More
    Home Blog Page 4

    SASOM เปิดตัวรองเท้า “DUCK BOOT” ผลงานคอลแลบ “FCTRY LAb x NLE CHOPPA”

    SASOM (สะสม) Premium Lifestyle Marketplace มุ่งยกระดับวงการ Street Culture ไทย ปักหมุด Rim Bangkok จัดงานเปิดตัว “SASOM x FCTRY LAb : NLE Choppa’s Duck Boot Launch Party” ครั้งเดียวและครั้งแรกในเอเชีย กับปาร์ตี้สุดเอ็กซ์คลูซีฟ โชว์รองเท้าที่ Sold Out ทั่วอเมริกา อย่าง “DUCK BOOT” ผลงานการคอลแลปส์ที่ “NLE Choppa” นักร้องแร็ปเปอร์ระดับโลก ได้ร่วมงานกับ “FCTRY LAb” แบรนด์ผู้ออกแบบและสร้างสรรค์นวัตกรรมต้นแบบรองเท้าสนีกเกอร์ดีไซน์โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ให้กับหลายแบรนด์ดัง รวมถึงการออกแบบรองเท้าให้กับไอคอนชื่อดังระดับโลก

    พบกับการจำหน่าย DUCK BOOT by FACTRY LAb ในราคาพิเศษ ที่แรกและที่เดียวในอาเซียน ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน SASOM

    บทความที่น่าสนใจ

    THOM BROWNE – Holiday 2024  แคมเปญน่ารัก เล่าการผจญภัยในตึกสำนักงาน

    KAWS:HOLIDAY กลับมายุโรปอีกครั้ง นั่งชิลล์บนตึกสำนักงานใหญ่ “Audemars Piguet”

    “Cartier Magical Night” เนรมิตสยามพารากอนให้เป็นดินแดนแห่งความมหัศจรรย์

    “ห้องอาหารโมโม่ คาเฟ่” นิวลุค เน้นโทนสีธรรมชาติ เพิ่มพื้นที่หลากหลาย พร้อมเมนูน่าประทับใจ

    หลังจากทยอยปิดปรับปรุงครั้งสำคัญเป็นส่วนๆ จนครบถ้วน โรงแรมคอร์ทยาร์ด โดย แมริออท กรุงเทพฯ พร้อมเผยไฮไลต์สุดท้ายที่การเปลี่ยนโฉมห้องอาหารโมโม่ คาเฟ่ เพื่อยกระดับโรงแรมสู่การเป็นจุดหมายปลายทางแห่งใหม่
    ใจกลางเมือง

    ห้องอาหารโมโม่ คาเฟ่ โฉมใหม่ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Nature & Rustic” ที่ผสานสัญลักษณ์ “The Guiding Star” ซึ่งสื่อถึงดวงดาวนำทางสู่แรงบันดาลใจเพื่อการก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของโรงแรมในการสร้างประสบการณ์ที่สนับสนุนผู้เข้าพักให้เดินหน้าตามความฝัน ทุกองค์ประกอบภายในห้องอาหารโมโม่ คาเฟ่ มีความโดดเด่นและบรรยากาศผ่อนคลายในสไตล์คาเฟ่ ตกแต่งด้วยวัสดุธรรมชาติ โทนสีอบอุ่น และไม้เนื้ออ่อนที่ช่วยเสริมความรู้สึกสบายและเชื่อมโยงกับธรรมชาติและผู้คน

    โมโม่ บาร์ เป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำหรับพบปะสังสรรค์ในบรรยากาศอบอุ่นที่พร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มสูตรพิเศษ สำหรับการผ่อนคลาย ส่วนผู้ที่ชื่นชอบบรรยากาศกลางแจ้งสามารถเพลิดเพลินกับ โมโม่ เทอเรสต์ พื้นที่เอาท์ดอร์ที่เงียบสงบตกแต่งด้วยต้นไม้ เหมาะสำหรับการพบปะสังสรรค์แบบสบายๆ ทั้งสามพื้นที่ผสานองค์ประกอบจากธรรมชาติและแรงบันดาลใจจากดวงดาว เพื่อช่วยสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารที่พิเศษและน่าจดจำ

