ถ้าพูดถึงอาหารเสริมยอดนิยมที่หลายคนเลือกไว้ติดบ้าน “น้ำมันปลา” คงติดอันดับต้นๆ ในใจใครหลายคน เพราะขึ้นชื่อเรื่องกรดไขมันโอเมกา 3 ที่เป็นไขมันดีและจำเป็นต่อร่างกาย แต่คุณรู้หรือไม่ว่าน้ำมันปลามีดีมากกว่าที่คิด? ไม่ใช่แค่ช่วยเรื่องหัวใจหรือสมองเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อผิวพรรณ ตา กระดูก และอีกมากมาย มาเปิดลิสต์คุณประโยชน์ของน้ำมันปลาแบบเต็มๆ แล้วคุณจะรู้ว่าทำไมสิ่งนี้ถึงเป็นไอเทมสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม!
น้ำมันปลา ตัวช่วยเสริมสุขภาพของหลอดเลือดและหัวใจ
เมื่อพูดถึงสุขภาพหัวใจ หลายคนอาจนึกถึงการออกกำลังกายหรือการกินอาหารคลีน แต่รู้หรือไม่ว่า น้ำมันปลาก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีไม่แพ้กัน? การกินน้ำมันปลาเป็นประจำ สามารถช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้หลอดเลือดอุดตัน ลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ในขณะเดียวกันก็ช่วยเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) สำหรับในผู้ที่มีความดันเลือดสูง น้ำมันปลายังช่วยลดความดันให้อยู่ในระดับปกติ รวมถึงช่วยลดโอกาสการเกิดภาวะหลอดเลือดอุดตันเฉียบพลันอีกด้วย
น้ำมันปลา กระตุ้นการทำงานของสมอง
ในสมองของเรามี DHA เป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลล์สมองถึง 40% แต่เมื่ออายุมากขึ้น ระดับ DHA ในสมองจะลดลง ทำให้เสี่ยงต่อปัญหาความจำเสื่อม หรือโรคสมองเสื่อมอย่างอัลไซเมอร์ การกินน้ำมันปลาที่อุดมไปด้วยกรดไขมัน DHA สูงเป็นประจำ ซึ่งกรดไขมัน DHA นี้ถือเป็นตัวช่วยสำคัญในการดูแลสมองให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงมีส่วนช่วยเสริมการทำงานของสมอง กระตุ้นความจำ และชะลอภาวะสมองถดถอยได้นั่นเอง
น้ำมันปลา ผู้ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว
แม้ว่าผิวหนังของคนเราจะมีโอเมกา 3 อยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่ออายุมากขึ้น สุขภาพผิวก็จะเสื่อมถอยลง ทำให้ผิวแห้งง่าย ขาดความชุ่มชื้น และอาจเกิดการอักเสบได้ง่ายขึ้น ด้วยคุณสมบัติพิเศษของกรดไขมัน DHA และ EPA ในน้ำมันปลา จะช่วยฟื้นคืนสภาพผิวให้กลับมาดูสุขภาพดี ลดการอักเสบที่อาจเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพอากาศ มลภาวะหรือแสงแดด พร้อมทั้งฟื้นคืนความชุ่มชื้นให้ผิวเนียนนุ่ม เปล่งปลั่ง และแข็งแรงจากภายใน
น้ำมันปลา เสริมสร้างสุขภาพที่ดีของดวงตา
เพราะจอประสาทตาของเรามีกรดไขมัน DHA สูงถึง 60% นั่นหมายความว่า หากร่างกายขาดโอเมกา 3 ดวงตาอาจเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพ เช่น ความเสื่อมของจอประสาทตา หรือปัญหาสายตาที่เกิดจากอายุได้ การกินน้ำมันปลาที่อุดมไปด้วยกรดไขมัน DHA เป็นประจำ จึงมีส่วนช่วยบำรุงและฟื้นฟูดวงตาให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงของโรคเกี่ยวกับจอประสาทตา ช่วยให้ดวงตาคงความชุ่มชื้น และลดอาการเมื่อยล้าจากการใช้สายตาในชีวิตประจำวันเป็นอย่างดี
น้ำมันปลา ตัวช่วยลับดูแลกระดูกให้แข็งแรง
