Avenged Sevenfold วงฮาร์ดร็อค เชื้อสายอเมริกัน เป็นอีกหนึ่งวงที่มีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง มาเล่นที่ประเทศไทยก็บ่อยครั้ง และถูกยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะวงดนตรีที่มีคาแรคเตอร์ที่โดดเด่น และทำดนตรีออกมาได้เยี่ยม ทั้งเพลงช้า เพลงเร็ว ซึ่งทำให้พวกเขามีเพลงฮิตมากมาย
โดย 1 ในอัลบั้มที่ดีที่ของพวกเขามีชื่อว่า Avenged Sevenfold ตามชื่อวง โดยมีชื่อเล่นที่คนไทยเรียกกันว่า อัลบั้มปกขาว ซึ่งอัลบั้มนี้ก็มีเพลงฮิต และติดหูเกือบทั้งอัลบั้ม และเป็นอัลบั้มสุดท้ายของ The Rev มือกลองคนเก่งของวง ก่อนที่จะเสียชีวิตด้วย
Avenged Sevenfold กับ อับดับ 4 ในชาร์ตบิลบอร์ด 200
อัลบั้ม “ล้างแค้นเจ็ดชั่วโคตร” นี้ถูกวงจำหน่ายเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ปี ค.ศ. 2007 ซึ่งได้ถูกเลื่นอมา 2 สัปดาห์จากกำหนดการดั้งเดิม เพื่อที่จะใส่โบนัสแทร็ค รวมไปถึงเบื้องหลัง MV เพลง A Litle Peace Of Heaven เข้าไปเพื่อให้ตัวอัลบั้มสมบูรณ์แบบที่สุด
สำหรับอัลบั้ม อเวนเจด เซเว่นฟอร์ด ได้ทะยานขึ้นไปสู่อันดับ 4 ของชาร์ตบิลบอร์ด 200 หรือ ชาร์ตอับดับอัลบั้มที่มียอดขายสูงสุด 200 อันดับของนิตยสาร Billboard ในสหรัฐอเมริกา
และด้วยความอัลบั้มนี้ ถูกจำหน่ายในรูปแบบของแผ่นเสียงไวนิลด้วย พวกเขาจึงได้รางวัลจาก RIAA หรือ สมาคมผู้ประกอบกิจการเพลงของสหรัฐอเมริกา (The Record Industry Association Of America)
เท่านั้นยังไม่พอ อัลบั้มชุดที่ 4 ของพวกเขายังชนะ Kerrang! Award ในสาขา อัลบั้มยอดเยี่ยม รวมทั้งยังถูกจัดให้เป็น “666 อัลบั้มที่ควรฟังก่อนตาย” จาก Kerrang! สำหรับอัลบั้มนี้ยอดจำหน่ายกว่า 960,161 ในอเมริกา
ที่นี้เรามาทำความรู้จักกับเพลงในอัลบั้ม Avenged Sevenfold กันดีกว่า ว่ามีเพลงอะไรบ้าง แล้วมันดีแค่ไหนกัน
Critical Acclaim
บทเพลงที่เริ่มด้วยเสียงบรรเลงสั้น ตามมาด้วยริฟท์กีต้าร์สุดโหยหวนตามสไตล์ของวง แล้วต่อกันที่ เสียงว้ากของ M.Shadow กลองรัวมันส์ ๆ เรียกว่าเปิดอัลบั้มมาได้ทรงพลังเหลือล้น ไหนจะมีการแรฟ ที่เหมือนจะบ่น ๆ (ฮา) ของ ชาโดวอีก
แต่ทีเด็ดของเพลงนี้คือท่อนฮุคที่ Jamie “The Rev” O’Sullivan ขับร้องเอง แถมท่อนพรีฮุคยังเป็นการปรสานเสียงของ Synyster gate และ Zacky Vengeance มือกีต้าร์ของวงอีกต่างหาก
Almost Easy
เพลงนี้คือไม่ต้องคิดออะไรมากเลยแค่ ริฟท์กีต้าร์ขึ้นมาก็บ่งบอกถึงความเป็น A7X แล้ว แทบจะเป็นลายเซ็นของ ซินนิสเตอร์เกต พร้อมด้วยกระเดื่องคู่จาก เดอะ เรฟ ที่ฟังแล้วบันเทิงชนิดที่ไม่ขากระดิก มีตบกันบ้างล่ะ เรียกว่าเป็นเพลงที่ “โคตรมันส์” แล้วเสียงของ ชาโดว ก็คือดุดัน ร้องเต็มที่ แม้จะไม่ได้มีการว้ากเลยก็ตาม
ขยับมาถึงท่อน solo เพลิดเพลินบันเทิงใจสำหรับคนที่สไตล์รูดสายยาว ๆ เพราะซินบรรเลงไว้เด๋วโหยหวนหอน (โบร๋วว) ไม่ใช่! ซิน โซโล่ ได้เท่มากครับ ฟังแล้วรู้สึกถึงความเร้า อยากกระโดด แบบไม่ต้องถึงกับกระแดกกันในวง mosh pit ส่วนเนื้อเพลง แม้จะเป็นเพลงเร็วจี๋ แต่เนื้องเพลงมันคือการพยายามง้อสาว จากความผิดที่เราเคยก่อไว้ แต่ตัวผู้หญิงก็ผิดเหมือนกันแหละ!