    พร้อมเปิดประสบการณ์การรับประทานอาหารยามค่ำคืนที่ไม่เหมือนใครกับ “โมโม่ บาย ไนท์” ดินเนอร์คอนเซ็ปต์สุดพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อผู้ที่รักการรับประทานอาหารและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ภายใต้บรรยากาศที่มีชีวิตชีวาและทันสมัย ผสานเมนูอาหารสุดพรีเมียม เครื่องดื่มที่เพิ่มความสดชื่น และการบริการอันอบอุ่นตามแบบฉบับไทย “โมโม่ บาย ไนท์” ทั้งยังน่าประทับใจด้วยเพลย์ลิสต์เพลงร็อคคลาสสิกที่จะสร้างบรรยากาศให้การรับประทานอาหารมีความสนุกสนานและหรูหราในเวลาเดียวกัน เมนูอาหารได้รับการคัดสรรเป็นพิเศษสำหรับนักชิมที่หลงใหลในเอกลักษณ์รสชาติที่รังสรรค์อย่างพิถีพิถัน

    สำหรับเทศกาลแห่งความสุขปลายปีนี้ ห้องอาหารโมโม่ คาเฟ่ มีกิจกรรมสุดพิเศษตลอดเดือนธันวาคม พบกับบุฟเฟต์นานาชาติในคืนคริสต์มาสอีฟ ที่มีเมนูไฮไลต์ อาทิ เนื้อวากิวอบ ไก่งวงทั้งตัว แซลมอนนอร์เวย์ และเนื้อแก้มวัวตุ๋น 24 ชั่วโมงสูตรเฉพาะ ท่ามกลางสุนทรียภาพของดนตรีสดและของขวัญสุดพิเศษจากซานต้าสำหรับเด็กๆ ในวันคริสต์มาส พบกับเมนูอาหารกลางวันหรือดินเนอร์แบบ 3 คอร์ส พร้อมด้วยเมนูพิเศษอย่างสเต๊กเนื้อวากิวและริซอตโตเห็ดทรัฟเฟิล

    ห้องอาหารโมโม่ คาเฟ่ โรงแรมคอร์ทยาร์ด โดย แมริออท กรุงเทพฯ ซอยมหาดเล็กหลวง 1 ถนนราชดำริ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. +66-2690-1888

    บทความที่น่าสนใจ

    7 เทรนด์ท่องเที่ยวในปี 2568

    9 เมืองท่องเที่ยวในเอเชีย ที่มีที่พักราคาประหยัด ช่วงเทศกาลส่งท้ายปี

    สัมผัสหิมะตกโปรยปราย ลุย 5 พิกัดเที่ยวฤดูหนาวในเมืองไอสึ วากามัตสึ จังหวัดฟุกุชิมะ

    “MIDO Multifort Mechanical Limited Edition” นาฬิกาหน้าปัดภาพจักรกลเรืองแสง สุดเท่

    กว่าศตวรรษที่ Mido (มิโด) โลดแล่นอยู่บนเวทีแห่งอุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกา ภายใต้เจตนารมณ์ที่จะนำเสนอดีไซน์ที่เหนือกาลเวลา โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว มาจนถึงปัจจุบัน สำหรับปีนี้ หนึ่งในคอลเลกชั่นเก่าแก่ของแบรนด์อย่าง Multifort (มัลติฟอร์ท) ก็มีอายุครบ 90 ปี นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1934 Mido จึงรังสรรค์นาฬิการุ่นพิเศษ Multifort Mechanical Limited Edition (มัลติฟอร์ท เมคานิคัล ลิมิเต็ด เอดิชั่น) เพื่อให้เป็นที่จดจำด้วยจำนวนการผลิตตัวเลขสวย 999 เรือน

