The 28th Dream Concert Thailand: Virtual Concert ถ่ายทอดสดคอนเสิร์ตออนไลน์มหกรรมดนตรีรวมทัพไอดอล K-POP แนวหน้าระดับโลก และรุกกี้น้องใหม่ไฟแรงกว่า 25 วง ที่แฟนชาวไทยนับวันรออย่างใจจดใจจ่อ เพิ่งผ่านไปสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อวันเสาร์ที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา
Dream Concert Thailand สุดจัดเต็ม
เรียกว่าจัดหนักจัดเต็มกับ Line Up 25 กลุ่มศิลปินสุดปัง นำทีมโดย Red Velvet, Victon, NCT Dream, Oh My Girl, CIX, Laboum, AB6IX, STAYC, Golden Child, WEi, IVE, Lee Mu Jin, Alice, Dreamcatcher, NMIXX, Kep1er, Pentagon, Cravity, EPEX, Kingdom, Lightsum, Drippin, Weeekly, Trendz และ Younite
ถึงแม้ว่า แฟน ๆ ชาวไทยจะไม่ได้ชมแบบเกาะติดขอบเวที แต่ก็มีคอนเสิร์ตในรูปแบบออนไลน์ให้รับชมแบบถูกลิขสิทธิ์เพื่อสนับสนุนศิลปินที่เรารักได้เช่นกัน
โดย บริษัท ชินเอ เซอร์วิส จำกัด จับมือกับ บริษัท มิลเลนเนี่ยม บราเธอร์ส จำกัด สร้างปรากฏการณ์คอนเสิร์ตสุดยิ่งใหญ่ในโลกออนไลน์ถ่ายทอดสด Virtual Concert ส่งตรงจากเกาหลี พร้อมมีซับภาษาไทยให้แฟน ๆ ได้รับชมแบบเสมือนจริงที่คมชัดทั้งภาพและเสียงบนแพลตฟอร์มเว็บไซต์ ทำให้อรรถรสของการรับชมคอนเสิร์ตออนไลน์สนุกได้ไม่แพ้กันกับคอนเสิร์ตจริง
งานนี้ เรียกเสียงฮือฮาตั้งแต่เริ่มเปิดขายบัตรออนไลน์ และวันที่มีกิจกรรมให้ร่วมสนุกผ่านช่องทาง Social Media ซึ่งแฟน ๆ ชาวไทยได้ดันแฮชแท็ก #DreamConcert2022TH จนติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 3 เรียกว่าได้รับความสนใจจากแฟนเพลง K-POP ชาวไทยอย่างอบอุ่น ซึ่งถือเป็นรูปแบบใหม่สำหรับวงการคอนเสิร์ตบ้านเราที่น่าสนใจเลยทีเดียว
สำหรับงานกิจกรรมที่จัดขึ้นที่โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย ชั้น 6 สยามพารากอน เมื่อวันเสาร์ที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา นอกจากจะเป็นการนำบรรยากาศคอนเสิร์ตสนุก ๆ กลับมาให้แฟน ๆ หายคิดถึงแล้ว ยังมีกิจกรรมให้ร่วมสนุก และร่วมลุ้นรับรางวัลสุดพิเศษมากมาย
มีการจัดบูธเขียนจดหมายถึงศิลปินที่ชื่นชอบสำหรับแฟนชาวไทยโดยเฉพาะ และทางทีมงานจะรวบรวมจัดส่งไปให้ศิลปินถึงประเทศเกาหลี พร้อมทั้งมีบูธสินค้าของเหล่าแฟนคลับที่คุ้นเคยมาร่วมสร้างสีสันบรรยากาศในงานอีกด้วย
ซึ่งในช่วงแถลงข่าวก่อนเริ่มคอนเสิร์ต คุณเกียรติภูมิ ธวัชชัยนันท์ Chief Technology Officer จาก บริษัท มิลเลนเนี่ยม บราเธอร์ส จำกัด และคุณธีรณัฏฐ์ วิภูมิตสิตสกุล Chief Operating Officer จาก บริษัท ชินเอ เซอร์วิส จำกัด ที่รับหน้าที่ในการจัดงานในครั้งนี้ ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ซักถามข้อสงสัย
