ป๋า Liam กลับมาอีกครั้งในภาพยนตร์ The Marksman
The Marksman ภาพยนตร์แนวแอ็คชั่น ผญจภัย (เค้าบอกมาแบบนั้นนะ) กับเรื่องราวของ จิม แฮนสัน อดีตนาวิกโยธิน ที่หลังจากเกษียณเขาก็กลับมาใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ในแทบชายแดนรัฐแอริโซนา แต่ด้วยปัญหาการเงินที่รุมเร้า ทำให้จิมต้องเข้าไปพัวพันกับแก็งค์พ่อค้ายาจากเม็กซิโก
ด้วยลักษณะของตัวละคร จิม แฮนสัน เป็นสิ่งที่ทำให้คนดูเดาได้ไม่ยากนั้นว่าเค้าจะทำอย่างไร เมื่อมีคนที่กำลังเดือดร้อนเข้ามาขอความช่วยเหลือ อย่างการที่เจอโรซ่า หญิงสาวผู้พาลูกชาย มิเกล หนีจากแก็งค์ค้ายา โดยการลักลอบเข้าประเทศอเมริกาจากช่องทางธรรมชาติบริเวณชายแดน ทำให้ได้เจอกับจิม
โรซ่าได้ฝากฝังให้จิมพาลูกชายเธอไปส่งให้ญาติที่ อิลินอย ชิคคาโก บวกกับการที่จิมต้องการจะใช้เงิน เค้าจึงพามิเกล หนีจากการถูกไล่ลาจากแก็งค์ค้ายาเพื่อไปชิคคาโก แต่นั้นแหละ ระหว่างที่เต็มไปด้วยอุปสรรค ทำให้จิมได้แสดงฝีไม้ลายมือให้การจัดการคนร้าย ถึงอาจจะไม่ใช่แบบบู๊ล้างผลาญ เดือดดาล (เพื่อความสมจริงของอายุตัวละครด้วยส่วนหนึ่ง) แต่ลุงจิมก็ยังได้โชว์ฝีมือในแบบฉบับของนาวิกโยธินเก่า ไม่ว่าจะเรื่องทักษะการยิงปืน หรือความช่างสังเกต
ภาพยนตร์ที่สะท้อนปัญหาในด้านต่าง ๆ ของสังคมในอเมริกา
ส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ The Marksman ได้สะท้อนให้ผู้ชมได้รับรู้ถึงปัญหาเชิงโครงสร้าง แน่นอนว่าประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นประเทศมหาอำนาจโลกที่ 1 แต่บนความเป็นจริง ไม่มีสิ่งไหนจะสมบูรณ์แบบได้ 100% ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นำปัญหาที่เกิดขึ้นจริงมาใช้ตีแผ่ โอเค มันอาจจะไม่ได้ถึงขั้นเรียกว่าการสะท้อนและแสดงออกถึงเรื่องราวของปัญหาอย่างชัดเจนมากนัก แต่มันก็แสดงให้เห็นว่าเรื่องพวกนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาในเรื่องอื่น ๆ ได้
ยาเสพติด : อีกหนึ่งปัญหาสำคัญ ถึงในเรื่องปัญหานี้อาจจะไม่ได้เกิดในอเมริกา แต่ก็ถือเป็นปัญหาที่ส่งผลให้เกิดเป็นปัญหาอื่น ๆ ตามมาได้
การลักลอบหนีเข้าเมือง : ในเรื่องจะเห็นได้ว่าก่อนที่โรซ่าและมิเกลจะลักลอบหนีเข้าสหรัฐตามช่องทางธรรมชาตินั้น ยังมีคนอื่น ๆ ที่ทำแบบนี้มาก่อนเรื่อย ๆ และจิมเองก็จะคอยรายงานไปที่เจ้าหน้าที่ที่ดูแลการลักลอบเข้าเมืองอยู่ และไม่ใช่แค่การลักลอบเข้าเฉพาะ “คน” เท่านั้น แต่รวมไปถึงการขนยา และอาวุธด้วย ซึ่งในหนังจะมีฉากที่จิมพูดว่า “มันจะไม่มีปัญหาอะไร ถ้ารัฐบาลจัดการแก้ไขปัญหาให้เรียบร้อย”
ชีวิตหลังการเกษียณ : “เราทำงานทั้งชีวิต รับใช้ประเทศชาติ จ่ายภาษี แต่พอแก่กระโถนฉี่สักอันยังไม่มี” ประโยคง่าย ๆ ผ่านตัวละครจิม แสดงให้เห็นถึงปัญหาเชิงโครงสร้างที่บางครั้งคนหลาย ๆ กลุ่มก็ถูกละเลย จากประเทศของตัวเอง
