เทรนด์ลาเต้เมคอัพยังไม่ทันหายไป Vanilla Girl Makeup ก็เข้ามาแทนที่ซะแล้ว ถ้าสาว ๆ คนไหนได้เล่น TikTok หรือ Instagram ตอนนี้ล่ะก็จะต้องได้เห็นวานิลลาเมคอัพ ผ่านตากันมาบ้าง ซึ่งเป็นลุคที่ดูไม่ยากใจความสำคัญมันอยู่ตรงการเลือกใช้สีนี่แหละ
วานิลลาเมคอัพ เน้นสีโทนนู้ดและเอิร์ธโทน การใช้โทนสีที่เรียบง่ายอบอุ่น บวกกับงานผิวที่บางเบาสบายผิวไม่ได้ต้องปกปิดให้เป๊ะอะไร เป็นอีกหนึ่งเมคอัพลุคที่เข้าได้กับวันสบาย ๆ หรือแม้กระทั่งวันที่เรายกให้เป็นวันพิเศษ ดูสะอาดตาไม่มากไปแต่ก็ใช่ว่าจะน้อยซะทีเดียว Point Makeup ของงานนี้อยู่ตรงการหาความพอดีและความเป็นกลางของสี ซึ่งสีของ Vanilla Girl Makeup ก็คือ สีขาว สีเบจ สีครีม หรือสีชมพูออกนู้ด ๆ ตุ่น ๆ เป็นโทนสีที่อบอุ่นนั่นเอง วันนี้ Inzpy จึงขอมาแนะนำทั้งเทคนิคและเมคอัพเพื่อให้การแต่ง วานิลลาเมคอัพ ของเพื่อน ๆ ไม่เป็นเรื่องที่ยุ่งยากซับซ้อนอีกต่อไปค่ะ
เริ่มแรกกันที่งานผิวก่อน วานิลลาเมคอัพ จะเน้นงานผิวที่มันวาว ผิวหน้าไม่แมตต์ รองพื้นที่อยากแนะนำจะเป็นรองพื้นที่ให้ความฉ่ำโกลว์ หรือเป็นพวกรองพื้นเนื้อเซรั่ม รองพื้นทินต์ ให้หน้าดูเรียบเนียนและผิวยังดูเป็นผิวอยู่ Hourglass Ambient Soft Glow Foundation รองพื้นสูตรโกลว์เกลี่ยง่ายให้ผิวสัมผัสที่เรียบเนียน ตัวนี้ความพิเศษของเค้าอยู่ที่ถึงจะดูบางเบาแต่สามาถเบลอรุขุมขนและช่วยปกปิดจุดด่างดำบนใบหน้าได้อย่างเรียบเนียนแถมติดทนตลอดทั้งวันอีกด้วย
สีของบรอนเซอร์ในลุค วานิลลาเมคอัพ จะเป็นสีน้ำกลางโทนอบอุ่นที่ไม่ติดแดง เพื่อให้หน้าดูเป็นธรรมชาติมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งบรอนเซอร์ที่เราอยากมาแนะนำวันนี้เป็นของ Rare Beauty Warm Wishes Effortless Bronzer Stick ที่เป็นยอดนิยมในหมู่ของสาวกบิวตี้สุด ๆ แถมหาซื้อไม่ยากมีจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่ร้านค้า Sephora และสามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้อีกด้วย
งานอายแชโดว์ไม่ต้องยุ่งยากอะไรเลยหาก ใช้สีอายแชโดว์สีน้ำตาลโทนเดิมหรือใครจะใช้บรอนเซอร์ตัวเดิมมาลงที่อายแชโดว์ก็ได้ ทาให้ทั่วเปลือกตา เติมสีชิมเมอร์สีมุกลงไปที่หัวตา หรือกลางเปลือกตาเพื่อให้เปลือกตาเล่นกับแสงเป็นประกายระยิบระยับสักหน่อยก็ถือว่าใช้ได้แล้ว Dior Mono Couleur Couture high-Color eyeshadow สี 6 อายแชโดว์เนื้อกึ่งครีม กึ่งพาวเดอร์ ให้ความติดทนยาวนานมอบดวงตาเหลือบชิมเมอร์ได้อย่างสวยงาม
