เทรนด์อสังหาฯ น่าจับตา ส่งท้ายปี 2564
ต้องยอมรับว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อันยาวนาน บวกกับการพัฒนาทางเทคโนโลยีดิจิทัลที่ก้าวกระโดด ทำให้พฤติกรรมและไลฟ์สไตล์การดำเนินชีวิตของเราต้องปรับตัวไปตามสถานการณ์ รวมถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ในรอบปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากเลยทีเดียว
ทว่ากลับส่งผลให้ทัศนคติต่อการอยู่อาศัยของผู้คน ปรับโหมดการใช้ชีวิตภายใต้บริบททางสังคมที่หลากหลายได้ดียิ่งขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในปัจจุบันมากขึ้น ชูจุดเด่นในเรื่องการสร้างสรรค์ประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดีกว่า เพื่อดึงดูดกำลังซื้อจากผู้ที่กำลังมองหาบ้าน
ดังนั้นก่อนจะเริ่มปีถัดไป เราจะขอนำเสนอเทรนด์อสังหาริมทรัพย์ที่น่าจับตาในรอบปี 2564 มาดูซิว่า… ทิศทางและแนวโน้มที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคยุคใหม่กำลังมองหานั้นมีอะไรบ้าง
การผสมผสานไลฟ์สไตล์ดิจิทัล ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า หลายโครงการได้นำแนวคิดบ้านอัจฉริยะ (Smart Home) มาใช้มากยิ่งขึ้น จนแทบจะกลายเป็นฟังก์ชั่นการใช้งานพื้นฐานที่ต้องมีในการอยู่อาศัยยุคใหม่ไปแล้ว เพราะทุกวันนี้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการยกระดับในการใช้ชีวิตยุคใหม่ที่สะดวกสบายนั่นเอง
ส่วนกระแสการนำเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) มาใช้ควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้านนั้น นอกจากจะยกระดับการอยู่อาศัยที่สะดวกสบายแล้ว ยังเพิ่มความอุ่นใจในความปลอดภัยมากขึ้น ทั้งในเรื่องการเฝ้าระวัง การตรวจสอบ การเปิด/ปิดการใช้งานระบบไฟฟ้าได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน
เทรนด์การอยู่อาศัยแบบยั่งยืน ในช่วงการแพร่ระบาดฯ ที่ผ่านมาจึงทำให้ผู้คนต้องอยู่กับบ้านมากขึ้น ส่งผลให้หลายคนมองหาบ้านที่มาพร้อมฟังก์ชั่นประหยัดพลังงานและรักษ์โลก โดยผลสำรวจ DDproperty’s Thailand Consumer Sentiment Study เผยว่า คนไทยกว่า 9 ใน 10 (93%) ให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยแบบยั่งยืน
และมากกว่าครึ่ง (62%) ต้องการที่อยู่อาศัย มีระบบหลังคาโซล่าเซลล์ (Solar Rooftop) สำหรับสร้างพลังงานทางเลือกทดแทนการใช้ไฟฟ้า รองลงมาคือบ้านที่มีระบบระบายความร้อน (58%) และฟังก์ชั่นดูดซับมลพิษภายในบ้าน (48%) นอกจากนี้หลายโครงการยังได้เพิ่มจุดบริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่ส่วนกลาง รองรับเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังมาแรง
บ้านเพื่อผู้สูงวัย ตอบโจทย์การใช้ชีวิต เนื่องจากในปีนี้ ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ โดยมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปถึง 20% ของประชากรทั้งหมด หลายโครงการจึงมีการออกแบบและนำเสนอนวัตกรรมการสร้างบ้านสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มราวจับในพื้นที่ต่างระดับ การเลือกประตูที่มีขนาดใหญ่ขึ้นสำหรับรถเข็น และการออกแบบทางลาดให้รถเข็นเข้า-ออกในตัวบ้าน
ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้ ถือเป็นหลักการออกแบบที่คำนึงถึงความปลอดภัย และรองรับการใช้ชีวิตของทุกช่วงวัยได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีโครงการอสังหาฯ หลายแห่งที่ร่วมมือกับโรงพยาบาลหรือศูนย์บริการสุขภาพ จัดสรรให้มีบริการดูแลสุขภาพไว้รองรับ ซึ่งนับเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงวัยทีเดียว
ที่อยู่อาศัย Pet Friendly ดีต่อใจคนรักสัตว์ นับเป็น เทรนด์อสังหาฯ มาแรงทีเดียว เพราะการเลี้ยงสัตว์เป็นอีกไลฟ์สไตล์ที่ได้รับความนิยม แต่ก็กลายเป็นอีกข้อจำกัดเมื่อต้องเลือกซื้อ/เช่าที่อยู่อาศัยเช่นกัน ในอดีตโครงการคอนโดฯ ส่วนใหญ่มักไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ เนื่องจากอาจก่อให้เกิดเสียงดัง หรือมีปัญหาเรื่องความสะอาด และก่อให้เกิดข้อพิพาทตามมาได้
อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนรักสัตว์มีจำนวนไม่น้อยและถือเป็นอีกกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อในตลาด ทำให้ผู้พัฒนาอสังหาฯ มองเห็นโอกาสและหันมาเจาะกลุ่มคนรักสัตว์โดยเปิดตัวโครงการคอนโดฯ ที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ (Pet Friendly) พร้อมทั้งมีพื้นที่ส่วนกลางที่ให้เจ้าของและสัตว์เลี้ยงได้ทำกิจกรรมร่วมกันอีกด้วย
