รีวิวขึ้นภูกระดึง 2 วัน 1 คืน แบบละเอียดยิบ!! ตอนที่ 1 ก่อนการเดินทางต้องจองอะไรบ้าง?
สวัสดีค่ะ ช่วงหน้าหนาวนี้ สถานที่ท่องเที่ยวอย่าง อุทยานแห่งชาติ ภูกระดึง กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก นักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ กำลังหลั่งไหลเข้าไปอย่างไม่ขาดสาย แต่เชื่อว่าคนที่กำลังมีแพลนจะเดินทางไปนั้น หลาย ๆ คนเองก็เป็นมือใหม่ในการเดินป่า เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะมา รีวิวขึ้นภูกระดึง กันแบบละเอียด ๆ เลยค่ะ เพื่อให้ง่ายต่อการหาข้อมูล เราจะแบ่งออกเป็นตอน ๆ นะคะ
ตอนแรก : ก่อนการเดินทางต้องจองอะไรบ้าง?
เมื่อเราตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวภูกระดึงแล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำเลย คือ การเลือกวันเดินทางค่ะ หากใครต้องการที่จะไปดูใบเมเปิ้ล สีแดงสวย แนะนำให้ไปช่วงเดือนธันวาคมนะคะ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความวุ่นวาย เพราะจะมีผู้คนแห่ขึ้นไปชมกันค่อนข้างเยอะค่ะ
จองคิวขึ้นอุทยาน
เมื่อเราเลือกวันได้แล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือ จองวันที่จะเดินขึ้นภูกระดึงค่ะ เพราะที่นี่จะจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว ให้ขึ้นภูได้แค่วันละ 1,000 คน โดยจะแบ่งเป็นการจองผ่านแอพ QueQ จำนวน 700 คน และ Walk-in 300 คนค่ะ การจองผ่านแอพนี้ จะเปิดให้จองล่วงหน้าก่อนวันเดินทาง 15 วันค่ะ ถ้าสมมติจองแล้วเต็ม แต่อยากไปเสี่ยง Walk-in ที่หน้าอุทยาน แนะนำว่าให้ไปรอลงชื่อตั้งแต่ตี 5 เลยนะคะ
จองรถบัส
หลังจากจองคิวขึ้นอุทยานได้เรียบร้อย ก็มาดูวิธีการเดินทางกันค่ะ สำหรับใครที่ขับรถส่วนตัวไปก็ไม่มีปัญหาค่ะ แต่แนะนำว่า ควรพักด้านล่างภูกระดึงก่อนหนึ่งวัน ค่อยขึ้นนะคะ เพราะการขับรถทางไกล ยิ่งถ้าไปจากกรุงเทพฯ แล้วหล่ะก็ จะค่อนข้างเหนื่อย อาจจะเป็นอุปสรรค์ในการเดินขึ้นภูได้ค่ะ ส่วนใครที่จะไปรถทัวร์ แนะนำว่าให้ไปรอบหลัง 20.00 น.-22.00 น.จะดีที่สุดค่ะ เลือกลงที่จุดจอดผานกเค้านะคะ เพราะที่นั่นจะมีจุดนั่งพัก ทานอาหารเช้า เข้าห้องน้ำ ชื่อว่าร้านเจ๊กิมค่ะ แล้วก็มีรถสองแถวไปส่งหน้าอุทยานเอาไว้ให้บริการอีกด้วย รถบัสก็มีให้เลือกหลายบริษัทนะคะ เช่น แอร์เมืองเลย ซันบัส หรือภูกระดึงทัวร์
วันที่ไปเราเลือกจองของแอร์เมืองเลยนะคะ ขาไป 19.00 น.-03.30 น. ขากลับ 19.00 น.-03.00 น. สำหรับเราขาไปคิดว่าเร็วไปหน่อยค่ะ สำหรับใครที่เลิกงานแล้วไปเลยแบบเรา อาจจะตกรถทัวร์ได้นะคะ เพราะฉะนั้นเลือกเที่ยวที่ช้ากว่านี้จะดีกว่านะคะ เหตุผลที่เราเลือกเที่ยวนี้เพราะราคาถูกค่ะ 555 แต่ค่อนข้างเสี่ยงเลย รถไปถึงตรงเวลามาก ก็ไปนั่งทานข้าวและพักผ่อนรอรถ 2 แถวได้ค่ะ บนรถจะมีผ้าห่มและน้ำดื่มให้ 1 ขวด แนะนำว่าให้ติดหมอนรองคอไปด้วยนะคะ หากใครขี้หนาว เอาผ่าห่มไปเพิ่มด้วย เพราะแอร์บนรถนั้นหนาวมากกกกก ทางไปจอง คลิก
จองที่พักและเครื่องนอน
หลังจากจัดการเรื่องการเดินทางเรียบร้อยแล้ว ต่อมาก็ถึงเรื่องของการจองที่พักกันค่ะ สำหรับใครที่นำเต็นท์หรืออุปกรณ์การนอนไปเองก็ไม่มีปัญหานะคะ แค่รีบไปแต่เช้าเพื่อที่จะเข้าคิวจองลูกหาบให้ทันก็พอ จะเสียแค่ค่าบริการพื้นที่กางเต็นท์ 30 บาท/เต็นท์ค่ะ แต่ใครที่ไม่ได้นำไปเอง จะต้องเข้าไปจองนะคะ ทางไปจอง คลิก สามารถจองล่วงหน้าได้ 60 วันค่ะ และจองได้มากสุดติดต่อกันไม่เกิน 3 คืน