หนีบขนตาปัดมาสคาร่าอย่างเบามือ แนะนำให้เลือกสูตรที่เพิ่มความงอนแทนที่จะเพิ่มความหนาของชั้นขนตา เพื่อให้ได้ลุคที่ธรรมชาติ น้อยแต่มากเรียบแต่โก้! โดยตัวที่เรานำมาแนะนำวันนี้เป็นของแบรนด์เกาหลีตัวดังที่ลิซ่าเคยใช้อย่าง Mude inspire Long curling Mascara สี brown มาสคาร่าสูตรกันน้ำ กันเหงื่อติดทนยาวนานไม่ไหลเป็นแพนด้าแน่นอน งัดขนตาให้งอนเด้งตลอดทั้งวัน ต้องล้างออกด้วย Mascara Cleansing โดยเฉพาะนะไม่งั้นน้องไม่ออก
บลัชออนสีที่ถูกในลุค วานิลลาเมคอัพ คือสีชมพูที่มีความอมส้มตุ่น ๆ โทนสีอบอุ่นจะช่วยทำให้ใบหน้าเราดูคลีนเป็นโทนเดียวกัน เฉดสีที่เราอยากแนะนำคือสี Dior Rouge Blush 100 เนื้อแมตต์ เสริมให้หน้าแก้มดูมีสีสันอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ความติดทนยาวนานสุด ๆ พร้อมเนื้อพาวเดอร์ที่เกลี่ยได้อย่างแนบเนียนสนิทไปกับผิว บวกกับไม่มีผงแป้ง Fall out
ลิปสติกที่แนะนำในลุค วานิลลาเมคอัพ ให้เป็นโทนสีเดียวกันกับบลัชออนเลย ชมพูนู้ด ๆ หรือชมพุตุ่น ๆ ที่ดูไม่เอะอะเกินไปซึ่งสีที่เราอยากแนะนำก็คือ Rouge Dior Forever สี 100 Forever Nude Pink ลิปเฉดสีชมพูนู้ด สีนู้ดที่ยังมีความตุ่นอยู่
เสริมความแวววาวให้กับริมฝีปากด้วยลิปกลอสปิดทับเพิ่มความฉ่ำและเติมความอวบอิ่มให้กับริมฝีปากด้วย Dior Addict Lip Glow Oil ลิปออยล์ที่จะปรับสีตามอุณหภูมิของแต่ละคนเพื่อให้ได้สีที่เหมาะกับบุคคลนั้น ๆ
ไฮไลท์โหนกแก้มให้ดูแวววาวมีมิติด้วย Chanel Baume Essentail ไฮไลท์เนื้อบาล์มเพื่อความชุ่มชื้น แตะลงบนใบหน้าเพื่อเพิ่มผิวที่ดูฉ่ำน้ำ แววาวาแบบขั้นสุด ด้วยเนื้อสัมผัสที่ซึมซาบลงสู่ผิวและช่วยในการสะท้อนแสง จากไฮไลท์ ช่วยสร้างมิติของเงาเพื่อให้ใบหน้าดูมีเค้าโครงได้รูปดูเป็นธรรมชาติ
และนี่ก็เป็นเทคนิคและไอเทมทั้งหมดสำหรับลุค Vanilla Girl Makeup ที่เรานำมาแบ่งปันเพื่อน ๆ ชาว Inzpy กันค่ะ จะบอกว่าเป็นลุคที่ไม่ยากเลยและเหมาะกับคนที่พึ่วเริ่มหัดแต่งหน้าด้วยเพราะโทนสีที่เป็นกลางธรรมชาติให้ความซอฟต์ละมุน หากเรามือหนักไปก็สามารถแก้ได้ง่ายกว่าการแต่งหน้าด้วยโทนสีเข้มค่ะ ในครั้งหน้าเราจะเอาเมคอัพลุคไหนมาแชร์ให้เพื่อน ๆ ได้แต่งตามกันอีกฝากติดตามกันด้วยนะคะ
