10 ที่เที่ยวภาคอีสาน ต้องห้ามพลาด อัปเดต 2565
ถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวแบบภูเขา ใคร ๆ ก็คงคิดถึงภาคเหนือเป็นที่แรก ถ้าพูดถึงทะเล ก็คงไม่พ้นภาคใต้ และภาคตะวันออก แต่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่า ภาคอีสานนั้น ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม และน่าสนใจอยู่หลายแห่งมาก ๆ เช่นกัน และในวันนี้เราได้รวบรวมเอา 10 ที่เที่ยวภาคอีสาน ต้องห้ามพลาด อัปเดต ปี 2565 นี้มาฝากเพื่อน ๆ กันค่ะ รับรองว่าสวยงามน่าไปทุกที่
อุทยานแห่งชาติไทรทอง ชัยภูมิ
ที่อุทยานแห่งชาติไทยทองนี้ จะมีจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมาก ๆ นั่นก็คือ ทุ่งดอกกระเจียว ซึ่งที่นี่นั้นจะมีอยู่ทั้งหมด 5 ทุ่งนะคะ โดยทุ่งที่ 4 จะมีดอกกระเจียวสีขาว ส่วนทุ่งอื่น ๆ จะเป็นดอกสีชมพู สามารถเดินเชื่อมต่อกันได้ทุกทุ่ง โดยจะมีการทำเส้นทางชมธรรมชาติเอาไว้ลักษณะการเดินวนเป็นวงกลม ดอกกระเจียวนี้จะเริ่มออกดอกในช่วงหน้าฝน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ไปจนถึงกันยายน ซึ่งดอกจะบานเต็มที่มีระยะเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น จากนั้นก็จะค่อย ๆ เหี่ยวและร่วงโรยไป รีวิวฉบับเต็ม คลิก
น้ำตกถ้ำพระ บึงกาฬ
ตั้งอยู่บริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว อ.เซกา จ.บึงกาฬ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ 3 ชั้น ที่ไหลพาดผ่านภูเขาหินทรายขนาดมหึมา ลงสู่เบื้องล่างจนเกิดเป็นแอ่งน้ำกว้างให้นักท่องเที่ยวได้เล่นคลายร้อนกันอย่างสดชื่น นอกจากนี้น้ำที่ไหลเซาะหินจนเป็นร่องน้ำเหมือนสไลด์เดอร์จากธรรมชาติ ถือเป็นไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวพากันต่อคิวเล่นกันอย่างสนุกสนาน
การเดินทางมาน้ำตกนั้นจะต้องนำรถจอดไว้ที่ท่าเรือ และนั่งเรือรับจ้างเข้าไป ค่าบริการท่านละ 20 บาท ใช้เวลาประมาณ 15 นาที จากนั้นก็เดินเท้าต่อไปยังตัวน้ำตก ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร
วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว อุบลราชธานี
วัดภูพร้าว หรือที่หลาย ๆ คนรู้จักในชื่อ วัดเรืองแสง วัดแห่งนี้ตังอยู่ที่ อำเภอสิรินธร เป็นวัดที่อยู่บนเนินเขาสูง โดยจำลองสภาพแวดล้อมของเขาไกรลาส บริเวณบนยอดเขาจะมองเห็นพระอุโบสถสีทองตั้งเด่นเป็นสง่า ไฮไลต์ของการมาเที่ยวที่วัดนี้ก็คือ การได้มาชมภาพเรืองแสงของต้นกัลปพฤกษ์ ที่เป็นจิตรกรรมที่อยู่บนผนังด้านหลังของอุโบสถในยามค่ำคืน ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการมาชมและถ่ายภาพ คือ ช่วงพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว ตั้งแต่ 6 โมงเย็นเป็นต้นไป
สามพันโบก อุบลราชธานี
สามพันโบก หรืออีกหนึ่งชื่อเรียกคือ “แกรนด์แคนยอนเมืองไทย” ด้วยทัศนียภาพที่เป็นแก่งหินขนาดใหญ่ ที่ถูกกัดเซาะจนเป็นแอ่งรูปร่างต่าง ๆ มากกว่า 3,000 แอ่งเลยทีเดียว ซึ่งแอ่งที่เป็นจุดไฮไลต์ของที่นี่ก็คือ แอ่งที่เป็นรูป มิกกี้เมาส์ แอ่งรูปดาว และแอ่งรูปหัวใจ ซึ่งพลาดไม่ได้ที่จะต้องไปตามหา และถ่ายรูปคู่ด้วย และนอกจากนี้ถ้าใครเป็นสายล่าทางช้างเผือกล่ะก็ต้องห้ามพลาดเลยค่ะ เพราะภาพที่ได้นั้นจะเป็นภาพดาวที่สวยงามเต็มท้องฟ้า ตัดกับแก่งหินธรรมชาติ ซึ่งเป็นทัศนียภาพที่หาดูได้ยากมาก ๆ ในเมืองไทย สวยงามเหมือนอยู่ต่างประเทศเลยค่ะ
วัดป่าภูก้อน อุดรธานี
วัดป่าภูก้อน เป็นวัดที่สร้างขึ้นในพื้นที่ของเขตป่าสงวนแห่งชาตินายูง-น้ำโสม ซึ่งวัดแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นวัดพิทักษ์ผืนป่า เพราะวัดไม่เพียงแต่ดูแลพื้นที่ในบริเวณวัดเท่านั้น แต่ยังช่วยฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรมบริเวณโดยรอบวัดอีกด้วย วัดป่าภูก้อนมีความสวยงามโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์มาก ๆ มีพระวิหารที่ตกแต่งด้วยสีฟ้า ขาว สวยงามสะดุดตา อยู่กลางลานกว้าง ล้อมรอบไปด้วยผืนป่าสีเขียว ภายในประดิษฐาน พระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี ที่สร้างด้วยหินอ่อนสีขาวงดงาม มีความยาวถึง 20 เมตร