เรียกว่า ง้อแบบมีอีโก้เล็ก ๆ
Scream
เป็นเพลงที่มีริฟท์ และการลิทึ่มที่ติดหู และดุดัน ตลอดทั้งเพลง ส่วนเสียงร้องของ ชาโดว เพลงนี้จะใช้เสียงใหญ่ ๆ ในท่อน Verse ต่าง ๆ ก่อนที่จะมมาร้องแบบคลีนมาขึ้นในท่อนพรีฮุค จากนั้นเมื่อเข้าท่อนฮุคจะเป็นการร้องประสานกันของ 2 มือกีต้าร์ แล้วเสริมขึ้นมาด้วยเสียงสำรอกเล็ก ๆ (ไม่ถึงกับว้าก) ของ เอ็ม.ชาโดว เรียกว่ามันฟังดูลงตัวมาก
มาโซโล่ ที่เพลงนี้จะมาเนิบ ๆ เรื่อย ๆ แต่บาดหู คือจากทรงแล้ว ซินนิสเตอร์เกต น่าจะมี slash เป็นไอดอลแหละ เพราะสำเนียงมันบาดเหมือนกันเหลือเกิน
Afterlife
เพลงนี้ขึ้นมาถึงก็ปั่นเมโลดี้กันยับเลย เรียกว่าเปิดกันมาด้วยไลน์ประสานสวย ๆ จากคู่กีต้าร์มือระเบิดคู่เอกของวงการ เสียงร้อง และทำนองที่ค่อนข้างจะมีเอกลักษณ์ แถมด้วยช่วงพรีฮุค ที่การส่งกลองของ เดอะ เรฟ นะออกแบบมาได้ติดหูมากเพลงหนึ่งเลย
โดยเนื้อหาของเพลง (จากที่ผมเข้าใจและตีความนะ) น่าจะหมายถึง ชีวิตกลังการต่างงานที่เหมือนตกนรกทั้งเป็น และตูข้าขอหนีออกไปจากตรงนี้เถอะ นี่ไม่ใช่ชีวิตของฉัน โปรดเธอจงเข้าใจนะ (อิอิ)
สำหรับท่อนโซโล่ เพลงนี้แน่นอน ในเมื่ออินโทรปั่นมาขนาดนี้ มีหรอโซโล่จะไม่ปั่น เรียกว่า เป็นท่อนที่ชวนให้เหล่ามือกีต้าร์ทั้งหลายได้มาท้าทายความสามารถกัน แล้วใครว่า ซิน จะเล่นแต่สำเนียงบาดหู ปั่น ๆ มันส์ ๆ แบบนี้ก็มีให้เห็น afterlife จัดว่าเป็นเพลงเอกของวงใน album นี้เลย ด้วยยอดวิวกว่า 110 ล้านครั้งบน ยูทูป
Gunslinger
อีกหนึ่งเพลงที่กลมกล่อมดีเหลือเกินของ a7x แม้ทางดนตรีจะมีหักมุมในช่วงกลางเพลง เพราะเริ่มต้นขึ้นมากับ การเล่นกีต้าร์ Acoutics ของ แซ็คกี้ แล้วทำนองกับการร้องค่อนไปแนว บัลลาร์ด ไอ้เราก็คิดว่า อ่อ เพลงบัลลาร์ด ประจำอัลบั้มก็คงจะเป็นเพลงนี้แหละ แต่ที่ไหนได้…
ไลน์กีต้าร์ที่เปลี่ยนมาเป็น Power Chord เสียงสำรอกของ ชาโดว เติมด้วยเรฟกีต้าร์และการลิทึ่มแบบดุ ๆ แล้วมาพีคเอาที่ท่อนฮุค ด้วยเนื้อร้องหวาน ๆ คิดถึงเธอจังที่รัก ฉันกลับมาแล้ว ก่อนส่งเข้าสู่ท่อนที่เรียกว่า Bridge (ท่อนแยกของเพลง) ที่ฟังแล้วมันช่างทรมาน ซึ่งเข้ากับเนื้อเพลงในท่อนนี้ที่บ่งบอกถึงการฝ่าฟันอุปสรรคกลบัมาหาคนที่รัก
นำไปสู่ท่อน solo หวาน ๆ บาด ๆ เอกลักษณ์ของ synyster gate
Unbound (The Wild Ride)
เพลงนี้ไม่ค่อยโดงดังเท่าไหร่ ในอัลบั้มนี้ ซึ่งเป็นเพงที่มีทำนอง และลักษณะที่แปลกหูออกไปจาก แนวเพลงในอัลบั้มนี้ของ A7X แต่ในส่วนของท่อนฮุค และริฟท์กีต้ารืในท่อนนี้ ยังมีกลิ่นของความเป็น Avenged อยู่บ้าง ในส่วนของท่อน Verse ค่อนข้าง จะเรียบง่าย แต่ก็มี กรเดื่องคู่ของ The Rev ที่ดูจะปล่อยออกมาด้วยความเพลินเท้าเป็นหลัก
