เที่ยวหน้าฝน อย่างไรให้ปลอดภัย
หน้าฝนนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียนะคะ หากตกหนักติดกันหลายวัน ก็อย่างที่เห็นหลาย ๆ ที่เกิดภัยพิบัติน้ำท่วม ผู้เขียนก็ขอเอาใจช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมในปีนี้ด้วยนะคะ แต่หน้าฝนนั้นไม่ได้มีแต่ขอเสียเสมอไปนะคะ ข้อดีก็มี เช่น การท่องเที่ยวในช่วงหน้าฝน ก็จะได้เจออากาศที่เย็นสบาย ความสดชื่นและเขียวชอุ่มของต้นไม้ใบหญ้า หากเดินป่าก็จะได้พบต้นไม้ ดอกไม้ต่าง ๆ ที่กำลังแข่งกันผลิดอกออกใบในช่วงหน้าฝนนี้อีกด้วย โดยเฉพาะทะเลหมอกเองก็เกิดขึ้นให้เราเห็นได้มากที่สุดก็ช่วงหน้าฝนนี่แหละค่ะ นักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนจึงนิยมเดินทางท่องเที่ยวในช่วงนี้กัน วันนี้เราจะมาบอกเคล็บลับการเดินทางในช่วงนี้ว่า เที่ยวหน้าฝน อย่างไรให้ปลอดภัย และเที่ยวได้อย่างสนุกสนาน มาเริ่มกันเลยค่ะ
1.เช็คสภาพอากาศก่อนเดินทาง
ทุกวันนี้เครื่องมือสื่อสารของเรามีวิวัฒนาการก้าวไกลไปอย่างมากแล้วนะคะ มือถือสมาร์ทโฟนทุกเครื่องมีแอปพลิเคชันให้สามารถเช็คสภาพอากาศกันล่วงหน้าแล้ว สามารถเช็คก่อนเดือนทางได้ล่วงหน้าระยะยาวเป็นเดือน ทำให้เราสามารถวางแผนการเดินทางล่วงหน้าได้ แต่หากต้องการความแม่นยำมาก ๆ ก็สามารถเช็คล่วงหน้า 1-2 วันได้ค่ะ หรือจะเช็คเป็นรายชั่วโมงเลยก็สามารถทำได้ ถือเป็นการลดความเสี่ยงที่จะต้องเดินทางไปแล้วเจอฝนตกไม่ได้ลงเที่ยว จะได้สลับปรับแพลนเดินทางกันได้ทันท่วงทีด้วยค่ะ
2.เช็คอัปเดตเส้นทางการเดินทาง
อย่างที่ได้กล่าวมาตั้งแต่ข้างต้นว่า ช่วงนี้ประเทศไทยของเรามีหลาย ๆ ที่ประสบกับปัญหาน้ำท่วมหนัก ซึ่งสิ่งที่เกิดตามมาก็คือทำให้ถนนหลาย ๆ สายถูกตัดขาด ไม่สามารถเดินทางได้ หรือสถานที่ท่องเที่ยวหลาย ๆ ที่ต้องปิดไม่ให้ท่องเที่ยว เพราะฉะนั้นก่อนการเดินทางเราสามารถเช็คอัปเดตเส้นทางได้ค่ะ ไม่ว่าจะทางเพจ Facebook หรือ Twitter ก็มีการรายงานสถานการณ์ต่าง ๆ อยู่ตลอด โดยเฉพาะในกลุ่มท่องเที่ยว ซึ่งเดี๋ยวนี้มีกลุ่มท่องเที่ยวกันเกือบครบทุกจังหวัดค่ะ โดยจะมีคนท้องถิ่น หรือนักท่องเที่ยวมาคอยตอบคำถาม ให้ข้อมูลที่อัปเดตอยู่ตลอดเวลา จะได้ไม่ต้องเดินทางไปเสียเที่ยวนะคะ
3.เช็คสภาพพาหนะให้พร้อม
ไม่ใช่แค่ในช่วงหน้าฝนเท่านั้นนะคะ การเช็คสภาพรถจะต้องทำอยู่เป็นประจำ ยิ่งหากเราจะเดินทางไกลด้วยแล้วยิ่งต้องเช็คให้ละเอียดเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นสภาพของล้อและยาง ที่ปัดน้ำฝน ไฟส่องสว่างต่าง ๆ โดยเฉพาะอุปกรณ์ฉุกเฉินภายในรถ เช่น ยางอะไหล่ แม่แรง ต่าง ๆ เผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นจะได้สามารถแก้ไขเบื้องต้นได้ทันท่วงที
