Double Tourbillon White Gold, Charoite Edition ที่สุดของความลิมิเต็ด ‘ผลิตเรือนเดียวในโลก’: Arnold & Son (อาร์โนลด์ แอนด์ ซัน) ยังคงเดินหน้าค้นหาวัสดุหายากและไม่เคยมีมาก่อนในวงการนาฬิกา อย่าง Charoite (ชารอยต์) หินสีม่วงอมชมพูอ่อนที่มีเส้นสายสีขาวละเอียด ที่เป็นการนำเฉดสีสันอันสูงส่งมาสู่เรือนเวลา Double Tourbillon (ดับเบิลทูร์บิยอง) ซึ่งเป็นนาฬิกาที่มีกลไกซับซ้อน เมื่อนำมาจับคู่กับตัวเรือนทองคำขาว สะพานกลไกทูร์บิยองแบบฉลุ และหน้าปัดย่อยสีโอปอล์ขาวบริสุทธิ์ วัสดุชารอยต์จึงเป็นการมอบความสง่างามที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับนาฬิกาเรือนพิเศษนี้
ในภาษาของการผลิตนาฬิกาของ Arnold & Son นั้น “Double Tourbillon” ถือเป็นกลไกที่ทำได้ยาก ทำให้นาฬิกาคอลเลกชัน ดับเบิล ทูร์บิยอง ไวท์ โกลด์ กลายเป็นตัวแทนของนาฬิกาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ดึงดูดความงดงามของวัสดุธรรมชาติที่ Arnold & Son ได้ค้นคว้าและพัฒนาขึ้นมาอย่างพิถีพิถันมาใช้ในการสร้างสรรค์ ซึ่งนับเป็นการสานต่อจากการนำหยกจักรพรรดิ มาลาไคต์ และอำพันบอลติก มาใช้ในนาฬิกาของแบรนด์มาก่อนหน้านี้ และในครั้งนี้ Arnold & Son ได้นำเสนอชารอยต์ อัญมณีอันล้ำค่าเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชันแร่หายาก
ชารอยต์เป็นอัญมณีที่หายาก และมีสีสันที่เปลี่ยนแปลงได้หลากหลาย เช่น สีม่วงปาร์มา สีม่วงอ่อน สีม่วงลาเวนเดอร์ และสีไลแลค คล้ายกับลาพิส ลาซูลี ซึ่งชารอยต์เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของแร่ธาตุชนิดต่าง ๆ ที่มีมวลสารและสีสันที่หลากหลาย ในความเป็นจริง ชารอยต์เป็นหนึ่งในหินที่มีความซับซ้อนที่สุดที่เคยเกิดขึ้นบนเปลือกโลก เนื่องจากสูตรเคมีของมันคือ ซิลิเกตที่มีธาตุอะลูมิเนียม เหล็ก แมงกานีส แบเรียม และสตรอนเทียมในปริมาณเล็กน้อย
ชารอยต์ประกอบด้วยมวลสารที่ซับซ้อนที่ถูกทอทับกันอย่างลงตัว ซึ่ง Arnold & Son ได้เลือกใช้ชารอยต์เป็นพื้นผิวของหน้าปัดนาฬิกา ดับเบิล ทูร์บิยอง ไวท์ โกลด์ โดยได้ตัดหินขั้นตอนอันละเอียดอ่อนโดยไม่ทำให้หินแตกออกจากกัน และเปิดช่องว่างขนาดใหญ่สองช่องสำหรับหน้าปัดย่อยและกลไก Double Tourbillon จากนั้นจึงขัดเงาเพื่อเผยให้เห็นสีม่วงที่ประดับด้วยจุดสีขาว
ในแง่ประวัติศาสตร์ นาฬิกา Double Tourbillon White Gold มีพื้นฐานมาจากผลงานของ John Arnold ช่างทำนาฬิกา สร้างนาฬิกาเรือเดินสมุทรที่มีความน่าเชื่อถือและง่ายต่อการใช้งาน เพื่อช่วยให้ผู้เดินเรือสามารถติดตามเวลา และคำนวณตำแหน่งการเดินเรือได้อย่างถูกต้อง ซึ่งผู้ที่เดินเรือทางทะเลสามารถคำนวณตำแหน่งของตนเองบนแกนตะวันออก-ตะวันตกหรือลองจิจูดได้อย่างแม่นยำ
