต้น ซึ่งความเสียหายเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้จากอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน เช่น ชน คว่ำ ไฟไหม้ น้ำท่วม ภัยธรรมชาติ เป็นต้น
- ช่วยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลของผู้ขับขี่และผู้โดยสารในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งค่ารักษาพยาบาลเหล่านี้อาจสูงมาก ดังนั้นการทำประกันรถยนต์จึงช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในยามฉุกเฉินได้
- ช่วยคุ้มครองค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินของคู่กรณีในกรณีที่เป็นฝ่ายผิด ซึ่งค่าเสียหายเหล่านี้อาจสูงมาก ดังนั้นการทำประกันรถยนต์จึงช่วยป้องกันไม่ให้ผู้เอาประกันต้องจ่ายค่าเสียหายทั้งหมดด้วยตัวเอง
- ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน เช่น หากเกิดอุบัติเหตุแล้วรถยนต์เสียหายจนไม่สามารถขับขี่ได้ ซึ่งผู้เอาประกันก็ไม่ต้องเสียเงินซ่อมเองทั้งหมด เพราะบริษัทประกันภัยจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้
- ช่วยคุ้มครองค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการถูกโจรกรรมหรือสูญหาย ซึ่งเป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ
- สามารถช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับรถยนต์ได้ เนื่องจากรถยนต์ที่มีประกันจะมีความน่าเชื่อถือมากกว่ารถยนต์ที่ไม่มีประกัน ดังนั้นหากต้องการขายรถยนต์ในอนาคต รถยนต์ที่มีประกันจะมีมูลค่ามากกว่าด้วย
หากใครยังสงสัยว่าประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง ก็ต้องบอกเลยว่าให้ความคุ้มครองทั้งหมดที่เรากล่าวมาเลย
ค่า Excess คืออะไร
หลังจากทำประกันรถยนต์ไปแล้วนั้น ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือชั้นไหนก็ตาม กรณีที่รถเกิดอุบัติเหตุแล้วต้องการเคลมประกัน จำเป็นจะต้องเสียค่า Excess ด้วย โดยค่า Excess นั้นหมายถึง ค่าเสียหายส่วนแรกแบบภาคบังคับ ที่ผู้เอาประกันต้องจ่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งจะมีระบุไว้ในเงื่อนไขกรมธรรม์ประกัน โดยปกติแล้วค่า Excess จะเริ่มต้นที่ 1,000 บาท
ซึ่งค่า Excess นั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของบริษัทประกันภัย โดยผู้เอาประกันต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรกก่อน บริษัทประกันภัยจึงจะเข้ามารับผิดชอบส่วนที่เหลือ ซึ่งค่า Excess นี้สามารถกำหนดได้เองตามความต้องการของผู้เอาประกัน โดยค่า Excess ที่สูงขึ้นจะทำให้เบี้ยประกันลดลง
ยกตัวอย่าง เช่น หากทำประกันรถยนต์ชั้น 1 แล้วเลือกค่า Excess 1,000 บาท หมายความว่า หากเกิดอุบัติเหตุแล้วความเสียหายของรถยนต์มีมูลค่า 10,000 บาท ผู้เอาประกันจะต้องจ่ายค่า Excess 1,000 บาทก่อน จากนั้นบริษัทประกันภัยจะรับผิดชอบค่าเสียหายอีก 9,000 บาท นั่นเอง
กรณีไหนบ้างที่ต้องเสียค่า Excess
- กรณีไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ เช่น ขับรถครูดกับกำแพง ขับรถเกี่ยวเสาไฟ ขับรถตกหลุม
2. กรณีความเสียหายไม่ได้เกิดจากการชนหรือคว่ำ
3. กรณีความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการขับรถโดยประมาทหรือจงใจ เช่น เมาแล้วขับ ขับรถเร็วเกินกฏหมายกำหนด
จะเห็นได้ว่าการทำประกันรถยนต์มีประโยชน์มากมาย ทั้งในด้านความคุ้มครองต่อตัวรถยนต์และด้านอื่นๆ ดังนั้นเจ้าของรถยนต์ทุกคนจึงควรทำประกันรถยนต์ไว้ เพื่อคุ้มครองจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
หากคุณกำลังมองหาหรือต้องการทำประกันรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 ชั้น 2+ หรือชั้น 3+ Pocket by LMG พร้อมให้คุณปรับเลือกแผนประกันรถยนต์ได้ตามความเหมาะสมในราคาประหยัด และสามารถเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ก่อนตัดสินใจซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเรามีอู่และศูนย์ซ่อมระดับมาตรฐานกว่า 1,800 แห่งในไทย พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชม.
สามารถติดต่อขอคำปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านประกันฟรีได้ที่เบอร์ 02-302-7788 หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.pocketbylmg.com
