ประวัติเหล้าขวัญใจวัยรุ่น Red Label
เวลาไปงานสร้างสรรค์กับเพื่อน ๆ คงมีสักครั้งที่พวกคุณได้ลองสั่ง เรด มาดื่มกัน หลาย ๆ คงอาจจะยังไม่รู้ว่าที่มาที่ของเหล้าแบรนด์นี้มาจากไหน เวลาดื่มควรดื่มแบบใส่มิกเซอร์ หรือดื่มแบบเพียวๆ ใส่น้ำแข็ง วันนี้ลองตามมาดูกัน
Johnnie Walker
ถือเป็นเหล้าตระกูลวิสกี้ที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลกมายาวนาน ซึ้งปัจจุบันแบ่งย่อยเป็นตระกูล Label ได้ 5 ชนิด คือ
– Johnnie Walker Red Label
– Johnnie Walker Black Label
– Johnnie Walker Green Label
– Johnnie Walker Gold Label
– Johnnie Walker Blue Label
ซึ่งในแต่ละชนิดมีวิธีการดื่มให้ได้รสชาติแตกต่างกันไป ทำให้เราสามารถสัมผัสถึงรสชาติของเหล้าวิสกี้ Johnnie Walker อย่างแท้จริง
เรื่องราวความเป็นมา
ในปี 1909 วิสกี้สเปเชียล โอลด์ ไฮแลนด์ ได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เรด เลเบิ้ล
จนกลายเป็นจุดกำเนิดของวิสกี้ในตำนานสูตรนี้ ด้วยจิตวิญญาณของนักบุกเบิก จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เรด เลเบิ้ล ได้เดินทางข้ามมหาสมุทรไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วทุกมุมโลกแล้วแต่เรือเดินสมุทรจะพาไป ด้วยรสชาติที่ดุดันและพลิกแพลงได้หลากหลาย เรด เลเบิ้ล จึงกลายเป็นวิสกี้โปรดสำหรับแวดวงสังสรรค์ทั่วโลก
ปัจจุบัน จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เรด เลเบิ้ล เป็นสก๊อตช์ช์วิสกี้ที่ขายดีที่สุดในโลก โดยมีวางจำหน่ายในกว่า 180 ประเทศ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เรด เลเบิ้ล ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติกว่า 30 รายการ รวมถึงรางวัล Le Monde Selection Grand Gold สองรางวัล พร้อมด้วยเหรียญทองสามเหรียญจากการแข่งขัน International Wine and Spirit Competition
เรด เลเบิ้ล
ระยะเวลาในการบ่มเป็น 8 ปี
เป็นเบลนเดดวิสกี้รุ่นบุกเบิกที่ทำให้จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ด้วยรสชาติจัดจ้านที่สามารถพลิกแพลงได้หลากหลายและคงรสสัมผัสที่โดดเด่นแม้จะดื่มแบบผสม จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เรด เลเบิ้ล เป็นสก๊อตช์วิสกี้ที่มียอดขายสูงสุดในโลก เหมาะสำหรับงานเลี้ยงสังสรรค์ที่บ้านหรือนอกสถานที่ พร้อมให้คุณได้ดื่มด่ำในวงสังสรรค์ทุกโอกาส
รสชาติ
เรด เลเบิ้ล โดดเด่นที่กลิ่นเครื่องเทศเผ็ดร้อนปะทะจมูกและรสชาติจัดจ้านสดใสของบุหรี่แห้งรมควัน การผสมผสานวิสกี้รสนุ่มจากชายฝั่งตะวันออกของสกอตแลนด์ เข้ากับรสยางมะตอยและรากไม้จากฝั่งตะวันตก ทำให้เรด เลเบิ้ล มีรสชาติล้ำลึกแต่สดใสจัดจ้านราวกับน้ำที่ซ่านกระเซ็นจากเกลียวคลื่นที่แตกเป็นฟอง ด้วยกลิ่นหอมฉุนจากเครื่องเทศนานาชนิด อาทิ อบเชย พริกไทย ที่ปะทุอยู่กลางลิ้น แต่แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของความหวานแบบผลไม้อย่างแอปเปิลสดหรือลูกแพร์ และ กลิ่นวานิลานุ่มละมุน สัมผัสท้ายรสเป็นกลิ่นบุหรี่แห้งรมควันเอกลักษณ์ของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ที่ฟุ้งกระจายในลมหายใจยาวนาน
วิธีการดื่มด่ำกับวิสกี้ที่ง่ายที่สุดคือ ดื่มแบบเพียวไม่ใส่น้ำแข็ง จิบน้ำเปล่าเย็นจัดเพื่อชำระล้างรสที่ยังค้างอยู่บนต่อมรับรสก่อนจิบวิสกี้ หลายคนผสมวิสกี้กับน้ำเปล่าเพื่อดึงรสชาติที่เกิดขึ้นจากกาผสมผสานระหว่างน้ำและวิสกี้ แต่จำไว้ว่า “จะเพิ่มก็เพิ่มได้ แต่รินออกไม่ได้” หากรินน้ำมากไป วิสกี้จะมีรสจืดและสูญเสียรสชาติอันมีมิติ
สุดท้ายเรื่องสำคัญที่สุด ดื่มแล้วจะมึนน้อยหรือมึนมาก ก็อย่าขับรถเลย เก็บชีวิตที่มีค่าไว้สัมผัสกับสิ่งดีๆ ที่รอเราอยู่มากมายในวันข้างหน้าดีกว่า …