เมื่อพูดถึงเรื่องการดูแลกระดูก หลายคนอาจนึกถึงแค่แคลเซียมหรือวิตามินดี แต่รู้ไหมว่าโอเมกา 3 ในน้ำมันปลาก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน โอเมกา 3 มีคุณสมบัติช่วยชะลอการสลายตัวของมวลกระดูก และกระตุ้นให้แคลเซียมทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ การกินน้ำมันปลาที่มีโอเมกา 3 เป็นประจำจึงมีส่วนเสริมสร้างความแข็งแรงให้โครงสร้างกระดูก ลดความเสี่ยงของภาวะกระดูกบางหรือกระดูกพรุน โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ
น้ำมันปลา ตัวช่วยดูแลเซลล์ในร่างกายให้แข็งแรง
DHA กรดไขมันสำคัญในกลุ่มโอเมกา 3 ที่อยู่ในน้ำมันปลา มีบทบาทอย่างมากต่อระบบประสาทและสมอง ช่วยเสริมสุขภาพเซลล์ประสาท และการเจริญเติบโตของสมอง ทำให้การส่งสัญญาณระหว่างเซลล์ทำได้อย่างราบรื่น อีกทั้งยังช่วยป้องกันการอักเสบ ปกป้องเซลล์จากการถูกทำลายและความเสียหาย ที่เป็นผลกระทบจากความเครียด ให้ระบบประสาททำงานได้อย่างสมบูรณ์
น้ำมันปลา ลดภาวะอักเสบ
น้ำมันปลาก็เป็นหนึ่งในผู้ช่วยตัวเก่งที่ช่วยลดการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ กรดไขมัน DHA ในน้ำมันปลามีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยลดระดับ ไซโตไคน์ สารที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ และยังเป็นตัวช่วยควบคุมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เมื่อระดับไซโตไคน์ลดลง อาการอักเสบต่างๆ ก็จะบรรเทาลง ไม่ว่าจะเป็นการอักเสบของข้อ กระดูก หรือแม้แต่อาการอักเสบที่เกิดจากปัญหาสุขภาพเรื้อรังนั่นเอง
น้ำมันปลา ตัวช่วยลดความเสี่ยงปัญหาสุขภาพในชีวิตประจำวัน
ในน้ำมันปลามีกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่สำคัญอย่าง DHA และ EPA ที่ไม่เพียงแต่ช่วยบำรุงสมองและหัวใจ แต่ยังสามารถบรรเทาอาการของโรคต่างๆ และลดความเสี่ยงจากหลายปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นได้ด้วย เพราะ DHA มีส่วนช่วยปกป้องสมองจากการเสื่อมสภาพ ลดความเสี่ยงจากโรคสมองเสื่อม ปรับความดันโลหิตให้ลดลง อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในเรื่องสุขภาพจิต เช่น ลดอาการซึมเศร้า ด้วยการช่วยปรับสมดุลของกรดไขมันในร่างกาย นอกจากนี้ ยังช่วยบรรเทาอาการของโรคต่างๆ เช่น โรคข้อเข่าเสื่อม โรคเบาหวาน หรือแม้กระทั่งโรคหอบหืด เป็นต้น
การรับประทานน้ำมันปลาจะช่วยให้ร่างกายได้รับกรดไขมันโอเมกา 3 ที่จำเป็น โดยเฉพาะ DHA และ EPA ซึ่งมีประโยชน์ต่อการเสริมสร้างสุขภาพหัวใจ สมอง และระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งการรับประทานน้ำมันปลาเพื่อให้ร่างกายได้รับกรดไขมันโอเมกา 3 อย่างเพียงพอ และไม่เกินความจำเป็น ควรอยู่ที่ไม่เกิน 3 กรัมต่อวัน เพราะอาจเกิดผลข้างเคียง อย่างอาการแสบร้อนบริเวณหน้าอก หรือลิ้นปี่ รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการตกเลือดได้ ดังนั้นควรทานในปริมาณที่เหมาะสมและแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ เพื่อให้ร่างกายได้รับคุณประโยชน์จากน้ำมันปลาอย่างเต็มที่ โดยไม่เสี่ยงต่อผลข้างเคียงต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นนั่นเอง
บทความที่น่าสนใจ
Cherished Therapy โปรแกรมฟื้นฟูร่างกายและผิว เพื่อการผ่อนคลายเหนือระดับ
ทำความรู้จัก ‘MICHELIN KEY’ รางวัลใหม่ที่มิชลินไกด์เปิดตัวครั้งแรกในปีนี้