    นาฬิการุ่นฉลอง 90 ปี รุ่นนี้มาในขนาดที่โดดเด่น 44.0 มิลลิเมตร หนา 12.2 มิลลิเมตร ในดีไซน์ขอบเรือนแคบคลาสสิกที่เป็นเอกลักษณ์ สร้างสรรค์จากสเตนเลสสตีลที่แต่งพื้นผิวแบบปัดลายสลับกับงานขัดมันบริเวณวงขอบตัวเรือนและเหลี่ยมมุม พร้อมเม็ดมะยมทรงเพชร กันน้ำลึกได้ที่ระดับ 100 เมตร

    เบื้องหลังแผ่นคริสตัลแซพไฟร์ที่เคลือบสารกันการสะท้อนเอาไว้ทั้ง 2 ฝั่ง เผยให้เห็นหน้าปัดที่ดีไซน์เป็นลายภาพสเก็ตซ์ของกลไก โดยส่วนที่เป็นแท่นเครื่องสีเทาได้รับการปัดลายในแนวดิ่ง สลับกับส่วนที่ว่างซึ่งทำเป็นสีดำด้าน พร้อมสารเรืองแสง ‘Super-LumiNova’ ซึ่งจะเรืองแสงออกมาเป็นสีฟ้าและสีแดงระเรื่อ เกิดเป็นลวดลายแบบนีออนที่สร้างความโดดเด่นในเวลาค่ำคืน เป็นสไตล์ที่เรียกว่า ‘X-ray Vision’ (เอ็กซเรย์ วิชั่น)

    Multifort Mechanical Limited Edition มีสายให้เลือกสลับเปลี่ยนได้ถึง 3 แบบ ได้แก่สายสเตนเลสสตีล สายหนังสีน้ำตาลที่ทำพื้นผิวให้ดูวินเทจ เย็บตะเข็บด้วยด้ายที่เคลือบสารเรืองแสง และสายผ้าสังเคราะห์สีดำเย็บตะเข็บด้วยด้ายสีขาวเคลือบสารเรืองแสง สามารถจับจองเป็นเจ้าของกันได้ในราคา 61,000 บาท

    บทความที่น่าสนใจ

    THOM BROWNE – Holiday 2024  แคมเปญน่ารัก เล่าการผจญภัยในตึกสำนักงาน

    KAWS:HOLIDAY กลับมายุโรปอีกครั้ง นั่งชิลล์บนตึกสำนักงานใหญ่ “Audemars Piguet”

    “Cartier Magical Night” เนรมิตสยามพารากอนให้เป็นดินแดนแห่งความมหัศจรรย์

    FLOOR/ 9 ค็อกเทลคลับแสนเก๋ที่กำลังมาแรง จุดนัดพบสุดเพอร์เฟกต์สำหรับสายโซเชียล

    FLOOR/ 9 – ฟลอร์ ไนน์ แบงคอก ค็อกเทล คลับ สถานที่เช็คอินแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ มาพร้อมวิวสวนลุมพินีที่ดีที่สุดตั้งแต่เช้า “Rise & Shine” ไปจนถึง “After Dark” ยามเย็น ตั้งแต่เวลา 9.00-24.00 น. โดยมีกรุงเทพฯ เป็นฉากหลัง

    ฟลอร์ ไนน์ ตั้งอยู่ที่ชั้น 9 ของโรงแรมโซ แบงคอก เป็นสถานที่สุดฮอตแห่งใหม่ใจกลางเมืองที่จะมาเปิดประสบการณ์การดื่มค็อกเทลของคุณให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ผสมผสานระหว่างสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ รสชาติอันโดดเด่น และบรรยากาศได้อย่างลงตัว ตั้งแต่เวลา 9.00-17.00 น.ของทุกวัน เพลิดเพลินกับเมนู Rise & Shine ที่นำเสนอกาแฟซิกเนเจอร์ซิงเกิลออริจินจากประเทศไทย เมียนมา และโคลอมเบีย รวมถึงกาแฟสูตรพิเศษอย่าง Smooth Criminal Blend พร้อมเบเกอรี่ ขนมหวาน รับประทานกับกาแฟ น้ำผลไม้สด และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์