นาฬิกา Double Tourbillon White Gold ได้สืบทอดความซับซ้อนของเวลาของนาฬิกาเรือนนี้ ด้วยการแสดงเวลาท้องถิ่นบนหน้าปัดย่อยตรงตำแหน่ง 12 นาฬิกา โดยใช้ตัวเลขโรมัน และแสดงเวลาของอีกสถานที่หนึ่งตรงตำแหน่ง 6 นาฬิกา โดยใช้ตัวเลขอาหรับ ซึ่งหน้าปัดย่อยทั้งสองนี้ แสดงชั่วโมงและนาทีที่เป็นอิสระต่อกันอย่างสมบูรณ์และแม่นยำในระดับนาที
ในแง่ของการผลิต นาฬิกา Double Tourbillon ได้ดึงเอาความสามารถในการออกแบบ การผลิต การตกแต่ง และการปรับแต่งของโรงงานมาใช้ กระจกแซฟไฟร์ของนาฬิกาเรือนนี้โค้งนูน เพื่อรองรับความลึกของกลไก Double Tourbillon ซึ่งแต่ละกลไกนั้นถูกยึดติดกับสะพานจักฉลุสามมิติแบบคานยื่น ที่ทำจากวัสดุทองคำขาว นอกจากนี้ กลไกทั้งสองยังเชื่อมต่อกับชุดเกียร์คู่ ซึ่งหมายความว่า กลไก A&S8513 นั้นมีกระบอกสปริงสองตัว เม็ดมะยมสองอัน และสามารถแสดงเวลาได้สองเขตเวลา
นาฬิกาเรือนนี้สามารถแสดงเวลาได้หลายรูปแบบ ทั้งแสดงเวลาเดียวกันสองเขตเวลา หรือแสดงเวลาปกติไปพร้อม ๆ กับจับเวลาในระยะเวลาที่ต่อเนื่องยาวนาน ความแตกต่างจากนาฬิกาเดินทางทั่วไป นาฬิกา Double Tourbillon สามารถปรับเวลาให้เข้ากับโซนเวลาที่แตกต่างกันไปได้อย่างละเอียด เช่น 15, 30 หรือ 45 นาที
โครงสร้างของกลไก A&S8513 นั้น โดดเด่นด้วยการตกแต่งที่ประณีต ตั้งแต่การขัดแต่ลวดลาย Côtes de Genève ไปทั่วสะพานจักร จนถึงแท่นเครื่องด้วยลายวงกลม ตลับลานคู่ที่ตกแต่งด้วยลวดลายก้นหอย คลาวด์วีลขัดแต่งลวดลายซันเรย์ และการขัดเงาที่โกล์ดชาตอง ซึ่งทุกอย่างที่ถูกใส่ลงไปในกลไกนี้ สะท้อนถึงความหรูหรา ฝีมืออันประณีต และความเป็นเลิศ
สะพานจักรกลไก Tourbillon ทำจากทองคำขาว ซึ่งมีการขัดแต่งเหลี่ยมมุม ขัดแต่งแบบซาตินและขัดเงา เป็นจุดเด่นของการโชว์ความหรูหราอันเป็นเลิศ นาฬิกานี้ จึงเป็นการนำเสนอความงามของกลไกและการตกแต่ง ที่ควบคู่ไปกับความงามเชิงสัญลักษณ์ที่ปรากฎอยู่บนหน้าปัดของนาฬิกา และมีการกำหนดราคาไว้ที่ 227,100 ฟรังก์สวิส รวมภาษี (ราคาอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง)
บทความที่น่าสนใจ
iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max จอใหญ่ขึ้น กล้องล้ำระดับโปรและแบตอึดกว่าเดิม
Konstantin Chaykin ThinKing นาฬิกาที่บางที่สุดในโลก เพียง 1.65 มม. และหนักเพียง 13.3 กรัม