โดยคุณเกียรติภูมิ ได้เล่าถึงความรู้สึกของการจัดงานในครั้งนี้ว่า “รู้สึกดีใจที่มีโอกาสได้นำประสบการณ์ทางดนตรีรูปแบบใหม่ ๆ มาให้แฟน ๆ ชาวไทยได้ร่วมชมพร้อมกันกับประเทศเกาหลี และอีกหลายประเทศทั่วโลก
เพราะหลังจากเกิดสถานการณ์โรคระบาด ต้องยอมรับว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากสำหรับพวกเราทุกคนทั้งศิลปิน แฟนคลับ หรือแม้กระทั่งผู้จัดและอีกหลายธุรกิจ ถึงแม้ตอนนี้ คนอาจจะออกมาใช้ชีวิตกันตามปกติแล้ว แต่ส่วนตัวยังเชื่อว่า Virtual คอนเสิร์ตออนไลน์รูปแบบนี้ สามารถต่อยอดเป็น New Business ของหลาย ๆ อุตสาหกรรมได้
ไม่ใช่แค่กับวงการเพลง แต่อาจจะได้ทั้งวงการบันเทิง งานแถลงข่าว หรือแม้กระทั่งการทำ Fan Meeting ให้สนุกยิ่งขึ้นด้วย Interactive ซึ่งเป็นสิ่งที่ Business จะต้องทดลอง เรียนรู้ และปรับตัวให้ทันในยุคนี้”
ด้านคุณธีรณัฏฐ์ วิภูมิตสิตสกุล จาก บริษัท ชินเอ เซอร์วิส จำกัด มีความเห็นว่า “งานนี้เป็นสิ่งท้าทายในฐานะที่บริษัทดูแลด้านการทำ Marketing ซึ่งโจทย์ คือจะทำอย่างไรให้คนมาซื้อบัตร หรือจะโปรโมทคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์อะไรแบบนี้มาก่อน ให้เขามีความต้องการซื้อบัตร เพราะคอนเสิร์ตครั้งนี้ไม่เหมือนกับที่เขาเคยดูแบบออฟไลน์
ซึ่งทางทีมได้มีการนำเครื่องมือ Social Media ต่าง ๆ เข้ามาช่วย เรียกได้ว่า ทีมทำงานกันแบบ Always-Online ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการโปรโมทอย่างเต็มรูปแบบ การทำ Content Marketing ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ การใช้ Social Listening Tools เพื่อช่วยดูแลตอบข้อซักถามของลูกค้าให้ทั่วถึง หรือแม้กระทั่งการจัดงานกิจกรรมในครั้งนี้
ทางทีมงานก็ตั้งใจจัดขึ้นเพื่อนำบรรยากาศสนุก ๆ ในคอนเสิร์ตกลับมาสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ผู้ร่วมงานรู้สึกสนุก และรู้สึกคุ้มค่ามากที่สุด โปรเจกต์นี้ จึงถือเป็นสิ่งใหม่ที่ค่อนข้างท้าทาย ซึ่งหากประสบความสำเร็จ ก็เชื่อว่า อุตสาหกรรมอื่นจะสามารถนำรูปแบบนี้ไปปรับใช้และพัฒนาต่อยอดได้ในอนาคต”
“พวกเราตื่นเต้นมากสำหรับการจัดงานนี้ การดูไลฟ์คอนเสิร์ตในยุค New Normal อาจจะไม่สามารถทดแทนบรรยากาศที่ได้ร่วมฟังและร่วมร้องเพลงแบบสด ๆ ในคอนเสิร์ตตามปกติได้ทั้งหมด แต่ทางผู้จัดและทีมงานตั้งใจทำงานนี้อย่างเต็มที่ เพื่อมอบประสบการณ์สดใหม่ในบรรยากาศที่สมจริงให้ได้มากที่สุดและสนุกที่สุด โดยหวังว่า การชมไลฟ์คอนเสิร์ตในครั้งนี้ จะเป็นความทรงจำที่ดีของแฟนเพลงเกาหลีชาวไทยตลอดไป” คุณเกียรติภูมิ เสริมปิดท้าย