    ส่วน After Dark เป็นเมนูค็อกเทลที่สร้างสรรค์โดยมิกโซโลจิสต์สุดเท่ของฟลอร์ ไนน์ ให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 17:00 น. ถึงเที่ยงคืน พร้อมเสิร์ฟเมนูซิกเนเจอร์ค็อกเทล ได้แก่ Muse (450 บาท) ค็อกเทลรสชาติดี ให้กลิ่นหอมและทำให้รู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งที่ดื่ม The Nest (450 บาท) ค็อกเทลที่ผสมผสานรสชาติ และกลิ่นหอมจากเมล็ดหาแฟอินฟิวส์ด้วยเตกิลาเหล้ากล้วย ให้รสสัมผัสเข้มข้น Pastel Canva (480 บาท) ค็อกเทลดอกไม้ที่ให้กลิ่นหอมจากดอกไม้อ่อน ๆ และรสสัมผัสหวานเล็กน้อย ตามมาด้วย The Sapphire (520 บาท) ค็อกเทลสายทรอปิคัล นำเสนอออกมาเป็นสีน้ำเงินอันโดดเด่นไม่เหมือนใคร นอกจากนี้

    สำหรับผู้ที่ชื่นชอบค็อกเทลรสเข้มข้น แนะนำให้ลอง Smoke Signal (520 บาท) ค็อกเทลรมควันรสชาติเข้มข้นที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสไตล์แบบ Old Fashioned และ Negroni สุดคลาสสิก และ Sesame by the Sea (450 บาท) ค็อกเทลรสชาติดี

    ให้ความรู้สึกสดชื่นด้วยกลิ่นหอมและรสสัมผัสจากซิตรัส

    เติมความพิเศษทุกวันอังคารถึงวันเสาร์ ด้วยเสียงเพลงสด ๆ จากดีเจและเพลย์ลิสต์สุดเร้าใจ ตั้งแต่เวลา 19:00 จนถึงเที่ยงคืน!

    เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00-24.00 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทร. 02-624-0000 หรืออีเมล: [email protected]

    บทความที่น่าสนใจ

    7 เทรนด์ท่องเที่ยวในปี 2568

    รวมไฮไลต์งานเทศกาลอาหารแห่งปี Hidden Gem Food Festival ครั้งแรกในไทย

    เตรียมฉลองเทศกาลคริสต์มาสสุดพิเศษกับโรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ด้วยวิวพระนครแบบลักชู

    Rolls-Royce เปิดตัวชิ้นส่วนตกแต่งบ้านขนาดเล็ก “Cameo” สำหรับนักสะสมโมเดลรถ

    โรลส์-รอยซ์ เปิดตัว Cameo ประติมากรรมขนาดจิ๋วที่สะท้อนถึงดีเอ็นเอการออกแบบของแบรนด์ในฐานะชิ้นงานตกแต่งภายในบ้านสุดประณีต Cameo ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมรดกของโรลส์-รอยซ์ เฉลิมฉลองฝีมือและความสง่างามของแบรนด์ในรูปแบบที่สนุกสนานแต่ซับซ้อน

    การออกแบบ Cameo เป็นการยกย่องรถยนต์เปิดประทุนในช่วงปีแรกๆ ของโรลส์-รอยซ์ โดยประกอบด้วยส่วนประกอบที่ได้รับการออกแบบอย่างเชี่ยวชาญ ออกแบบมาเพื่อให้เจ้าของได้สัมผัสประสบการณ์การประกอบรถยนต์โรลส์-รอยซ์ด้วยตัวเอง

    ตัวโมเดล Cameo ผลิตจากไม้โอ๊คเนื้อแข็งและอลูมิเนียมขัดเงา สะท้อนถึงการตกแต่งแบบทูโทนอันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์โรลส์-รอยซ์ ตัวรถไม้โอ๊คเชื่อมต่อกับแชสซีอลูมิเนียมด้วยแม่เหล็กเพื่อเป็นการยกย่องขั้นตอนการประกอบของโรลส์-รอยซ์ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ตัวรถและระบบส่งกำลังมาบรรจบกัน ภายในของโมเดลนี้พิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติด้วยสี Grace White ซึ่งเป็นสีประจำโรลส์-รอยซ์ และมีฝาครอบล้อแบบปรับระดับอัตโนมัติที่ช่วยให้ตัวอักษรย่อ ‘RR’ ตั้งตรงแม้ว่าล้อจะหมุนก็ตาม นอกจากนี้ ยังมีรูปปั้นคนขับซึ่งนั่งอยู่ในห้องนักบินมาเติมเต็มให้รูปปั้นเสร็จสมบูรณ์

