เที่ยงคืนวันที่ 14 กันยายน 2564 Apple ได้เปิดตัว Iphone 13 Series รวมถึง Ipad, Ipad Mini และ Apple Watch
แต่วันนี้เราจะมาพูดถึง Iphone 13 Series ที่ทุกคนตั้งตารอคอย และลุ้นกันมานาน ที่มาพร้อมกับสีสันใหม่ และใช้ ชิป A15 Bionic ที่เค้าว่าแรงกว่าชิปทั่วไปถึง 50% ส่วนนวัตกรรมใหม่นี้จะพัฒนาเพิ่มขึ้นขนาดไหนไปดูกันเลย
เริ่มจาก Iphone 13 กันก่อนเลยที่ทุกคนตั้งตารอกันอย่างใจจดใจจ่อ ซึ่งรอบนี้ก็ใช้ชื่อเป็น Iphone 13 นะคะ มีให้เลือก 4 แบบเช่นเคย Iphone 13 mini, Iphone 13, Iphone 13 Pro และ Iphone 13 Pro Max
Iphone 13 และ Iphone 13 Mini
Iphone 13 และ Iphone 13 mini มาพร้อมสีใหม่ คือ สีชมพู โดนใจสายหวานอย่างแน่นอน พร้อมทั้งสีน้ำเงิน สีมิดไนท์ สีสตาร์ไลท์ และสีแดง
Iphone 13 ขนาดหน้าจอ 6.1”
Iphone 13 mini ขนาดหน้าจอ 5.4”
จอภาพ OLED Super Retina XDR สว่างคมชัดขึ้น
และทนน้ำระดับ IP68 และกันน้ำในระดับความลึกสุดที่ 6 เมตร
ดีไซน์ด้านหน้าแบบ Ceramic Shield ด้านหลังแบบกระจก และอะลูมิเนียม
ตัวเครื่องเป็น 100% Recycled Aluminium
กระจกหน้าจอ Ceramic Shield
ชิป
ใช้ชิป A15 Bionic เร็วแรง แต่ประหยัดพลังงาน ตัวเดียวกันกับรุ่น Pro แต่ Ram น้อยกว่า
CPU เร็วขึ้น 50%
กราฟฟิกเร็วขึ้น 30%
กล้อง และเลนส์
กล้องหลัง
มีการปรับการวางเลนส์กล้องใหม่เป็นแบบแทยงมุม
– กล้องหลัก ความละเอียดอยู่ที่ 12 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f1.6
– กล้องอัลตร้าไวด์ใหม่ ความละเอียดอยู่ที่ 12 ล้านพิกเซล ค่ารูรัลแสง f2.4 เผยให้เห็นรายละเอียดของภาพได้มากขึ้น และกล้องไวด์ใหม่ รับแสงได้มากขึ้น 47%
– ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ ออปติคัล ช่วยให้การถ่ายภาพนิ่งมากขึ้น
– มีโหมดถ่ายภาพแบบภาพยนตร์ Cinematic Mode ที่สามารถสลับจุดโฟกัสจากสิ่งหนึ่งไปอีกสิ่งหนึ่ง เพื่อให้คุณเล่าเรื่องผ่านวิดีโอได้ง่ายๆ
– โหมดภาพยนตร์จะสร้างเอฟเฟ็กต์ชัดลึกได้สวยงาม และเปลี่ยนจุดโฟกัสให้อัตโนมัติ ถ่าย HDR ในแบบ Dolby Vision เก๋กู๊ดมาก ซึ่งในเร็วๆนี้จะสามารถใช้ตัดต่อบน imovie และ Final Cut Pro ได้
– กล้องหลัง 2 ตัวสามารถถ่ายวิดีโอได้ในระดับ 4K ความละเอียดสูงสุดที่ 60 fps อีกด้วย
– มาพร้อมกับโหมดถ่ายภาพกลางคืน โหมดภาพถ่ายบุคคล Deep Fusion ที่คมชัดลึก และเก็บรายละเอียดได้ดียิ่งขึ้น
กล้องหน้า
ระบบกล้องหน้า TrueDepth ความละเอียด 12ล้านพิกเซล มาพร้อมคุณสมบัติล่าสุดทั้งหมดเหมือนกล้องหลัง:
– โหมดภาพยนตร์
– สไตล์ภาพถ่าย
– การบันทึก HDR ในแบบ Dolby Vision
– โหมดภาพถ่ายบุคคล
– เซลฟี่ในโหมดกลางคืน
– HDR อัจฉริยะ 4
– Deep Fusion
