More
    spot_img

    NIKE SB ไลน์การผลิตที่ครองใจเด็กบอร์ดมากว่า 20 ปี

    NIKE SB ไลน์การผลิตที่ครองใจเด็กบอร์ดมากว่า 20 ปี

    ต้อนรับการกลับมาของ Nike SB หรือ Nike Skateboarding ไลน์การผลิตรองเท้าสเก็ตบอร์ดเเละเครื่องเเต่งกายของเเบรนด์ ที่จะทยอยขนทัพมาให้เเฟน ๆ Swoosh สายสเก็ตได้หายคิดถึงกันอีกครั้ง! แต่ก่อนที่จะไปรู้จักกับรองเท้ารุ่นที่น่าสนใจ เราขอพาทุกคนไปรู้จักกับประวัติคร่าว ๆ ของไลน์การผลิต SB กันซะก่อน

    Cr. Photo : Nike

    ย้อนกลับในช่วงต้นยุค 90s ที่ Nike นั้นพยายามจะเข้าไปตีตลาดวงการสเก็ตบอร์ดแต่กลับไม่ได้รับความไว้ใจจากเหล่าชาวสเก็ตเลยแม้แต่น้อย เพราะในสมัยก่อนวัฒนธรรมสเก็ตบอร์ดนั้นเป็นเพียง Sub Culture เล็กๆ ชาวสเก็ตในสมัยนั้นจึงไม่อยากให้องค์กรที่ไม่ได้รู้จักวงการนี้ดีพอเข้ามาทำธุรกิจ พวกเขาเชื่อว่า Nike เข้ามาเพื่อหวังผลประโยชน์เท่านั้น แต่สุดท้ายทาง Nike ก็ยังดึงดันและปล่อยโมเดลรองเท้าสเก็ตรุ่นแรกของแบรนด์ออกมาในปี 1996 โดยใช้ชื่อว่า The Choad และก็เป็นไปตามคาดเพราะ The Choad นั้นล้มเหลวไม่เป็นท่า ตัวรองเท้านั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาจากความต้องการจริงๆ ของเหล่านักสเก็ตเลยเเม้เเต่น้อย

    เเละทาง Nike ยังพยายามยัดเทคโนโลยีที่มากเกินความจำเป็นลงไป จนถึงขั้นที่ว่าโปรสเก็ตในสมัยนั้นต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “You don’t get us so we’re not gonna drink the kool-aid” หรือที่มีหมายความในเชิงว่า “รองเท้าของ Nike นั้นไม่มีทางได้ใจพวกเขา พวกเขาจะไม่ใส่รองเท้าเด็กเล่น” จนสุดท้ายชื่อของ The Choad ก็ค่อยๆ จางหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์

    เเต่จุดเปลี่ยนก็มาถึง! ในปี 2001 Nike ได้ก่อตั้งแผนก Nike SB ขึ้นมาเพื่อหวังจะแก้มือจากความล้มเหลวในครั้งก่อน และการมาถึงของชายชื่อ Sandy Bodecker นั้นได้เปลี่ยนเกมและทำให้ Nike กลับเข้ามามีบทบาทในวงการสเก็ตบอร์ดอีกครั้ง โดย Sandy เขาได้เริ่มจากการย้อนกลับไปศึกษารองเท้าบาสเก็ตบอลในยุค 70s ทั้งหมดของ Nike ทั้งโมเดล Air Jordan 1, Nike Dunk และ Blazer รวมถึง Sandy ยังได้เข้าไปคลุกคลีกับนักสเก็ตบอร์ดมืออาชีพมากมายเพื่อให้เข้าถึงวัฒนธรรมและเข้าใจสิ่งที่คนเล่นสเก็ตนั้นต้องการจริง ๆ

    Cr. Photo : Nike

    ในที่สุดในช่วงต้นปี 2001 รองเท้าคู่แรกในไลน์การผลิตของ Nike SB ก็ได้ออกสู่ท้องตลาดในชื่อ Nike Dunk Low Pro B โดยทาง Nike ได้ปรับปรุงข้อเสียของโมเดลรุ่นก่อนๆ และใส่เพียงเทคโนโลยีที่จำเป็นลงไปเท่านั้น โดยได้เพิ่มเทคโนโลยีอย่าง Zoom Air Bag ที่ช่วยลดเเรงกระเเทก เเละได้เพิ่มความหนาของลิ้นรองเท้า เพื่อซัพพอร์ตชาวสเก็ตให้ได้มากที่สุด เเละอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่ทำให้ Nike นั้นสามารถเอาชนะใจเด็กบอร์ดชาวอเมริกันได้ ก็คือ การก่อตั้งทีม “Nike SB” โดยการจับโปรสเก็ตมากฝีมือในยุคนั้นมาเซ็นสัญญา โดยสมาชิกในยุคก่อตั้งประกอบไปด้วย Reese Forbes, Gino Lanucci , Richard Mulder และ Danny Supa แถม Nike ยังออกแบบรองเท้าให้โปรทั้ง 4 คนอีกด้วยเรียกได้ว่าเอาใจชาวสเก็ตในยุคนั้นสุดๆ

    อีกหนึ่งกลยุทธ์ ที่เรียกว่าได้ผลสุดๆ ของ Nike SB ก็คือการเลือกวางจำหน่ายไลน์สินค้า SB เฉพาะร้านสเก็ตช้อปเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แถมยังจำกัดจำนวนการผลิตของสินค้าเพื่อให้สินค้าทุกชิ้นนั้นมีความพิเศษ โดยทาง Sandy เขาได้เดินทางไปยังร้านสเก็ตช้อปท้องถิ่นตามหัวเมืองต่างๆในอเมริกา เพื่อเข้าไปพูดคุยเเนะนำตัวเองเเก่ร้านเหล่านั้น เเละตัวของ Sandy เองนั้นอยากพิสูจน์ให้ชาวสเก็ตทุกคนเห็นว่าทาง Nike SB นั้นพร้อมที่จะซัพพอร์ตวงการสเก็ตบอร์ดท้องถิ่นอย่างจริงจัง