หินสามวาฬ บึงกาฬ
ถ้าพูดถึงหินสามวาฬแล้วหลาย ๆ คนอาจจะจำภาพกันได้จากละครช่องหนึ่งที่ไปถ่ายทำที่นี่ จนทำให้หินสามวาฬเป็นที่รู้จักและโด่งดังในสายตาของคอละคร และทำให้มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันมา แต่ใครหลายๆคนอาจจะไม่ทราบว่า เจ้าหินที่รูปร่างคล้ายวาฬ 3 ตัวนี้ตั้งอยู่ที่ อ.ภูสิงห์ จ.บึงกาฬ ซึ่งนับเป็นจุดชมวิว ถ่ายรูปที่สวยงดงามและเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก
นักท่องเที่ยวจะนิยมมาถ่ายรูปกันในช่วงเช้ายามพระอาทิตย์กำลังขึ้น ซึ่งเมื่อมองไปยังเบื้องล่างจะเห็นแนวป่าเข้าเขียวขจีโอบล้อมหินทั้ง 3 ก้อนนี้ไว้ ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าหินวาฬพ่อ แม่ ลูก 3 ตัว กำลังแหวกว่ายอยู่ในทะเลสีเขียว เป็นภาพที่ทำให้ทุกคนได้รู้จักกับสถานที่แห่งนี้นั่นเองค่ะ การเดินทางก็ไม่ยากค่ะ จะมีรถจอดให้บริการอยู่บริเวณที่ทำการภูสิงห์ ตั้งแต่ 05.30-17.00 น. ค่าบริการไปกลับ 500 บาท/คัน (นั่งได้10 คน) ใช้เวลาในการเดินทาง 30-40 นาที
มอหินขาว ชัยภูมิ
มอหินขาว ตั้งอยู่ใน เขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา มีลักษณะเป็นเสาหินและแท่งหิน ที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ กระจัดกระจายอยู่ตามจุดต่าง ๆกลายเป็นกลุ่มหินที่มีความสวยงามแปลกตา กลุ่มหินที่มอหินขาว เป็นหินทรายสีขาว เป็นส่วนใหญ่ โดยจะมีบางส่วนเป็นหินทรายแป้ง หินโคลน และหินทรายสีม่วง ไฮไลต์ของมอหินขาว จะเป็นกลุ่มหินที่เรียกว่า เสาหิน 5 ต้น จุดนี้จะเป็นกลุ่มเสาหินที่มีความสูงประมาณ 12 เมตร ต้นที่ใหญ่ที่สุดมีขนาดถึง 22 คนโอบเลยทีเดียวค่ะ
ภูทอก เลย
หลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้ว่า ที่ภาคอีสานนี้ จะมีจุดชมวิวทะเลหมอก ที่สวยงาม และอลังการอยู่ ที่ภูทอกนี้ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะสามารถสัมผัสทะเลหมอกได้อย่างใกล้ชิดแบบสุด ๆ ถ้าหากมองในระยะไกลเบื้องหน้าจะเห็นเป็นวิวทะเลหมอกขาวโพลนตัดกับแสงสีส้มของพระอาทิตย์ ความพิเศษคือที่นี่เป็นจุดที่สามารถมองเห็นวิวได้แบบ 360 องศา เห็นภาพแบบพาโนราม่าของเมืองเชียงคานได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นแก่งคุดคู้และลำน้ำโขง
ภูลมโล เลย
สำหรับใครที่ชอบการชมดอกนางพญาเสือโคร่ง แบบที่ยิ่งใหญ่ อลังการ ในพื้นที่โล่งกว้าง สุดสายตา แนะนำว่าให้มาที่ภูลมโล จังหวัดเลยค่ะ เพราะที่นี่เป็นพื้นที่ที่ปลูก ต้นนางพญาเสือโคร่ง ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ กระจายไปทั่วทั้งหุบเขา ซึ่งแต่ละแปลงปลูกนั้น จะบานไม่พร้อมกันนะคะ
การขึ้นไปชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่ภูลมโลนี้ ไม่สามารถนำรถยนต์ส่วนตัวขึ้นไปได้ค่ะ เพราะเส้นทางที่ลาดชัน และขรุขระ จึงมีบริการรถสำหรับนักท่องเที่ยวซึ่งสามารถขึ้นภูลมโลได้ทั้ง 3 ทาง คือ จังหวัดพิษณุโลกขึ้นทาง อช.ภูหินร่องกล้า จังหวัดเพชรบูรณ์ขึ้นทางบ้านทับเบิก ส่วนจังหวัดเลยขึ้นทาง ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย
วัดผาตากเสื้อ หนองคาย
วัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง ภายในวัดบรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบ ไฮไลต์ของการมาที่นี่คือมายังจุดชมวิว ที่สร้างเป็น Skywalk ทางเดินที่สร้างด้วยกระจกใส เป็นรูปตัว U ยื่นออกไปบริเวณริมหน้าผา ซึ่งจุดนี้สามารถมองลงไปเห็นวิวของแม่น้ำโขง สวยงามมาก ๆ หากมาเที่ยวในช่วงเช้าอาจมีโอกาสได้เห็นสายหมอกบางที่ลอยเหนือแม่น้ำโขงอีกด้วย นอกจากจุดที่เป็นสะพานกระจกแล้ว ก็ยังมีจุดชมวิวอีกจุดหนึ่งที่เป็นชะง่อนผา จุดนี้ก็ชมวิวได้กว้าง และสวยงามไม่แพ้กันเลยค่ะ