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ ใช้งานนานขึ้นกว่ารุ่นก่อน 2.5 ชั่วโมง บน Iphone 13 และใช้งานขึ้น 1.5 ชั่วโมง บน Iphone 13 mini
รองรับ 5G ที่ทำงานได้เร็วขึ้น
มีขนาดความจุใหม่เริ่ม 128GB 256GB และ 512GB
ราคา
**สำหรับการสั่งซื้อเครื่องสีแดง ทุกการจำหน่ายจะนำไปสมทบทุนให้โลกโดยตรงเพื่อสู้กับ COVID – 19
Iphone 13 Mini
ความจุ 128GB เริ่มต้นที่ 25,900 บาท
ความจุ 256GB ราคา 29,900 บาท
ความจุ 512GB ราคา 37,900 บาท
Iphone 13
ความจุ 128GB เริ่มต้นที่ 29,900 บาท
ความจุ 256GB ราคา 33,900 บาท
ความจุ 512GB ราคา 41,900 บาท
สั่งซื้อล่วงหน้า 1 ต.ค. 64
เริ่มวางจำหน่าย 8 ต.ค. 64
Iphone 13 Pro และ Iphone 13 Pro Max
Iphone 13 Pro และ Iphone 13 Pro Max มาพร้อมสีใหม่ คือ เซียร์ร่าบลู สีฟ้าอ่อนๆ พร้อมทั้งสีเงิน สีทอง และสีกราไฟต์
ไอโฟน 13 Pro ขนาดหน้าจอ 6.1”
ไอโฟน 13 Pro Max ขนาดหน้าจอ 6.7”
จอภาพ Super Retina XDR มาพร้อมกับเทคโนโลยีความสว่าง 1000 – 1200 nits
หน้าจอแบบ Promotion ที่สามารถปรับค่าแสดงผลได้ระหว่าง 10 – 120 Hz โดยอัตโนมัติ ตั้งแต่การเคลื่อนไหวและภาพที่ปรากฏ ทั้งหมดแสดงผล OLED
ทนน้ำระดับ IP68 และกันน้ำในระดับความลึกสุดที่ 6 เมตร
ดีไซน์ด้านหน้าแบบ Ceramic Shield ด้านหลังแบบกระจก และอะลูมิเนียม
ตังเครื่องเป็น 100% Recycled Gold
ชิป
ชิป A15 Bionic เร็วแรง แต่ประหยัดพลังงาน แบบ 6 – Core
CPU เร็วกว่าคู่แข่ง 50%
กราฟฟิกเร็วกว่าคู่แข่ง 30%
กล้อง และเลนส์
กล้องหลัง
– กล้องหลักความละเอียดอยู่ที่ 12 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f1.5 รับแสงได้มากขึ้นสูงสุด 2.2 เท่า ถ่ายภาพตอนกลางคืนสบาย ไร้กังวล เพราะยังสามารถเก็บรายละเอียดได้อย่างคมชัด รองรับการถ่ายวิดีโอระดับ 4K ความละเอียดสูงสุด 60fps
– กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มีค่ารูรับแสง f1.8 มีระบบ Auto Focus
– กล้อง Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเช่นกัน
สามารถถ่ายภาพ ตัดต่อ ส่งออกทั้งหมดในแบบ ProRes
วันนี้ HDR อัจฉริยะ 4 อาศัยขุมพลังการเรียนรู้ของระบบที่มาพร้อมกับ Neural Engine เพื่อปรับแต่งภาพหมู่โดยจะมีการปรับค่าต่างๆ ของแต่ละคนในแบบที่ต่างกันออกไป ซึ่งซอฟต์แวร์และ ISP ของเราจะปรับคอนทราสต์ การจัดแสง และโทนสีผิวของแต่ละคนให้สวยงามลงตัวโดยอัตโนมัติ คราวนี้ก็ไม่ต้องแปลกใจถ้าทุกคนจะดูดีอยู่เสมอ
โทน ปรับเพิ่มเพื่อให้ภาพสว่างขึ้นและมีสีสันสดใสยิ่งขึ้น ปรับลดเพื่อให้เงาดำมืดยิ่งขึ้นและมีคอนทราสต์จัดขึ้น
โทนอุ่น ปรับเพิ่มเพื่อเน้นให้ภาพมีโทนสีทองมากขึ้นปรับลดเพื่อให้ภาพมีโทนสีฟ้ามากขึ้น
กล้องหน้า
