เปลี่ยนบ้านรับหน้าฝน พร้อมป้องกันทุกปัญหา!

หลักปฏิบัติ 5+5 ข้อ ป้องกันภัยอันตราย ช่วงปลายฝนต้นหนาว

ดูแลบ้านรับมือกับฤดูฝน! ช่วงหน้าฝนกำลังมาถึง ภัยอันตรายที่อยู่ในสายฝน นอกเหนือจากโรคภัยไข้เจ็บที่ต้องระมัดระวังแล้ว เรายังต้องพยายามรักษาตัวให้รอดพ้นจากบรรดาสัตว์มีพิษที่หลั่งไหลมากับสายน้ำในช่วงฤดูฝน เมื่อมันพร้อมใจกันยกพลขึ้นบก และอาจจะยึดพื้นที่ชื้นตามซอกมุมต่างๆในบ้านของเรา จะมีวิธีการรับมืออย่างไร ก่อนที่จะรับมือไม่ได้ วันนี้ Inzpy ก็อยากมาแชร์วิธีการรับมือต่างๆ กับหน้าฝนนี้ เพื่อต่ออายุของบ้านให้ดูใหม่ ปลอดภัย และน่าอยู่ไปนานยิ่งขึ้น

1.การเช็กหลังคามีรูรั่ว

การเช็กหลังคาว่ามีรูรั่วทำให้น้ำซึมไหม หากเกิดฝนตกหนักแบบแรงมากจนทำให้น้ำซึมทะลุจากหลังคา จนทำให้บ้านนั้นมีร่องรอยของน้ำเกาะกิน รอยรั่ว รอยแตก หรือมีน้ำไหลออกมา โดยเฉพาะบริเวณหลังคาที่เป็นเสมือน ‘หมวกคุ้มกันบ้าน’ และสัมผัสกับน้ำฝนโดยตรง หากพบก็ควรรีบซ่อมแซมโดยเร็ว เพื่อป้องกันความเสียหายต่อทั้งบ้าน และเฟอร์นิเจอร์ได้อาจจะทำให้ข้าวของเสียหาย แต่การป้องกันดูแลนั้นยังช่วยลดการเกิดอันตรายต่อชีวิต หากมีเครื่องใช้ไฟฟ้า ปลั๊กที่ชำรุด จนเกิดไฟช็อตได้อีกด้วย

2.จัดบริเวณรอบบ้านให้โล่ง

เมื่อเกิดหน้าฝนที่ตกหนักก็อาจจะทำให้สัตว์มีพิษ หรือ สัตว์เลื้อยคลานต่าง ๆ ที่มีพิษก็อาจจะเกิดอันตรายต่อคนในบ้านได้นั้นเอง หากฝนตกหนักน้ำท่วมบริเวณที่อยู่อาศัยของสัตว์จะทำให้สัตว์เหล่านั้นเข้ามาในบ้านของเราได้โดยไม่ทันตั้งตัว ดังนั้นควรเริ่มต้นจากหมั่นดูแลพื้นที่รอบบ้านอยู่เสมอ ด้วยการทำความสะอาดให้บริเวณบ้านโล่ง ไม่มีโพรงสัตว์ ปิดฝาท่อต่างๆ ให้มิดชิด หากพบรอยรั่ว รอยแตก ควรรีบซ่อมแซม หรืออาจให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยดูแลบริเวณรอบบ้านเป็นประจำ เพื่อความปลอดภัยของเรา และคนในครอบครัว

3.การจัดสวนในบ้านให้เรียบร้อย

การจัดตกแต่งสวนให้เรียบร้อย ก่อนจะเข้าสู่ฤดูฝนก็ควรตัดแต่งกิ่งต้นไม้ในสวน และต้นไม้ที่อยู่บริเวณใกล้ในบ้านให้เรียบร้อยอยู่เสมอ หากเกิดพายุ หรือ ลมฝนมาจะส่งผลให้บ้านเสียหาย หรือกีดขวางทางเข้าออกได้ หากต้นไม้มีขนาดใหญ่จนไม่สามารถจัดการด้วยตัวเองได้ แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยดูแลก่อนที่จะสายไป จนก่อให้เกิดความเสียหายในอนาคตได้นั้นเอง