    บทความที่น่าสนใจ

    THOM BROWNE – Holiday 2024  แคมเปญน่ารัก เล่าการผจญภัยในตึกสำนักงาน

    KAWS:HOLIDAY กลับมายุโรปอีกครั้ง นั่งชิลล์บนตึกสำนักงานใหญ่ “Audemars Piguet”

    “Cartier Magical Night” เนรมิตสยามพารากอนให้เป็นดินแดนแห่งความมหัศจรรย์

    LA FÊTE 2024 เพลิดเพลินไปกับฤดูกาลแห่งเทศกาลเฉลิมฉลอง ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากยุโรป

    ในวันที่ 24 และ 25 ธันวาคม ห้องอาหารเลเทส เรซิพี (Latest Recipe) เตรียมนำเสนอบุฟเฟ่ต์อาหารค่ำวันคริสต์มาสอีฟ (Christmas Eve Dinner) และบุฟเฟ่ต์อาหารกลางวันวันคริสต์มาส (Christmas Day Lunch) ด้วยความหลากหลายของอาหารอันแสนประณีตและชวนหลงใหล พร้อมธีมสไตล์ยูโรเปียนอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยมีเมนู “พิซซ่า, พาสต้า แอนด์ มอร์” (“Pizza, Pasta & More”) อันโด่งดังของโรงแรม พร้อมด้วยเมนูประจำเทศกาลอีกมากมาย

    ดื่มด่ำไปกับบุฟเฟ่ต์ดินเนอร์คืนวันส่งท้ายปี (New Year’s Eve Dinner) อันหรูหรา หรือบุฟเฟ่ต์บรันช์วันขึ้นปีใหม่ (New Year’s Day Lunch) อันแสนผ่อนคลาย พร้อมด้วยบุฟเฟ่ต์ “พิซซ่า, พาสต้า แอนด์ มอร์” บวกกับเมนูปีใหม่สุดพิเศษ และขนมหวานประจำเทศกาลพิเศษ อาทิ Gâteau Saint Honoré ช็อกโกแลตพราลีน เค้กริชช็อกโกแลต และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยบุฟเฟ่ต์ราคา 2,119 บาทถ้วนสำหรับผู้ใหญ่ และ 1,000 บาทถ้วนสำหรับเด็ก (อายุ 6 – 11 ปี)

    สำหรับผู้ที่กำลังมองหาของขวัญอันสมบูรณ์แบบสำหรับเพื่อน ๆ ครอบครัว และพันธมิตรทางธุรกิจ ยังมีตัวเลือกของกระเช้าของขวัญคุณภาพสูง โดยสามารถเลือกได้จากกระเช้าเลอ เมอริเดียน กูร์เมต์ ราคา 3,840 บาทสุทธิ (Le Méridien Gourmet Hamper) ซึ่งรวมไว้ด้วยคริสต์มาสแฮมเนื้อนุ่ม หรือคริสต์มาสแฮมหมักกาแฟ ขนาด 2,000 กรัม, ลูกแพร์หมักไวน์แดง, ซอสมัสตาร์ด, เค้กผลไม้คริสต์มาส, คุกกี้คริสต์มาส และสปาร์คกลิ้งไวน์ 1 ขวด