Brompton Cocktail
เป็นเพลงที่เน้นไปทางเสียงกีต้าร์ลิทึ่มแบบดุ ๆ มากกว่าก็เล่นเมโลดี้แบบเพลงอื่น ๆ แต่ยังคงความสนุกจากกระเดื่องคู่ แล้วลูกริฟท์ที่มีมากเป็นช่วง ๆ สั้น ๆ ซึ่งก็ไม่ได้โดนอะไรมาก แต่เสียงของ M.Shadow ยังคงเป็นเอกลักษณ์เหมือนเดิม เรียกว่าเป็นเพลงที่ทำออกมาเอาสนุก ไม่ได้คาดหวังอะไรมากกว่า
Lost
อีกหนึ่งเพลงที่เรียบเรียงแบบง่าย ๆ ไม่คิดอะไรมาก เน้นมันส์ เน้นสนุกเป็นหลัก เป้นเพลงประกอบอัลบั้ม ที่เบรคอารมณ์ความพีคเอาไว้ ก่อนไปเจออีก 2 เพลงที่กำลังจะพูดถึง
A Little Peace of heaven
เพลงนี้เป็นเพลงโปรดของผมในอัลบั้มนี้เลย เป็นเพลงที่ทำออกมาได้โคตรดี เริ่มต้นจากการบรรเลงเครื่องสายและเครื่องดนตรีคลาสสิคสั้น ๆ ก่อนจะผสมผสานไปกับกลองและริฟท์เดือด ๆ ที่บาดหูกันตลอดเพลง ส่วนเสียงร้องเพลงนี้ M.Shadow คือใส่อารมณ์มาก ๆ ผมมองว่า ชาโดว เน้นกับการร้องเพลงนี้มาก มีขึ้นมีลงตามอารมณ์เพลง ที่ผสมปนเป หลากหลาย
ท่อนฮุค มาอีกแล้วสำหรับ The Rev ที่ร้องเอง แต่ขอบอกเลยว่า โดดเด่น และติดหูมาก ๆ จังหวะของเพลง ก็เปลี่ยนไป เปลี่ยนมา ทั้งเสียงกีตาร์ เสียงเครื่องคลาสสิค ที่คละคลุ้ง กระชากอารมณ์ไปมาก มีจังหวะโจ๊ะ ๆ ชวนโยก ส่วนท่อน Brigde ก็ทำออกมาเนิบ ๆ คือเพลงนี้เหมือนเรานิทาน ที่มีขึ้น มีลง สามารถเอาไปทำละครเวทีแบบสั้น ๆ ยังได้
ส่วน เอมวีเพลงนี้ ขอนำเสนอ ทำออกมาเป็น อนิเมชั่น 2D ที่สวยงาม และเรื่องแบบ ชายดรคจิต ฆ่าเมียตัวเอง กินเลือด กินเนื้อ ก่อนจะถูกเมียตัวเองคืนชีพมาไล่ฆ่า แล้วใช้ชีวิตอยู่บนโลกหลังความตายด้วยกัน
อีกจุดเด่นของเพลงที่ยาวกว่า 8 นาทีเพลงนี้ คือเสียงร้องประสานแบบแบทเทิลของ M.Shadow และ Juliette Commagere เรียกว่าได้อารมณ์สุด ๆ
Dear God
มาถึงอีกเพลงฮิตของวง เรียกเป็นเอกลัษณ์ของวงที่ต้องมีในทุกอัลบั้ม คือเพลงแนวบัลลาร์ด ที่ขึ้นมาด้วยเสียงเครื่องสายคลาสสิค ตีคอร์ดเรียบง่ายด้วยกีต้าร์โปร่ง เสียงร้องแบบบัลลาดที่ ชาโดวมักจะทำได้ดี และเข้าถึงอารมณ์เสมอ
เพลงนี้มีความหมายง่าย ๆ คือ การที่ต้องเลิกรากับคนรัก ซึ่งเรายังอาลัยอาวรณ์อยู่ และฝากพระเจ้าให้ช่วยคุ้มครองเธอด้วย ในวันที่ผมไม่สามารถอยู่ดูแลเธอได้อีกแล้ว ซึ้งจับใจ.. แถมท่อน Bridge ของเพลงยังร้องออกมาได้เศร้ามาก ๆ อีก
จบไปแล้วครับกับอัลบั้ม Avenged Sevenfold หรือ อัลบั้มปกขาว หนึ่งในอัลบั้มที่ดีที่สุดตลอดของ A7X ใครที่ยังไม่เคยฟัง ไปหาฟังซะครับ ดีทั้งอัลบั้มแบบที่ผมบอกเลยจริง ๆ