เรียกว่าอารมณ์ขึ้นสุดลงสุดจริง ๆ ครับสำหรับเกมสุดท้ายของ พรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาล 2021/2022 ที่บอกเลยว่ามันส์แบบอภิมหามันส์ เกินคำบรรยาย และก็ต้องขอแสดงความยินดีกับ Manchester City ด้วยครับที่สามารถก้าวสู่แชมป์ได้อีกสมัย บอกเลยว่ามันเหมือนหนังที่หักมุมแล้ว หักมุมอีกเลยครับ
พรีเมียร์ลีก เกมสุดท้ายความบันเทิงที่กระชากทุกอารมณ์ออกมา
ก่อนอื่นต้องขออิบายคร่าว ๆ ก่อนสำหรับใครที่อาจจะไม่ทราบสถานการณ์ก่อนเกมสุดท้าย คือแมนเชสเตอร์ ซิตี้นั้นขับเคี่ยวกับลิเวอร์พูลอยู่ครับ โดยคะแนนนั้นลิเวอร์พูลตามอยู่ 1 คะแนน พวกเขาต้องแช่งให้ ซิตี้ แพ้หรือเสมอ และพวกเขาชนะพวกเขาถึงจะเป็นแชมป์ แต่หาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะทุกอย่างจะจบลงทันที
และสิ่งที่ตลกและวนบันเทิงคือ เกมสุดท้ายของแมนฯ ซิตี้ ต้องเจอกับ แอสตัน วิลล่า ที่มีสตีเว่น จเอร์ราร์ด ตำนานของลิเวอร์พูลคุมทีม นอกจากนี้ยังมี เฟลิเป้ คูตินโญ่ อดีตขวัญใจของหงส์แดงลงสนามอีก คือหากคิดกันเล่น ๆ แบบพล็อตหนัง มันเหมือนกับคนเขียนบทขีดเขียนออกมาเป็นแบบนี้
ฮีโร่ของทีมที่ไม่เคยได้แชมป์ร่วมกับทีม ต้องมาสู้เต็มที่อีกครั้งเพื่อส่งให้ทีมที่เขารัก แฟนบอลที่เขารักได้เฉลิมฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีก เช่นเดียวกับ เฟลิเป้ คูตินโญ่ ที่มีสตอรี่ว่า “ทรยศ” ลิเวอร์พูล ซึ่งหากเขาพาทีมชนะได้ แฟน ๆ ประกาศว่าจะยกโทษให้กับเรื่องราวในอดีต
หากเป้นหนังสักเรื่องหนึ่ง มันคงจะโคตรสนุก และโคตรจะน่าติดตามไปแล้ว คงต้องมีการฉายภาพแฟลชแบล็คกลับไปถึงอดีตของสองตัวละครสำคัญอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ เฟลิเป้ คูตินโญ่ ซึ่งแน่นอนว่าตัดกลับมาจากแฟลชแบล็ค มันจะต้องเป็นหน้าของ โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า เฮดโค้ชของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ต้องรับบทตัวร้ายของหนังเรื่องนี้
และจากสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นเหมือนหนังชีวิตเลยครับ ทุกทีมในพรีเมียร์ลีก ลงสนามพร้อมกันเวลา 22.00 น. แต่ลิเวอรืพูลเขี่ยลูกไปได้ 2 นาที พวกเขาโดนนำไปก่อน 1-0 เรียกว่า ชาวเมืองแมนเชสเตอร์ ดีใจกันแบบยกใหญ่ เพราะเริ่มมาคู่แข่งก็เสียเปรียบเสียแล้ว
กลับกันฝั่งของตัวร้ายอย่างซิตี้ ก็ครองบอลบุกใส่แอสตัน วิลล่า แต่ประเด้นคือยังคงไม่สามารถที่จะทำอะไรไปมากกว่านี้ได้ จนกระทั่งเหตุการณ์พลิกผันก็มาเกิดขึ้น เมื่อลิเวอร์พูลนั้นตามตีเสมอได้สำเร็จ ส่วนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับถูกขึ้นนำซะอย่างนั้น เรียกว่าสถานการ์อย่างลำบากได้เกิดขึ้นจนได้