4.การจัดเฟอร์นิเจอร์บ้านไม่ให้โดนน้ำ

การเลือกเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้าน ก็ควรเลือกที่กันน้ำได้ แม้เฟอร์นิเจอร์นอกบ้านจะทำมาจากวัสดุที่ทนทานต่อแดด และฝน แต่หากโดนฝนโหมกระหน่ำในทุกวันในช่วงหน้าฝนแบบนี้จะทำให้เฟอร์นิเจอร์เสื่อมโทรมก่อนเวลาใช้งานจริงที่ควรจะเป็นได้ ดังนั้นถ้าอยากยืดอายุการใช้งานเฟอร์นิเจอร์ออกไปอีก ควรย้ายเฟอร์นิเจอร์ให้หลบทิศทางของฝน หรือหากผ้าใบมาคลุมเพื่อป้องกันการโดนน้ำฝนโดยตรงเพื่อรักษาสภาพการใช้งานให้ยาวนาน

5.ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลบ้าน

การดูแลบ้านหลังใหญ่บางอย่างเราอาจจะดูแลไม่ถูกวิธี แนะนำว่าควรปรึกษาการดูแลให้บ้านอยู่กับเราไปนานๆ คอยดูแลสุขภาพบ้านของคุณให้ใช้การได้นานยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะหน้าร้อน หรือหน้าฝน ก็ให้เราหมดกังวลในปัญหาของบ้านเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายที่อาจจะไม่จำเป็นลงด้วย ไม่ด้านไหน อาทิ กำจัดปลวก, ตัดแต่งสวน, ดูแลสระว่ายน้ำ, ตรวจเช็กอุปกรณ์ไฟฟ้า, หลังคา ฝ้าเพดาน, ประตูหน้าต่างให้ไม่มีจุดรั่วซึม, ดูแลพื้นที่รอบบ้านไม่มีโพรงสัตว์อยู่ในบริเวณที่อยู่อาศัยของเราด้วย

  และอีกหนึ่งคำแนะนำจาก กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หลักปฏิบัติ 5 ข้อ ป้องกันอันตรายจากสัตว์มีพิษยิ่งช่วงปลายฝนต้นหนาว ยิ่งต้องระวัง ชี้รักษาความสะอาดเป็นประจำคือหัวใจสำคัญในการป้องกันแขกไม่ได้รับเชิญ นายแพทย์ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ ทั่วประเทศต่างประสบสถานการณ์ฝนตกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บางพื้นที่เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคและภัยสุขภาพประเภทต่างๆ ซึ่งนอกจากการจมน้ำ, ไฟฟ้าช็อต หรือโรคที่มากับน้ำแล้ว ยังมีอันตรายอีกประเภทที่แอบซ่อนอยู่ถึงแม้น้ำจะลดแล้วก็อาจจะยังอยู่ร่วมกับเราต่อไป นั่นคือสัตว์มีพิษหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งงู ตะขาบ แมงป่อง ฯลฯ ซึ่งหนีน้ำมาหลบซ่อนในบ้านเรือนของประชาชน และหลังน้ำลดสัตว์มีพิษเหล่านี้ก็มักจะไม่กลับไปยังพื้นที่เดิมของตนแต่กลับใช้บ้านเรือนเป็นแหล่งพำนักใหม่แทน ทำให้ในช่วงปลายฤดูฝนถึงต้นฤดูหนาวมักจะมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากสัตว์มีพิษมากกว่าในช่วงเวลาอื่นๆของปี ดังนั้น เพื่อป้องกันอันตรายจากสัตว์มีพิษ จึงขอแนะประชาชนให้นำหลักปฏิบัติ 5 ข้อ มาใช้ป้องกันอันตราย ดังนี้