ค่าบริการ
เต็นท์ (นอนได้ 3 คน) ราคา 225 บาท/คืน
ถุงนอน ราคา 30 บาท/ชิ้น
ที่รองนอน ราคา 20 บาท/ชิ้น
หมอน ราคา 10 บาท/ชิ้น
ซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็น
เมื่อจองทุกอย่างที่กล่าวมาข้างต้นเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็มาถึงขั้นตอนการเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นกันค่ะ เราจะมาแนะนำสำหรับมือใหม่นะคะว่ามีอะไรที่จำเป็นบ้าง
1.รองเท้า สำหรับใครที่พอมีงบประมาณ ก็เลือกรองเท้าสำหรับเดินป่าไปเลยค่ะ ถ้าให้ดีเลือกที่พื้นแข็ง ๆ และหุ้มข้อ จะช่วยเซฟข้อเท้าของเราไม่ให้พลิกได้ แนะนำว่าควรไปลองใส่และลองเดินดุก่อนนะคะ เอาที่เหมาะกับเท้าเราที่สุด สำหรับขาลงนั้นแนะนำว่าให้ใส่รองเท้าที่เปิดหน้าเท้านะคะ เพราะช่วงขาลง เล็บเราจะกระแทกกับรองเท้าบ่อย อาจจะทำให้เจ็บได้ แต่หากใส่รองเท้าที่เปิดนิ้ว ก็จะต้องระวังเรื่องการเดินเตะหิน หรือรากไม้ค่ะ แต่หากใครงบไม่ถึง ก็เลือกจากรองเท้าผ้าใบที่มีอยู่นะคะ เช่น พวกรองเท้าวิ่งทั่วไป หรือรองเท้าวิ่งเทรล เลือกคู่ที่พื้นยังดีอยู่หน่อยนะคะ จะได้ช่วยเรื่องยึดเกาะ และไม่ลื่น
2.ไม้เท้า ถ้าใครมีไม้เท้าเดินป่าห้ามลืมนำติดตัวไปเด็ดขาดนะคะ เพราะเจ้าสิ่งนี้จะช่วยชีวิตคุณได้มาก ๆ เลยค่ะ ช่วยในการพยุงตัว และค้ำยัน หากใครไม่มี ก่อนทางขึ้นก็จะมีไม้ไผ่วางเอาไว้ หยิบติดมือไปคนละอันค่ะ
3.ไฟส่องสว่าง เอาไว้ใช้เวลากลางคืน ทั้งเวลาที่เราอยู่ในเต็นท์ และเวลาที่เราต้องเดินออกไปทำธุระต่าง ๆ เช่นการเข้าห้องน้ำ หรือ การเดินไปจุดชมวิวในช่วงค่ำ
4.เตรียมเสื้อผ้า สำหรับการไป 2 วัน 1 คืน เราเตรียมเสื้อผ้าไปทั้งหมด 3 ชุดค่ะ ชุดสำหรับใส่บนรถทัวร์ไป-กลับ 1 ชุด, ชุดเดินขึ้นและลง 1 ชุด, ชุดสำหรับใส่นอน 1 ชุดค่ะ
ชุดสำหรับใส่บนรถทัวร์ แนะนำว่าเอาที่ใส่สบายและอบอุ่นค่ะ เพราะบนรถทัวร์แอร์เย็นมาก และผ้าห่มก็ผื่นค่อนข้างเล็กและบาง
ชุดสำหรับใส่ขึ้น-ลงภูกระดึง แนะนำว่าให้เป็น เสื้อแขนยาว ขายาว ที่ระบายอากาศได้ดี เพราะเหงื่อเราจะออกเยอะมาก ๆ ค่ะ ตอนเดิน และมีความยืดหยุ่นสูง จะทำให้เราเดินสบายขึ้น การเลือกที่แขน-ขายาว เพราะจะช่วยป้องกันร่างกายจากการโดนขูดจากกิ่งไม้หรือใบไม้ได้ และช่วยป้องกันแสงแดดค่ะ ควรเตรียมหมวกที่มีปีกรอบ ไปใส่กันแดดด้วยนะคะ เพราะทางเดินด้านบนที่เป็นทางราบจะไม่ค่อยมีต้นไม้บังแดดเท่าไหร่ค่ะ
5.แบตเตอรี่สำรอง ควรเตรียมพร้อมไปนะคะ ถึงแม้ว่าบนอุทยานนั้น จะมีบริการให้ชาร์จไฟ แต่ก็อาจจะไม่สะดวกมากนัก และที่สำคัญระหว่างเดินเที่ยวหากถ่ายรูปเยอะ แบตก็อาจจะหมดได้นะคะ เพราะฉะนั้นควรเตรียมไปให้เพียงพอสำหรับการใช้งาน และพกติดตัวไปด้วยค่ะ
6.ยาต่าง ๆ หากใครมีโรคประจำตัวก็ควรจะเตรียมเผื่อเอาไว้ด้วยนะคะ ส่วนอื่น ๆ ก็เป็นยาพื้นฐาน เช่น ยาแก้ปวด ยาแก้ไข้ ยาแก้ท้องเสีย พาสเตอร์ยา ยาคลายกล้ามเนื้อ ยานวด โลชั่นทากันยุง เป็นต้นค่ะ
สำหรับการ รีวิวขึ้นภูกระดึง ในตอนแรกขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนไปก็จะประมาณนี้นะคะ และที่สำคัญที่สุด เตรียมเงินไปให้พร้อมค่ะ เพราะระหว่างทางของกินเยอะมาก ๆ ได้แวะทุกจุดแน่ ๆ ค่ะ ตอนต่อไป ก็จะเป็นเรื่องของการเดินทางแล้วนะคะ ติดตามกันค่ะ
จะไปเที่ยวภูกระดึง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง? คลิก