– โหมดภาพยนตร์
– สไตล์ภาพถ่าย
– การบันทึก HDR ในแบบ Dolby Vision
– โหมดภาพถ่ายบุคคล
– เซลฟี่ในโหมดกลางคืน
– HDR อัจฉริยะ 4
– Deep Fusion
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ ใช้งานนานขึ้นกว่ารุ่นก่อน 2.5 ชั่วโมง บน Iphone 13 Pro และใช้งานขึ้น 1.5 ชั่วโมง บน Iphone 13 Pro Max
มี Face ID ซึ่งเป็นการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าที่ปลอดภัยที่สุดในสมาร์ทโฟน
จอภาพ Promotion ที่มีการดึงข้อมูลใหม่แบบปรับได้ที่ 120Hz ถูกใจคนที่ต้องการความคมชัดของภาพแน่นอน พร้อมทั้งความสว่างสูงสุด 1,200นิต สำหรับภาพ และวิดีโอ HDR
รองรับ 5G ที่ทำงานได้เร็วขึ้น
ขนาดความจุเริ่ม 128GB 256GB และ 512GB และเพิ่มมาใหม่ 1TB เก็บข้อมูลได้จุใจ
Iphone 13 Pro
ความจุ 128GB เริ่มต้นที่ 38,900 บาท
ความจุ 256GB ราคา 42,900 บาท
ความจุ 512GB ราคา 50,900 บาท
ความจุ 1TB ราคา 58,900 บาท
Iphone 13 Pro Max
ความจุ 128GB เริ่มต้นที่ 42,900 บาท
ความจุ 256GB ราคา 46,900 บาท
ความจุ 512GB ราคา 54,900 บาท
ความจุ 1TB ราคา 62,900 บาท
สั่งซื้อล่วงหน้า 1 ต.ค. 64
เริ่มวางจำหน่าย 8 ต.ค. 64
ที่แอบเศร้านิดนึง คือ Iphone 13 Series ยังคงใช้สายชาร์จแบบหัว Lightning เหมือนเดิมเลยค่ะ แง้
————–
มาดูภาพ ของ Ipad, Ipad Mini และ Apple Watch กันต่อนิดนึง ว่ามีอะไรที่เป็นไปตามคาดกันบ้างหรือเปล่าคะ
New Ipad 2021
Ipad หน้าจอขนาด 10.2″
จอภาพ Retina พร้อมการแสดงผลแบบ True Tone
มี 2 สี สีเทาสเปซเกรย์ และสีเงิน
ขนาดความจุเริ่มต้น 64GB
ชิพ A13 Bionic พร้อม Neural Engine
และยังคงใช้ Apple Pencil (รุ่นที่ 1) อยู่เลยค่า
New Ipad Mini
Ipad Mini หน้าจอขนาด 8.3″
จอภาพ Liquid Retina
มี 2 สี สีเทาสเปซเกรย์ สีชมพู สีม่วง และสีสตาร์ไลท์
ขนาดความจุเริ่มต้น 64GB
ชิพ A15 Bionic พร้อม Neural Engine
และใช้ Apple Pencil (รุ่นที่ 2)
Apple Watch Series 7
มีสีเขียว สีน้ำเงิน สีแดง สีสตาร์ไลท์ และสีมิดไนท์
ขนาดหน้าจอขยายใหญ่เต็มตาขึ้น
จอภาพ Retina แบบติดตลอด กระจ่างขึ้นทุกเรื่อง
Series 7 คือ Apple Watch ที่ทนทานที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา
ชาร์จได้เร็วกว่า Series 6 33%
แต่ว่าทั้ง Ipad, Ipad Mini และ Apple Watch ต้องรอติดตามวันวางจำหน่ายอีกทีนะคะ
เป็นยังไงกันบ้างคะ ทั้งโทนสี และนวัตกรรมใหม่ของ Iphone 13 Series โดนใจกันบ้างหรือเปล่าคะ ซึ่งรอบนี้แล้วคุณภาพ ของแต่ละ Series ดูเกือบจะใกล้เคียงกันมากๆเลย ทั้งรุ่นเล็ก และรุ่นใหญ่ ใครที่ใช้ Iphone 12 Series อยู้คิดว่าควรเปลี่ยนดีหรือเปล่าเอ่ย ^^
ดูรายละเอียดเพิ่มได้ที่ Apple Thailand