ถ้าหากเหล่าสาวกแฟชั่นแบรนด์เนมไฮเอนด์ลองสังเกตการเปลี่ยนแปลงในแวดวงแฟชั่นในช่วง 3-4 ปีให้หลังที่ผ่านมา ทุกคนจะทราบได้ในทันทีว่า แบรนด์แฟชั่นระดับโลกมากหน้าหลายแบรนด์ได้ตัดสินใจออกมาประกาศอย่างเป็นทางการ เพื่อที่จะร่วมกันรณรงค์นำร่องในแคมเปญ Fur-Free หรือการรณรงค์เลิกใช้ขนสัตว์นั่นเอง ล่าสุดในปีนี้ก็ถึงคิวของแบรนด์อิตาเลียนสุดหรูอย่าง Dolce & Gabbana ที่เพิ่งจะประกาศเจตจำนงอย่างเป็นทางการผ่านอินสตาแกรม ในวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมาว่า ทางแบรนด์กำลังดำเนินการเลิกใช้ขนสัตว์ในการออกแบบและผลิตสินค้าแฟชั่นทุกชนิดเป็นการถาวร เพื่อการพัฒนาแบรนด์ในทิศทางที่ดีขึ้นไปอย่างยั่งยืน
โดยทางแบรนด์จะเริ่มหยุดการใช้ขนสัตว์ ตั้งแต่คอลเลกชันในปี 2022 นี้เป็นต้นไป ซึ่งทางแบรนด์ โดลเช่ แอนด์ กาบบาน่า ยังคงจะร่วมทำงานกับเหล่ากลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านขนสัตว์ต่อไป แต่จะเป็นการเน้นหาวิธีการและแนวทางร่วมกัน เพื่อที่จะสร้างสรรค์ Eco-Fur หรือขนสัตว์เทียมที่ทำมาจากวัสดุรีไซเคิล ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมขึ้นมาทดแทนนั่นเอง โดยการตัดสินใจในครั้งนี้ได้รับการยกย่องและสนับสนุนจากองค์กร Humane Society of the United States และ Humane Society International
Dolce & Gabbana เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีอิทธิพลในวงการแฟชั่น ที่ตัดสินใจยกเลิกการใช้ขนสัตว์ ซึ่งทางแบรนด์ในอดีตเคยมีการใช้ขนสัตว์จริงชนิดต่าง ๆ ในการผลิตไอเทมแฟชั่นและสินค้าอื่น ๆ ของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น ขนจากหมาป่า, ขนมิ้งค์ รวมไปถึงขนกระต่าย ในการออกแบบและผลิตสินค้าของแบรนด์ อย่างไรก็ตามในปีหลัง ๆ ทางแบรนด์ได้มีการปรับตัวและเปิดรับการใช้ขนสัตว์เทียม เข้ามาเป็นส่วนประกอบภายในคอลเลกชันมากขึ้น โดยอาศัยการใช้เนื้อผ้าจำพวกผ้าใยสังเคราะห์ เช่น Polyester และ Acrylic
แรงกระตุ้นในการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ คงหนีไม่พ้นการลงมติการแบนฟาร์มขนสัตว์ในประเทศอิตาลี ในช่วงเดือนธันวาคม ปี 2021 ที่ผ่านมา โดยทางสภาได้ออกกฎหมายใหม่ ที่จะทำให้ฟาร์มเพาะเลี้ยงขนมิ้งค์ในอิตาลีกว่า 10 แห่ง ต้องปิดตัวลงภายในอีก 6 เดือนข้างหน้านี้ ซึ่งกฎนี้มีผลบังคับใช้ในทันที
ซึ่งกลายเป็นเหมือนการบังคับให้แบรนด์เสื้อผ้า และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ทำมาจากขนสัตว์ ต้องตัดสินใจเลิกใช้ขนสัตว์ไปโดยปริยายนั่นเอง โดยทาง โดลเช่ แอนด์ กาบบาน่า ได้ประกาศว่าจะรีบดำเนินการเริ่มหยุดผลิตสินค้าด้วยขนสัตว์ และจะทำการยกเลิกสินค้าทุกชนิดของแบรนด์ ที่มีส่วนประกอบมาจากขนสัตว์ให้หมดไป โดยเริ่มจากปีนี้เป็นต้นไป