    หรือจะเป็นกระเช้าลาแฟต กูร์เมต์ ราคา 2,840 บาทสุทธิ (La Fête Gourmet Hamper) ซึ่งประกอบด้วย ถั่วพรีเมียมที่เก็บรักษาในน้ำผึ้ง จากดอกไม้ป่า, ขิงผงบ่มน้ำผึ้งดอกไม้ป่า, สมุนไพรบ่มน้ำผึ้งดอกไม้ป่า นอกจากนี้ยังสามารถเลือกสรร ลา แฟต กู้ดดี้ส (La Fête Goodies) ระดับพรีเมียม อาทิ คุกกี้คริสต์มาส, เค้ก, อาหารสำหรับของขวัญ และไวน์ชั้นเลิศ เพื่อเป็นของขวัญประจำเทศกาลได้อีกด้วย

    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และสำรองที่นั่งล่วงหน้า โทร 02 232 8888 หรืออีเม [email protected]

    บทความที่น่าสนใจ

    7 เทรนด์ท่องเที่ยวในปี 2568

    รวมไฮไลต์งานเทศกาลอาหารแห่งปี Hidden Gem Food Festival ครั้งแรกในไทย

    เตรียมฉลองเทศกาลคริสต์มาสสุดพิเศษกับโรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ด้วยวิวพระนครแบบลักชู

    เก็บกระเป๋าไปพักผ่อนสุดหรูที่มัลดีฟส์ เกาะในฝันสวรรค์แห่งการพักผ่อน

    ใกล้วันหยุดยาวสิ้นปีอย่างนี้ มีโปรแกรมไปเที่ยวที่ไหนกันหรือยัง? ถ้ายังเราขอแนะนำ ทริปสุดหรูบนเกาะในฝันอย่างมัลดีฟส์ ซึ่งโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา เครือโรงแรมชั้นนำของประเทศไทย พร้อมมอบข้อเสนอพิเศษช่วงเปิดตัว “เซ็นทารา แกรนด์ ลากูน มัลดีฟส์” ด้วยแพ็กเกจประสบการณ์เข้าพักเหนือชั้น ทั้งสิทธิ์พักฟรี บริการอัปเกรด และตัวเลือกกิจกรรมทางทะเลมากมาย

    เซ็นทารา แกรนด์ ลากูน มัลดีฟส์ พักสุดหรูแห่งใหม่ถูกเนรมิตให้เป็นสวรรค์แห่งการพักผ่อนบนเกาะสวรรค์ในมาเล่ อะทอลล์เหนือ หนึ่งในเกาะในกลุ่มมัลดีฟส์ที่มีความสวยงามอย่างเหนือชั้น ด้วยความสวยงามของธรรมชาติ การต้อนรับแบบไทยผสานเสน่ห์ของมัลดีฟส์ และมาตรฐานการบริการระดับสากล โดยรีสอร์ทโอเอซิสแห่งใหม่นี้มีกำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568

    เซ็นทารา แกรนด์ ลากูน มัลดีฟส์ มีห้องพักขนาดกว้างขว้างให้เลือกสรรทั้งหมด 142 ห้องพัก ทั้งแบบวิลล่าริมหาด และวิลล่าบนน้ำ อีกทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ภายในโรงแรมอย่างครบครัน เพื่อมอบความทรงจำอันน่าประทับใจสำหรับแขกผู้เข้าพักทุกคน และเพื่อเตรียมฉลองการเปิดให้บริการ “เซ็นทารา แกรนด์ ลากูน มัลดีฟส์” เซ็นทารานำเสนอการบริการเหนือระดับภายใต้ข้อเสนอพิเศษช่วงเปิดตัวหลากหลาย อาทิ แชมเปญต้อนรับ ที่ซันเซต โซเชียล บาร์, บริการทรีตเมนท์สปาสำหรับคู่รัก 1 ครั้ง รวมถึงกิจกรรมทางทะเลอันน่าตื่นเต้น