1. 1. การทำความสะอาดบริเวณมุมอับหรือจุดที่เป็นซอกหลืบของตัวบ้าน ให้สวมถุงมือยางและรองเท้าบูตทุกครั้ง ป้องกันถูกสัตว์มีพิษกัด
   2. ตรวจสอบตามมุมอับหรือกองวัสดุในบ้านให้ทั่วทุกซอกทุกซอกมุมว่ามีสัตว์มีพิษหลบซ่อนอยู่หรือไม่ โดยการใช้ไม้ยาว หรือท่อพลาสติกเคาะไปตามพื้น เพื่อให้สัตว์มีพิษที่หลบซ่อนอยู่หนีออกจากที่ซ่อน
   3. ซ่อมแซมจุดแตกร้าว รอยต่อหรือซอกที่เกิดจากการทรุดตัวของดินไม่ให้เป็นที่อาศัยของสัตว์มีพิษ
   4. หลีกเลี่ยงการเก็บกวาด หรือทำความสะอาดภายนอกตัวบ้านในเวลากลางคืน เพราะสัตว์มีพิษหลายประเภทมักจะออกหากินในเวลากลางคืนจึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายมากกว่าในเวลากลางวัน อีกทั้งยังมีความเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บจากเศษวัสดุที่ตกหล่นอยู่ตามพื้นเนื่องจากแสงไฟไม่เพียงพอ และ
   5. หากพบงูให้อยู่นิ่งๆ คอยดูท่าที และขยับออกห่างอย่างช้าๆ ไม่ควรตีหรือพยายามจับงูด้วยตนเอง ซึ่งตามปกตินั้นงูจะไม่เข้ามาทำร้ายถ้าไม่ถูกรบกวน และให้รีบแจ้งไปที่สายด่วน 199

สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร หรือหากอยู่ในส่วนภูมิภาคให้แจ้งที่สายด่วน 191 หรือหน่วยกู้ภัยในพื้นที่โดยทันที เพื่อดำเนินการเคลื่อนย้ายงูไปยังสถานที่ๆเหมาะสม อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการทำความสะอาดอย่างทั่วถึงทุกซอกทุกมุมของตัวบ้านแล้ว แต่หากไม่มีการป้องกันสัตว์มีพิษเหล่านี้ก็สามารถกลับเข้ามากบดานในบ้านเรือนได้ จึงควรรักษาความสะอาดบริเวณบ้านอย่างสม่ำเสมอจนเป็นนิสัย หากมีการปลูกต้นไม้ในบริเวณบ้าน ควรตัดแต่งให้ไม่ให้รกรุงรังพร้อมกับกำจัดเศษใบไม้ใบหญ้าทุกครั้ง ไม่ควรกองทิ้งไว้เพราะจะทำให้เป็นที่อาศัยของสัตว์และแมลงมีพิษได้ เนื่องจากสัตว์เหล่านี้มักจะอาศัยอยู่ตามที่เย็นเพื่อหลบซ่อนความร้อนจากดวงอาทิตย์และออกหากินในเวลากลางคืน รวมทั้งให้ทิ้งเศษขยะ หรือเศษอาหาร ในภาชนะที่ปิดมิดชิดเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งอาหารของหนูและแมลง ซึ่งจะเป็นการสร้างห่วงโซ่อาหารให้กับสัตว์มีพิษต่อไป

เป็นยังไงกันบ้างเพื่อนๆ กับการรับมือกับปัญหาหน้าฝนที่กำลังเข้าใกล้มาถึง ควรหมั่นตรวจสอบสภาพวันนี้เรามาแชร์ไอเดียการดูแลบ้านรับมือกับปัญหาต่างๆ ที่จุกจิกกวนใจในบ้านก็ลองเอาไปทำดูกันน้ำ มาทำให้ฤดูฝนนี้เปลี่ยนจากความกังวลเรื่องบ้านพัง มาเป็นบ้านสวยตอนรับหน้าฝนแม้ว่าลมพายุรุนแรงขนาดไหนก็ไม่หวั่นแน่นอน

---

อัปเดตคอนเทนต์ใหม่ ๆ ทาง LINE ฟรี
Add friend ที่ ID : @inzpy (มี@นำ)