การรับสินบนของเจ้าหน้าที่รัฐ : อีกหนึ่งปัญหาที่หนังเสนอด้านของการทำผิดและละเลยต่อหน้าที่ เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองของเจ้าหน้าที่รัฐ
ปัญหาความรุนแรง : ปัญหาที่อาจจะไม่ได้นำเสนอให้เห็นอย่างชัดเจนนัก แต่ถ้าคุณได้ดูไปจนถึงท้ายเรื่อง คุณจะรับรู้เรื่องนี้ได้จากตัวละครโมริชิโอ เกอเรโร่ ที่ว่า “ฉันก็เคยเป็นเหมือนไอ้เด็กนี่ โลกสอนให้เรารู้ว่าทำยังไงถึงจะรอด”
“แกคิดว่าฉันมีสิทธิเลือกหรอ” ประโยคที่ถ้าไม่ตีความอะไรเลย มันก็อาจจะเป็นแค่ประโยคแก้ตัวของคนที่ทำผิด แต่ถ้าได้ลองตีความให้ลึกลงไป พร้อมกับพฤติกรรมของตัวละคร คุณจะเข้าใจเลยว่าความรุนแรงที่ต่อกันเป็นลูกโซ่มันหมายถึงอะไร
นักแสดงมากฝีมือ จาก The Marksman
Liam Neeson / เลียม นีสัน รับบทเป็น จิม แฮนสัน : อดีตนาวิกโยธิน ที่มาใช้ชีวิตหลังเกีษยณแบบเรียบง่ายที่แถบเขตข้ามแดนระหว่างสหัฐอเมริกาและเม็กซิโก แต่ด้วยภาระทางการเงินหลังจากการจ่ายค่ารักษาตัวของภรรยา ทำให้เค้าต้องมาพัวพันกับปัญหาของแก็งค์ค้ายาเสพติดจากเม็กซิโก
Jacob Perez / เจค็อบ เปเรซ รับบทเป็น มิเกล : เด็กหนุ่มผู้ต้องมาพัวพันกับปัญหาที่ตัวเองไม่ได้ก่อ จนต้องสูญเสียทั้งแม่และลุงของตัวเองไป แถมยังถูกตามเอาชีวิตจากแก็งค์ค้ายาที่ลุงตัวเองไปก่อปัญหาไว้ ทำให้ได้พบกับ จิม แฮนสัน ที่ยื่นมือเข้ามาให้โอกาสเค้าในการมีชีวิตอีกครั้ง
Katheryn Winnick / แคธริน วินนิค รับบทเป็น ซาร่าห์ : ลูกสาวของจิม แฮสัน ตำรวจสังกัดกรมศุลกากรและปกป้องพรมแดนแอริโซนา
Juan Pablo Raba / ฮวน พาโบล ราบา รับบทเป็น โมริชิโอ เกอเรโร่ : หัวหน้าแก็งค์ค้ายาสุดโหด ที่ไล่ตามมิเกล ตั้งแต่เม็กซิโกยันชิคคาโกเลยทีเดียว
ให้คะแนนความน่าดูจาก Inzpy
ถ้าจะให้พูดตามจริงเลยสิ่งเดียวที่ดึงดูดให้เราเข้าไปดูหนังเรื่องนี้ คงจะเป็นป๋าเลียม นี่แหละ เพราะด้วยหนังแอ็คชั่น ในสไตล์เดิมที่พอจะเดาอะไร ๆ ได้หลายอย่าง บวกกับความไม่เมคเซนส์บางอย่างที่ทำให้มีอารมณ์ เอ๊ะ อะไรวะ ในตอนดูอยู่บ้าง แต่ด้วยความป๋าเลียม เค้าเอาอยู่ในทุกการแสดงอยู่แล้ว ก็ถือว่าเป็นเดอะแบกเหมือนกันนะ
เพราะตัวละครตัวอื่น ๆ มาแบบแวบไปแวบมา ไม่ได้มีน้ำหนักต่อเรื่องเท่าไหร่ เอาเป็นว่าเป็นหนังที่ดูแบบชิล ๆ เรื่อย ๆ ได้โดยที่ไม่ถึงขั้นต้องลุ้นตัวโก่ง แต่ก็ไม่ได้น่าเบื่อถึงขั้นนั่งหลับนะ เราให้ไว้ที่ 7/10 ละกัน แต่ ! อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ไม่จำเป็นต้องเชื่อเราทั้งหมด เราขอให้คุณไปสัมผัสความมีเสน่ห์ของหนังสไตล์นี้ด้วยตัวคุณเองดีกว่า สามารถดู The Marksman ผ่านสตรีมมิ่งอย่าง Netflix ได้เลย ใครเห็นตรงกับเรา หรือมีความเห็นที่แตกต่างยังไงก็มาพูดคุยกันได้นะ 🙂
Men Of The Year 2021 รวมภาพของผู้ชายแห่งปีจาก GQ KOREA คลิกเลย