ในช่วงที่ผ่านมาแบรนด์สุดหรูระดับโลกหลายแบรนด์ รวมทั้ง Chanel, Prada และ Burberry ได้ล่วงหน้ารณรงค์งดใช้ขนสัตว์ ในส่วนของแบรนด์ตัวเองไปเป็นที่เรียบร้อยกันไปแล้ว ซึ่งในปีนี้เองนับว่าเป็นข่าวใหญ่ต้อนรับปีใหม่ ที่ทางแบรนด์อิตาเลียนสุดหรูอีกแบรนด์อย่าง Dolce & Gabbana ที่ออกมาร่วมแคมเปญ Fur-Free ที่จะหยุดการใช้ทั้งขนหมาป่า และขนมิ้งค์ภายในคอลเลกชันนับจากนี้เป็นต้นไป
ในปี 2017 แบรนด์อิตาเลียนระดับโลกอย่าง Gucci นับว่าเป็นแบรนด์หรูไฮเอนด์แบรนด์แรก ที่ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการ ที่จะไม่ใช้ขนสัตว์ในผลิตภัณฑ์ของแบรนด์อีกต่อไปอย่างถาวร ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่ทางองค์กร Humane Society International บอกว่าเป็นกลยุทธ์ที่มีอิทธิพล และเป็นการเปลี่ยนเกมในวงการแฟชั่นครั้งใหญ่เลยทีเดียว ซึ่งแบรนด์อื่น ๆ รวมไปถึง Yves Saint Laurent, Alexander McQueen และ Balenciaga ก็เจริญรอยตาม ทยอยเลิกใช้ขนสัตว์ในต้นปี 2021 ที่ผ่านมา
ยิ่งไปกว่านั้นห้างดังในอเมริกาอย่าง Macy’s และ Bloomingdale’s ยังเริ่มมีการเคลื่อนไหวในการแบนสินค้าที่มีส่วนประกอบที่ทำมาจากขนสัตว์ โดยไม่อนุญาตให้มีมาวางขายในห้างของพวกเขาเป็นอันขาด นอกจากนั้นแล้วทาง London Fashion Week และ Elle magazine เอง ก็มีการเคลื่อนไหวเช่นกัน โดยพวกเขาได้ทำการแบนไอเทมแฟชั่นและสินค้าต่าง ๆ ที่มีส่วนประกอบของขนสัตว์ไม่ให้ขึ้นโชว์บนรันเวย์ และยังไม่ให้เผยแพร่ในสื่อต่าง ๆ ของพวกเขาอีกด้วย
เราคงต้องคอยติดตามและจับตาดูกันต่อไปว่า แบรนด์ต่าง ๆ จะมีการปรับตัวหรือเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหน และจะมีอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจ เกิดขึ้นในวงการแฟชั่นในอนาคตข้างหน้า
เป็นยังไงกันบ้างคะทุกคนกับข่าวใหญ่ของแบรนด์ โดลเช่ แอนด์ กาบบาน่า ในวงการแฟชั่นที่เรานำมาอัปเดตให้ทุกคนได้ทราบกันในวันนี้ หวังว่าทุกคนจะได้รับทั้งข่าวสาร ความรู้ และสาระความบันเทิงไม่มากก็น้อยนะคะ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากค่ะ เพราะการใช้ขนสัตว์นั้น นอกจากจะทรมานสัตว์ที่เราไปเอาขนของเค้ามาทำเสื้อผ้า ทำสินค้าต่าง ๆ แล้วนั้น อุตสาหกรรมฟาร์มขนสัตว์ยังทำลายสิ่งแวดล้อม และระบบนิเวศน์อย่างร้ายแรงอีกด้วย ในเมื่อปัจจุบันเรามีเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมาย การที่จะผลิตขนเทียมขึ้นมาแทนที่ น่าจะไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป เราน่าจะได้เห็นวงการแฟชั่นเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีอย่างยั่งยืน ในอนาคตกันอย่างแน่นอนค่ะ อย่าลืมติดตามว่าทาง Inzpy จะนำบทความที่น่าสนใจแบบไหนมาฝากทุกคนกันอีก ห้ามพลาดเลยนะคะ!