เทรนด์เช่ามาแรง ลดภาระค่าครองชีพ การชะลอตัวของเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดฯ ที่ผันผวน ทำให้ผู้คนชะลอการซื้อที่อยู่อาศัย และวางแผนการเงินอย่างรัดกุม เลือกเก็บเงินสดไว้กับตัว ส่งผลให้เทรนด์การเช่าที่อยู่อาศัยกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง เมื่อเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อาทิ ค่าบำรุงรักษา รวมไปถึงค่าภาษีและดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายเมื่อตัดสินใจซื้อบ้าน/คอนโดฯ ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบางและไม่มีมาตรการช่วยเหลือที่ครอบคลุมเพียงพอ
การเช่าที่อยู่อาศัยจึงช่วยให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ เลือกเช่าที่อยู่อาศัยใกล้ที่ทำงานได้ในราคาเอื้อมถึง โดยไม่มีภาระผูกมัดระยะยาว และยืดหยุ่นกว่าเมื่อคิดจะเปลี่ยนงานใหม่ นอกจากนี้การเปิดประเทศและนโยบายจากภาครัฐจะสนับสนุนให้ Digital Nomad หรือผู้ประกอบอาชีพด้านดิจิทัลชาวต่างชาติเลือกเข้ามาทำงานและพักอาศัยในไทยมากขึ้น ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนให้ตลาดเช่าที่อยู่อาศัยเติบโตเช่นกัน
รังสรรค์บรรยากาศแบบ Holiday at Home การใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา จึงทำให้เกิดแนวคิดการออกแบบที่อยู่อาศัยที่ให้ความรู้สึกถึงการพักผ่อนที่เหมือนได้ท่องเที่ยวในต่างจังหวัด รวมทั้งการตกแต่ง การจัดสวนให้มีมุมพักผ่อนที่ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ ลดความจำเจเมื่อต้องทำงาน หรือเรียนออนไลน์ที่บ้านเป็นระยะเวลานาน และยังสามารถใช้พื้นที่ในสวนเพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่บ้านร่วมกันได้อีกด้วย
สกุลเงินดิจิทัลกับโอกาสเป็นเจ้าของอสังหาฯ ต้องบอกว่ากระแสของสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) ในไทยน่าจับตามองเป็นอย่างมากในหลายอุตสาหกรรม ส่วนทางด้านอสังหาฯ ในกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ที่กล้ารับความเสี่ยง มองว่าสกุลเงินดิจิทัลเป็นอีกทางเลือกในการลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนคุ้มค่าไม่ต่างจากการลงทุนในรูปแบบอื่น ๆ
นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยให้ได้ง่ายขึ้น เนื่องจากการซื้อที่อยู่อาศัยเป็นทรัพย์สินที่มีราคาสูงและระยะเวลาผ่อนชำระยาวนาน ผู้ยื่นกู้จำเป็นต้องมีประวัติการเงินที่ดีและมีศักยภาพในการผ่อนชำระจึงจะได้รับการอนุมัติจากธนาคาร ถือเป็นอุปสรรคในการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่หรือวัยเริ่มทำงาน
ในขณะที่ผลตอบแทนจากการลงทุนสกุลเงินดิจิทัลที่ได้ในระยะเวลาไม่นาน ช่วยลดข้อจำกัดเหล่านี้และเปิดโอกาสให้นักลงทุนรุ่นใหม่เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น รวมถึงสามารถนำอสังหาฯ ไปลงทุนขายต่อหรือปล่อยเช่าได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ต้องจับตามองต่อไปว่านอกจากการประกาศใช้สกุลเงินดิจิทัลในการซื้ออสังหาฯ หรือจ่ายค่าส่วนกลางและค่าบริการอื่น ๆ ในบางโครงการแล้ว ในอนาคตเทรนด์สกุลเงินดิจิทัลจะสามารถกลายเป็นอีกช่องทางหลักของการซื้อขายในตลาดอสังหาฯ ได้หรือไม่
Metaverse ยกระดับประสบการณ์ที่อยู่อาศัยบนโลกเสมือน เรียกว่า Metaverse คือ เทรนด์ที่มาแรง สะเทือนทุกธุรกิจส่งท้ายปี เพราะเป็นนวัตกรรมที่สร้างสรรค์และผสมผสานสภาพแวดล้อมของโลกจริงเข้ากับโลกเสมือนจริง ให้กลายเป็นชุมชนโลกเสมือนจริงผ่านการใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่รองรับการเข้าถึงโลกเสมือนอย่าง Augmented Reality (AR) และ Virtual Reality (VR) ถือเป็นแนวคิดที่จะเข้ามามีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงตลาดอสังหาฯ ไปไม่น้อย
นอกจากผู้บริโภคจะสามารถซื้อโครงการที่อยู่อาศัยในชีวิตจริงแล้ว ยังสามารถเป็นเจ้าของโครงการในโลกเสมือนได้ผ่านการเชื่อมโยงของ Metaverse อีกด้วย รวมถึงยังนำไปใช้เพื่อยกระดับการเยี่ยมชมที่อยู่อาศัยก่อนตัดสินใจซื้อแบบ Virtual Tour ในอนาคตให้ได้รับประสบการณ์ที่สมจริงยิ่งขึ้น
พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางธุรกิจในการเปิดพื้นที่ใน Metaverse ให้สามารถซื้อ-ขายที่ดิน สำหรับพัฒนาห้างสรรพสินค้าและโครงการอสังหาฯ ต่าง ๆ เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบไร้รอยต่อระหว่างโลกจริงและโลกเสมือนให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก DDproperty.com
บทความน่าสนใจ : ส่อง! แอปฯ และกล่องฆ่าเชื้อ UV จาก LG ไอเทมสุดฮ็อตที่ควรมีไว้ติดบ้าน