    ด้วยบุคลิกที่สนุกสนานบวกกับความเข้าใจหัวอกของเหล่านักสเก็ตอย่างถ่องเเท้ของตัว Sandy จนในที่สุดสังคมสเก็ตบอร์ดก็เริ่มเปิดใจยอมรับสินค้าจากทาง Nike SB มากขึ้น ปัจจุบันเป็นเวลากว่า 35 ปี มาแล้วที่ Nike SB ได้วางรากฐานให้กับวงการสเก็ตบอร์ด และในปัจจุบันพวกเขาก็ยังไม่หยุดที่จะส่งต่อความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการอันไม่หยุดนิ่งให้กับผู้คนทั่วทั้งโลก

    เริ่มที่โมเดลเรือธงที่หลายๆ คนรอคอยกับ Dunk SB รองเท้าสุดอมตะ โดดเด่นด้วยดีเทลที่ใครเห็นเป็นต้องจำได้อย่าง “ลิ้นรองเท้า” ที่หนาเเละดูใหญ่กว่า Nike Dunk รุ่นธรรมดา รวมถึงตัว Logo บริเวณลิ้นรองเท้าเเละ Insole ที่ใช้ Nike SB Logo เเทน Nike Logo ปกติ (ยกเว้นตัวที่เป็นงาน Collab บริเวณ Insole อาจจะไม่มี Nike SB Logo เเต่อาจถูกเเทนที่ด้วยลวดลายกราฟิกอื่น ๆ เเทน)

    อีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่ซ่อนอยู่บริเวณใต้ Insole นั่นก็คือ พื้น Zoom Air ที่ช่วยลดเเรงกระเเทกในเวลาที่เเผ่นสเก็ตต้องกระเเทกกับพื้น เเละที่สำคัญพื้น Zoom air ยังมีความบางช่วยให้ฝ่าเท้าสัมผัสกับเเผ่นสเก็ตได้มากที่สุด ทำให้นักกีฬาสเก็ตสามารถเล่นท่วงท่าได้อย่างอิสระ เเละในบางรุ่นของ Nike Dunk SB ก็ยังมีเทคโนโลยีอย่าง Hyperfuse เทคโนโลยีที่ช่วยผสานพื้นรองเท้าชั้นกลางให้มีความบางเพื่อให้นักกีฬารู้สึกเหมือนกำลังเท้าเปล่าอยู่บนเเผ่นสเก็ต

    อีกหนึ่งความเจ๋งของ Dunk SB ก็คืออิสระในการสร้างสรรค์งาน Collab ที่ทาง Nike อนุญาตให้เหล่านักสเก็ตที่มาร่วมออกแบบได้ใส่ไอเดียสนุกๆอย่างเต็มที่ อย่างรุ่น Nike SB Dunk High Pro Kevin Bradley ที่ภายนอกดูเป็นรองเท้าหนังสีขาวธรรมดา เเต่ถ้าใส่เล่นสเก็ตไปเรื่อยๆหนังสีขาวจะค่อยๆลอกออกเเละเผยให้เห็นซับในสีเเดงที่ซ่อนอยู่ด้านใน เเละไม่ใช่เเค่งาน Collab กับโปรสเก็ตอย่างเดียวเท่านั้น Nike ยังข้ามฝากไป Collab กับศิลปินเเขนงต่างๆ มากมาย เช่น Nike SB Dunk Low Parra ,Nike SB Dunk Low QS “Cactus Jack” (Travis Scott), Nike SB Dunk Low “Futura” เเละอื่นๆ อีกมากมาย สำหรับในปีนี้อยากให้จับตาดู Nike Dunk SB ให้ดีเชื่อว่าทาง Nike นั้นยังไม่หยุดสร้างสรรค์ผลงานสนุก ๆ ออกมาเเน่นอน

    Cr. Photo : Nike

    อีกหนึ่งโมเดลที่นักสเก็ตทั่วโลกต่างเทใจให้ ด้วยตัวโมเดลที่มีโครงสร้างสุดทนทาน ประกบกับพื้นยางวัลคาไนซ์แบบเเข็งที่สามารถยึดเกาะกับกริปเทปบนเเผ่นสเก็ตได้เป็นอย่างดี รวมถึงวัสดุหลักๆ ที่โมเดล SB Blazer เลือกใช้ก็มักจะเป็นหนังกลับแบบหนาที่ฉีกขาดยาก แถมมาในทรงที่มีความบวมเเละหนากว่ารุ่น Blazer ธรรมดา ปิดท้ายด้วยเทคโนโลยี Zoom Air ที่ช่วยลดเเรงกระเเทกถูกใจคอสเก็ตเเน่นอน

    เเละทาง Nike ก็ยังจัดเต็มด้วยงาน Collab กับเเบรนด์ดังสายสเก็ตมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Supreme, Stussy หรือ Thrasher Magazine ใครที่ชอบความเรียบง่ายเเต่คลาสสิค เราอยากให้จับตาดูโมเดล SB Blazer ให้ดีว่าปีนี้จะมี Colorway ใหม่ ๆ อะไรออกมาให้ชาวสเก็ตได้เสียทรัพย์กันอีกบ้าง

    Related Post

    Most Popular

    Recommended