    โดยมีกิจกรรมให้เลือกระหว่างทริปตกปลายามค่ำคืน หรือ ล่องเรือชมโลมาช่วงพระอาทิตย์ตกดิน นอกจากนั้น ยังมอบสิทธิ์พิเศษอื่น ๆ ในช่วงเปิดตัวอีกมากมาย อาทิ เข้าพัก 4 คืน จ่ายเพียง 3 คืน หรือ เข้าพัก 7 คืน จ่ายเพียง 5 คืน และบริการอัปเกรดมื้ออาหารเป็น Half Board Plus (บริการอาหาร 2 มื้อ สำหรับทุกวันที่เข้าพัก) พร้อมสิทธิ์เข้าใช้บริการคลับ ยิ่งไปกว่านั้น สมาชิก CentaraThe1 ยังได้รับส่วนลดเพิ่ม 15% พร้อมคะแนนสะสม x3 สำหรับทุกการเข้าพัก โดยสามารถจองข้อเสนอนี้ได้ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 มีนาคม 2568 สำหรับการเข้าพักตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ถึง 15 ตุลาคม 2568 สามารถสำรองห้องพักภายใต้ข้อเสนอพิเศษช่วงเปิดตัว ได้ที่ https://www.centarahotelsresorts.com/centaragrand/th/cglm/introductoryoffer

    บทความที่น่าสนใจ

    7 เทรนด์ท่องเที่ยวในปี 2568

    9 เมืองท่องเที่ยวในเอเชีย ที่มีที่พักราคาประหยัด ช่วงเทศกาลส่งท้ายปี

    สัมผัสหิมะตกโปรยปราย ลุย 5 พิกัดเที่ยวฤดูหนาวในเมืองไอสึ วากามัตสึ จังหวัดฟุกุชิมะ

    ชวนเที่ยว “พิพิธภัณฑ์ครุฑ” สัมผัสมนต์เสน่ห์ศิลปะไทย ต้นแบบความกตัญญู ความซื่อสัตย์ และความดีงาม

    0

    เทศกาลปีใหม่ เป็นเสมือนประตูบานแรกของการเริ่มต้นที่เต็มไปด้วยความหมาย และการเฉลิมฉลองของทุกคนในครอบครัว ซึ่งการมอบของขวัญ และการเดินทางท่องเที่ยวในสถานที่สำคัญ เพื่อโอบรับสิ่งดี ๆ โดยเฉพาะการนำความเป็นสิริมงคลเข้ามาในชีวิต เป็นหนึ่งในภารกิจที่หลายครอบครัวให้ความสำคัญ

    พิพิธภัณฑ์ครุฑ โดยทีเอ็มบีธนชาต จึงเป็นอีกสถานที่สำคัญที่อยากให้ทุกคนได้มาสัมผัส เพราะเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกและแห่งเดียวในอาเซียน ที่รวบรวมครุฑ มากกว่า 150 องค์ อันมีเอกลักษณ์เฉพาะองค์จากทุกภาคของไทยเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งครุฑแต่ละองค์ถูกแกะสลักอย่างวิจิตรงดงาม สะท้อนถึงความประณีตของศิลปิน พร้อมได้เรียนรู้เรื่องราว ‘พญาครุฑ’ สัญลักษณ์แห่งความกตัญญู ความซื่อสัตย์ และความดีงาม

    โดยพื้นที่จัดแสดงถูกออกแบบอย่างทันสมัยผ่านสื่อแอนิเมชัน และมัลติมีเดียต่างๆ ซึ่งประกอบด้วย 6 โซนได้แก่

    1. โถงต้อนรับ เริ่มต้นผจญภัยกับตำนานพญาครุฑ ด้วยการบอกเล่าถึงประวัติความเป็นมาของพญาครุฑ ผ่านเทคโนโลยีโลกเสมือนจริง หรือ AR
    2. ครุฑพิมาน เรียนรู้กำเนิดโลกและจักรวาล ท่องไปในดินแดนหิมพานต์ และที่อยู่ของพญาครุฑ
    3. นครนาคราช ถิ่นที่อยู่ของพญานาค พร้อมชมเรื่องราวของพี่น้องต่างมารดา
    4. อมตะเจ้าเวหา เรื่องราวความเพียรพยายามของพญาครุฑผ่านแอนิเมชัน แสงสีตระการตา
    5. สุบรรณแห่งองค์ราชัน ตามรอย “ตราพระครุฑพ่าห์” ซึ่งเป็นตัวแทนของพระมหากษัตริย์ที่ยังคงปรากฎเคียงข้างพระองค์เสมอ
    6. ห้องจัดแสดงครุฑ ห้องที่รวบรวมองค์พญาครุฑจากทั่วทุกภาคของประเทศไทย ผ่านตราตั้งห้างพระราชทาน และสัมผัสมนต์เสน่ห์คุณค่าเหนือกาลเวลา

