รู้จัก Chinoiserie แต่งบ้านเก๋แบบตะวันตก ผสานกลิ่นอายจีน
สำหรับสไตล์ Chinoiserie (ชินัวซีรี) ถือเป็นหนึ่งการแต่งบ้านที่เปี่ยมเสน่ห์ด้วยคาแรกเตอร์แบบลูกครึ่งที่ไม่เหมือนใคร จุดโดดเด่นของแนวทางนี้คือการมิกซ์แอนด์แมชท์ ข้าวของระหว่างตะวันตกและจีนให้ผสานเข้ากัน เพื่อสร้างสรรค์ดีเทลใหม่ ๆ ที่พิศมองแล้วแปลกตา มอบอารมณ์ให้ห้องดูหรูหรา คลาสสิก หรือแม้แต่ร่วมสมัยได้เช่นกัน
ซึ่งแม้จะใกล้เคียงกับการตกแต่งสไตล์ Eclectic (อิเคล็คติก) ที่หยิบเอาความหลากหลายทั้งสิ่งของและสไตล์การตกแต่งบ้านแต่ละรูปแบบมาใส่ไว้ด้วยกัน แต่ก็แตกต่างกันตรงที่ อิเคล็คติกเน้นการจัดวางองค์ประกอบผ่านมุมมองอันสวยงาม มากกว่าการตกแต่งให้เข้ากันนั่นเอง
ปูมหลังของ Chinoiserie ?
คำว่า “chinoiserie” มาจากภาษาฝรั่งเศส (sheen-was-er-ree อ่านว่าเชน-วอส-เออ-รี่) ซึ่งถูกนำมาใช้เพื่ออธิบายถึงเครื่องเรือนเครื่องประดับตกแต่งที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะลวดลายแบบจีนที่แพร่หลายไปทั่วยุโรปในศตวรรษที่ 17 – 18 แม้แต่นักออกแบบอย่าง “Thomas Chippendale” ผู้ที่ถูกขนานนามว่าเป็นเชคสเปียร์ของช่างเฟอร์นิเจอร์ ก็ประสบความสำเร็จในการนำศิลปะแบบจีนมาผสมผสานกับผลงานของเขาเช่นกัน ไล่ลามถึงการตกแต่งสไตล์ Louis XV ในฝรั่งเศส (หรือเรียกว่า Rococo ) ก็มีการนำศิลปะแบบจีนเข้ามาผสมโรงกับศิลปะฝรั่งเศสนั่นเอง
และเนื่องจากศิลปะแบบจีน สามารถนำมาใช้ตกแต่งเพื่อเพิ่มรายละเอียด หรือตกแต่งให้เรียบง่ายได้ รวมถึงนำมาผสานเข้ากับเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ใหม่ได้ ปัจจุบันจึงนิยมนำลวดลายแบบจีนมาออกแบบลดทอน เพื่อใช้ในการตกแต่งกับห้องสไตล์โมเดิร์นอีกด้วย
เทคนิคแปลงโฉมห้องเป็นสไตล์ Chinoiserie ให้ดูดีมีระดับ
การตกแต่งบ้านในสไตล์ชินัวซีรีให้สวยงามและพราวเสน่ห์นั้นมิใช่แค่หยิบข้าวของสไตล์จีนมาผสานกับตะวันตกเท่านั้น แต่ต้องทำให้กลมกลืนลงตัวสวยงาม โดยยึดหลักการและเทคนิคง่ายๆ ดังต่อไปนี้
1.กำหนดเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลัก
เพื่อให้ง่ายต่อการตกแต่งสไตล์ชินัวซีรี ต้องกำหนดเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลัก (ที่ชอบจริงๆ) สำหรับเป็นจุดโฟกัสให้กับพื้นที่ (ประมาณ 1 – 2 ชิ้นต่อห้อง) ก่อนต่อยอดสู่การเลือกข้าวของชิ้นเล็กมาเติมเต็มให้ดูสวยงามดึงดูดใจยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ในห้องโถง หากกำหนดโต๊ะคอนโซลและกระจกติดผนังสไตล์ยุโรปเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักแล้ว คุณอาจหาบรรดาแจกันหรือเครื่องลายครามจีนมาจัดวางตกแต่งบนโต๊ะ เพื่อสร้างดีเทลของการตกแต่งสไตล์ชินัวซีรีให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เป็นต้น
2.คุมโทนสี
ในการตกแต่งห้องด้วยของตกแต่งที่มีเอกลักษณ์ต่างกัน หรือมีลายลวดลายไม่เข้ากัน เราสามารถใช้สีเชื่อมโยงสิ่งเหล่านั้นเข้าไว้ด้วยกันได้ ผ่านการเลือกใช้โทนเฉดเดียวกัน หรือใกล้เคียงกัน (เช่น น้ำตาล เทา ดำ) ก่อนเหยาะความน่าสนใจด้วยสีสันอื่นๆ เพียงเล็กน้อย เพื่อเพิ่มรายละเอียดให้แก่ห้องให้ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น เรียกว่าเป็นการกำหนดโทนสีห้องให้ไปในทิศทางเดียวกันนั่นเอง
3.เชื่อมโยงรูปทรง หรือพื้นผิววัสดุ
นอกจากการกำหนดสีแล้ว คุณยังสามารถเชื่อมสไตล์ชินัวซีรีให้ดูกลมกลืนกันได้ด้วยการเลือกใช้ของตกแต่ง หรือเฟอร์นิเจอร์ต่างสไตล์ที่มีรูปทรงคล้ายๆ กัน หรือพื้นผิวของวัสดุประเภทเดียวกัน เช่น ในห้องนั่นเล่น ตกแต่งด้วยภาพวาดจีนกรอบทอง ซึ่งเชื่อมโยงกับการจัดวางโต๊ะข้างสไตล์โมเดิร์นที่ทำจากวัสดุทองเหลือง เป็นต้น
และทั้งหมดนี้ คือข้อมูลพร้อมทริคที่นำมาให้คุณได้ รู้จัก Chinoiserie แนวทางตกแต่งบ้านอีกหนึ่งสไตล์ที่ต้องบอกว่ายืนหนึ่งในเรื่องความสวยงามแปลกตา รวมถึงซุกซ่อนความมีระดับหรูหราในแบบที่ไม่ซ้ำใครทีเดียว
บทความน่าสนใจ : Introspection นิทรรศการโดย “ก้องกาน” ศิลปินผู้แจ้งเกิดในแวดวงสตรีทอาร์ต ณ มหานครนิวยอร์ก