หากคุณคิดว่าประเทศไทยซื้อบ้านยากที่สุด คุณคิดผิดแล้ว! Inzpy มี “10 อันดับ ประเทศที่ซื้อบ้านยากที่สุดในโลก” มาฝาก ซึ่งนอกจากราคาแพงกว่าแล้ว ยังมีปัจจัยซับซ้อนมากมาย เช่น ความต้องการบ้านที่มากกว่าอุปทาน และกฎระเบียบที่เข้มงวด
10 อันดับ ประเทศที่ซื้อบ้านยากที่สุดในโลก
อันดับ 10 ไต้หวัน (Taiwan)
ไต้หวันเป็นเกาะที่มีขนาดเล็ก จำนวนประชากรมาก และพื้นที่ที่ใช้งานได้จำกัด ทำให้ราคาบ้านเฉลี่ยสูง อยู่ที่ประมาณ 3,000-5,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อตารางเมตร
การขอสินเชื่ออาจมีความยากลำบาก มีกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายทรัพย์สินที่ซับซ้อน บางเขตในไต้หวันมีการแข่งขันสูงในการซื้อขายทรัพย์สินเก็งกำไร ซึ่งทำให้ราคาบ้านสูงขึ้นและมีความน่าสนใจจากผู้ซื้อหลายคน
อันดับ 9 ญี่ปุ่น (Japan)
ญี่ปุ่น มีพื้นที่จำกัดและที่ดินมีราคาสูง ราคาบ้านเฉลี่ยสูง อยู่ที่ประมาณ 2,500-4,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อตารางเมตร
ในเมืองใหญ่ ราคาที่ดินและบ้านสามารถเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะใกล้สถานีรถไฟ มีกฎหมายการซื้อบ้าน การขอกู้ยืมที่มีเงื่อนไขที่ซับซ้อน และอัตราดอกเบี้ยสูงสามารถทำให้การซื้อบ้านเป็นเรื่องยาก มีรายละเอียดและใช้เอกสารมาก
อันดับ 8 นิวซีแลนด์ (New Zealand)
บ้านและที่ดินในนิวซีแลนด์ราคาเฉลี่ยประมาณ 4,000-6,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อตารางเมตร ในนิวซีแลนด์ มีข้อจำกัดและกฎหมายที่กำหนดให้ชาวต่างชาติที่ต้องการซื้อบ้านต้องขออนุญาตก่อน และต้องมีแนวทางทางการลงทุนที่เข้ากับเป้าหมายของประเทศ
การสำรวจและการตรวจสอบกรรมสิทธิ์ของที่ดินและบ้านในนิวซีแลนด์มีข้อจำกัดและกระบวนการที่ซับซ้อน ทำให้กระบวนการซื้อขายมีความยากลำบาก
อันดับ 7 อิตาลี (Italy)
บ้านซื้อยาก ราคาบ้านเฉลี่ย 2,000-3,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อตารางเมตร เรื่องราคาไม่เท่าไหร่ แต่การซื้อบ้านในอิตาลีเป็นเรื่องที่ท้าทายและซับซ้อน
เพราะระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการซื้อขายทรัพย์สิน ที่อาจจะทำให้กระบวนการยากลำบากและยาวนาน การซื้อบ้านที่ต้องใช้บริการตัวกลาง เช่น นายหน้าที่ช่วยหาบ้าน ทนายความ
อันดับ 6 ออสเตรเลีย (Australia)
ราคาบ้านเฉลี่ยสูง อยู่ที่ประมาณ 2,500-4,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อตารางเมตร
ค่าใช้จ่ายสำหรับชีวิตในออสเตรเลียสูงมาก รวมถึงราคาของการบริการและสินค้าที่สูงกว่าเฉลี่ยทำยังยิ่งซื้อบ้านยาก ตลาดบ้านในท้องถิ่น เช่น เมลเบิร์น หรือซิดนีย์ มีราคาที่สูงมาก การกู้ยืมบ้านซับซ้อนและมีเงื่อนไขที่มากมาย
อันดับ 5 เกาหลีใต้ (South Korea)
การแข่งขันสูงในการซื้อ และสร้างบ้านในพื้นที่จำกัด ราคาที่ดินและบ้านสูง อยู่ที่ประมาณ 3,000-5,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อตารางเมตร
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเกาหลีใต้มีการแข่งขันสูง ก็ทำให้มีการปรับราคาสูงขึ้นด้วย ขณะที่นักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อบ้านยากขึ้น เพราะมีนโยบายการควบคุมการซื้อบ้านจากต่างชาติ
อันดับ 4 เนเธอร์แลนด์ (Nederland)