4.เตรียมอุปกรณ์จำเป็นที่ต้องใช้ในหน้าฝน
นี่ก็ถือเป็นอีกข้อหนึ่งที่สำคัญมาก ๆ ค่ะ เตรียมอุปกรณ์จำเป็นไปให้ครบ ไม่ว่าจะเป็น ร่ม หมวก เสื้อกันฝน ถุงกันน้ำสำหรับใส่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เช่น กล้อง โทรศัพท์มือถือ ผ้าสะอาด ถุงพาสติกสำหรับแยกผ้าเปียก กระดาษทิชชู่ และอื่น ๆ คิดว่าอะไรจำเป็นเตรียมไปให้พร้อมนะคะ เรียกว่าเหลือดีกว่าขาด เอาไปไม่ได้ใช้ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มีนะคะ
5.แต่งตัวให้เหมาะสม
เลือกเครื่องแต่งกายให้เหมาะสมกับสถานที่และสภาพอากาศที่เราเจอค่ะ เช่น หากเราจะไปทะเล ก็ควรเลือกเสื้อผ้าที่โปร่งและแห้งง่าย รองเท้าแตะสบาย ๆ หากต้องการไปเดินป่าก็ควรเลือกเสื้อผ้าให้รัดกุม มิดชิด รองเท้ายิ่งสำคัญค่ะ ควรเลือกรองเท้าสำหรับเดินป่าโดยเฉพาะ เนื้อผ้าที่แนะนำก็เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าร่ม เป็นต้น หากรู้ตัวว่าเป็นคนขี้หนาวก็อย่าลืมเตรียมเสื้อกันหนาวไปด้วยนะคะ เพราะเมื่อฝนตกแล้วอุณหภูมิจะลดต่ำลงอย่างรวดเร็วจากที่ร้อน ๆ ตอนกลางวัน ฝนตกแล้วก็อาจจะหนาวได้ค่ะ
6.เตรียมยา
ไม่ใช่แค่เฉพาะการเที่ยวช่วงหน้าฝนนะคะ ไม่ว่าจะไปที่ไหน เมื่อไหร่ สิ่งที่ควรมีติดตัวเอาไว้เลยก็คือยาและอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นยาแก้ปวด ยาลดไข้ ยาแก้ท้องเสีย แอลกอฮอลล์ และอุปกรณ์ล้างแผล เป็นต้น หากเกิดป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาการท่องเที่ยวก็แทบจะหมดสนุกไปเลยค่ะ
7.กางเต็นท์ให้ห่างจากริมน้ำ
ในช่วงหน้าฝนนี้สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่บ่อย ๆ ในการท่องเที่ยวก็คงหนีไม่พ้นภัยธรรมชาติอย่าง น้ำป่าไหลหลากค่ะ หากเราไปเที่ยวภูเขาหรือน้ำตก หรือไปกางเต็นท์ทสถานที่ที่อยู่ริมแม่น้ำสิ่งที่ควรระวังมากที่สุดคือ การเลือกบริเวณที่จะกางเต็นท์ค่ะ ไม่ควรกางให้อยู่ติดกับริมน้ำจนเกินไป หากมีฝนตกตลอด ควรสังเกตุระดับน้ำและสีของน้ำ หากน้ำมีสีที่เปลี่ยนไป เช่นมีสีแดงคล้ายดินโคลน ให้เตรียมเก็บของขึ้นรถได้เลยค่ะ เพราะหากมีน้ำป่าไหลหลาก ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจจะเก็บของไม่ทันและเกิดอันตรายและความเสียหายต่อทั้งคนและอุปกรณ์ได้ค่ะ
ขอให้ทุกท่านเดินทางท่องเที่ยวในหน้าฝนได้อย่างมีความสุขและปลอดภัยนะคะ
6 วิธีเตรียมความพร้อมให้กับรถก่อนออกเดินทางท่องเที่ยว คลิก