เพราะตรงจุดนี้เองทุกอย่างมันจะเข้าทางลิเวอร์ที่ขอแค่ประตูเดียวเพื่อขึ้นนำ และปิดเกม พวกเขาจะกลายเป็นแชมป์ และสตีเว่น เจอร์ราร์ด ก็จะกลายเป็นพระเอก และเฟลิเป้ คูตินโญ่ ก็จะรับบทผู้ช่วยพระเอก เพราะเจ้าตัวยิงประตูให้ แอสตัน วิลล่า นำ 2-0 เรียกว่าสองตัวละครสำคัญได้ทำหน้ที่ของตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบ
ยิ่งไปกว่านั้นลิเวอร์พูลก้ทำตามจ็อบของตัวเองด้วยการขึ้นนำ วูล์ฟแทมตัน ได้สำเร็จ ทุกอย่างมันดูง่าย และเข้าทางพระเอกที่ในตอนจบอะไร ๆ มักจะเป็นใจ แต่หนังที่ดีมันไม่มีอะไรง่าย และหนังทั้งเรื่องมันจะมีจุดพีคของมัน
แนเชสเตอร์ ซิตี้ ตัวร้ายที่ตกอยู่สถานการณ์ลำบาก อยู่ ๆ ก็เป็นเหมือนฆาตกรบ้าเลือดที่ใช้เวลาเพียง 5 นาที คือช่วงระหว่างนาทีที่ 75 จนถึงนาที่ 80 ของการแข่งขัน พวกเขาไล่ขย่ม ไล่กดดัน และฆ่าแอสตัน วิลล่าให้ตายอย่างสุดขีดคลั่งโดยการยิง 3 ประตูรวด พลิกแซงขึ้นมาชนิดที่ว่า กระชากอารมณ์คนดูทั้งสองสนามแบบกลับตาลปัตรไปทั้งหมด
ทีมหนึ่งทีมสู้เต็มที่ ทำในสิ่งที่ต้องจนสำเร็จ และผู้ช่วยของพวกเขาก้ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตัวร้ายกำลังจะตาย แต่ว่ามันตายไม่สนิท ด้วยสองประตูของ อิลคาย กุนโดกัน และ หนึ่งประตูจาก โรดรี้ ทำให้ตัวร้ายอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พลิกกลับมาจากกำลังจะตาย มาเป็นผู้ชนะและคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปครองได้อย่างหน้าตาเฉย
พวกเขาดับฝันหวานของแฟนลิเวอร์พูล พวกเขาทำลายพล็อตทุกอย่างที่ลิเวอร์พูลวาดฝันขึ้นมาในเวลาเพียง 5 นาที พวกเขาหยุดการคว้า 4 แชมป์ พวกเขาหยุดการเป็นฮีโร่อีกครั้งของเจอร์ราร์ด และพวกเขาหยุดการไถ่บาปของ เฟลิเป้ คูตินโญ่ ด้วยความพยายาม ความทุ่มเท และความนิ่งของพวกเขา
และนั่นมันทำให้บมสรุปของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือแชมป์พรีเมียร์ลีก ส่วนลิเวอร์พูลต้องเป็นพระรองด้วยคะแนนห่างเพียง 1 คะแนน ส่วนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กองแช่งคนสำคัญพ่ายแพ้ปิดฤดูกาลที่ย่ำแย่ของตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบ
นี่คือ พรีเมียร์ลีก ที่สนุกที่สุดฤดูกาลหนึ่งครับ และเกมสุดท้ายของ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้มันระทึกถึงใจเหมือนหนังหักมุมดี ๆ ระดับออสการ์เลยล่ะ เพราะมีทั้งความหวัง ความฝัน รอยยิ้ม ที่พังทลายและแปรเปลี่ยนเป็นน้ำตาเพราะความเยี่ยมของอีกทีม