เนเธอร์แลนด์ หรือเรียกว่าฮอลแลนด์ เป็นประเทศที่มีคุณภาพชีวิตสูงและเป็นที่ต้องการของผู้คนจากทั่วโลก ทำให้ราคาบ้านเฉลี่ยสูง อยู่ที่ประมาณ 3,000-5,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อตารางเมตร
และที่ซื้อบ้านยาก เพราะมีกฎหมายเกี่ยวกับการขอสินเชื่อที่เข้มงวด สิทธิในการถือครองที่ดินของชนชาติต่าง ๆ อาจมีข้อจำกัด ค่าครองชีพสูงซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการซื้อบ้าน และราคาอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มที่สูงขึ้น ซึ่งเกิดจากข้อจำกัดในการสร้างและพื้นที่จำกัด
อันดับ 3 นอร์เวย์ (Norway)
นอร์เวย์เป็นประเทศที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี ทำให้มีความต้องการที่สูงขึ้นในการอยู่อาศัยในประเทศนี้ ราคาบ้านเฉลี่ยสูงมาก อยู่ที่ราคาเฉลี่ยประมาณ 4,000-6,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อตารางเมตร
สาเหตุหลักมาจากพื้นที่จำกัดและมีมาตรฐานการสร้างดี และมีระบบการกู้บ้านในอัตราดอกเบี้ยสูง และการได้รับสินเชื่อที่นอร์เวย์มีการคัดกรองอย่างเข้มงวด
อันดับ 2 สิงคโปร์ (Singapore)
ราคาบ้านเฉลี่ยสูงมาก อยู่ที่ประมาณ 20,000-25,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อตารางเมตร
สาเหตุหลักมาจากนโยบายของรัฐบาลที่เข้มงวดในการจำกัดการถือครองอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้อุปทานที่อยู่อาศัยมีจำกัด ในขณะที่ความต้องการที่อยู่อาศัยยังคงสูง
อันดับ 1 ฮ่องกง (Hong Kong)
ราคาบ้านเฉลี่ยสูงมาก ประมาณ 130,000-150,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อตารางเมตร เพราะความต้องการซื้อบ้านสูงมากกว่าจำนวนบ้านที่ว่างอยู่
ฮ่องกงเป็นประเทศที่มีราคาบ้านแพงที่สุดในโลก สาเหตุหลักมาจากจำนวนประชากรที่หนาแน่นและความต้องการที่อยู่อาศัยที่สูง ในขณะที่พื้นที่ที่อยู่อาศัยมีจำกัด ส่งผลให้ราคาบ้านพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ประเทศไทย น่าซื้อบ้านไหม? เมื่อเทียบกับต่างประเทศ
ผู้เขียนได้ลองถาม AI (Google Bard) ว่า “ถ้าคุณเป็น วอร์เรน บัฟเฟตต์ จะมองว่าราคาบ้านในไทย น่าลงทุนหรือไม่ เมื่อเทียบกับหลาย ๆ ประเทศ” คำตอบคือ
ถ้าฉันเป็นวอร์เรน บัฟเฟตต์ ฉันจะไม่มองว่าราคาบ้านในไทยน่าลงทุนเมื่อเทียบกับหลาย ๆ ประเทศ สาเหตุหลักมาจากราคาบ้านในไทยที่สูงมากเมื่อเทียบกับรายได้ของคนส่วนใหญ่ อัตราการว่างงานในไทยก็สูงมากเช่นกัน ปัจจัยเหล่านี้ทำให้การเป็นเจ้าของบ้านในไทยเป็นภาระที่หนักสำหรับหลาย ๆ คน
นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยก็มีความผันผวนค่อนข้างมาก ปัจจัยเหล่านี้ทำให้การคาดการณ์ราคาบ้านในไทยในระยะยาวทำได้ยาก วอร์เรน บัฟเฟตต์ เป็นนักลงทุนที่ระมัดระวัง เขาจะไม่ลงทุนในสิ่งที่เขาไม่สามารถคาดการณ์ได้
ดังนั้น ถ้าฉันเป็นวอร์เรน บัฟเฟตต์ ฉันจะไม่ลงทุนในราคาบ้านในไทย
การจะซื้อบ้านในประเทศเหล่านี้ (รวมถึงไทยด้วย) ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็มีบางสิ่งที่สามารถทำได้เพื่อเพิ่มโอกาสในการซื้อบ้าน เช่น เพิ่มเงินดาวน์ ปรับปรุงเครดิตให้ดี และปรึกษานายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่มีประสบการณ์
ผู้ที่สนใจซื้อบ้านควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อนะคะ สุดท้ายนี้ฝากติดตามเพจ inzpy.com และ INZPY JOY เพื่อรับข่าวสารดี ๆ ไอเดีย และแรงบันดาลใจกันนะคะ
บทความน่าสนใจ