    สำหรับผู้ที่สนใจเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์ครุฑ และสักการะองค์พญาครุฑ เพื่อความเป็นสิริมงคลรับปีใหม่ สามารถเข้าชมได้ทุกวันศุกร์-เสาร์ วันละ 3 รอบ ในเวลา 10:00 / 13:00 และ 15:00 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมบริการผู้นำชม และรถตู้รับ-ส่งจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีเคหะสมุทรปราการ ถึงพิพิธภัณฑ์ครุฑ ฟรีเช่นกัน! เพียงแจ้งความประสงค์ผ่านระบบการจองล่วงหน้าที่ https://www.ttbfoundation.org/th/garudamuseum/

    บทความที่น่าสนใจ

    Bangkok Spring การกลับมาอีกครั้งของศิลปินชาวอิตาเลียน Giacomo Failla

    แวะชมผลงานของ Raku Inoue ศิลปินดอกไม้ญี่ปุ่น ผู้เปลี่ยนเศษใบไม้เป็นงานศิลปะน่ารัก

    Sundae Kids เตรียมจัดนิทรรศการเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี ของการพานพบและพลัดพราก

    เสื้อยืดยูนิโคล่ UT คอลเลกชันลิมิเต็ดสุดกวน SpongeBob SquarePants x Cactus Plant Flea Market

    ยูนิโคล่ ออกคอลเลกชันใหม่ส่งท้ายปี โดยคอลแลปเสื้อยืด UT (UNIQLO T-shirt) ลายพิเศษจากการ์ตูนแอนิเมชันเรื่องดังที่ครองใจผู้คนทั่วโลก สพันจ์บ็อบ สแควร์แพนส์ (SpongeBob SquarePants) ร่วมกับแบรนด์เสื้อผ้าสุดเก๋แห่งยุคอย่าง แคตตัส แพลนท์ ฟลี มาร์เก็ต (Cactus Plant Flea Market) ที่มัดใจแฟนๆ ทั่วโลกผ่านผลงานที่โดดเด่นไม่เหมือนใครอยู่เสมอ ไอเทมในคอลเลกชันประกอบด้วย เสื้อยืด เสื้อฮู้ดดี้ หมวก และตุ๊กตา พร้อมวางจำหน่ายที่ร้านยูนิโคล่ทุกสาขาตั้งแต่วันนี้

    คอลเลกชันนี้โดดเด่นด้วยสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Cactus Plant Flea Market รวมถึงลวดลาย “ดับเบิลวิชัน” ที่นำมาใช้กับ สพันจ์บ็อบ (SpongeBob) แพทริค (Patrick) และตัวละครอื่นๆ จาก SpongeBob SquarePants คอลเลกชันลิมิเต็ดอิดิชันจากความร่วมมือของทั้งสามฝ่ายถือเป็นการเฉลิมฉลองช่วงเวลาคลาสสิกของซีรีส์ที่ทำให้เแฟนๆ ทั่วโลกต่างเข้าใจซึ่งกันและกันผ่านแอนิเมชั่นเรื่องนี้ โดยให้ Cactus Plant Flea Market นำลายเส้นและอารมณ์ขันที่มีเอกลักษณ์มาเปลี่ยนโฉมเหล่าตัวละครของเมือง Bikini Bottom ลงบนเสื้อผ้าแบบต่างๆ

    SpongeBob SquarePants ได้กลายเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่คนหลายรุ่นหลงรัก ซึ่งครั้งนี้ถูกตีความใหม่โดยศิลปินร่วมสมัย ผู้สร้างสรรค์ในวัฒนธรรมป๊อปยุคใหม่อย่าง Cactus Plant Flea Market โดยคอลเลกชัน UT สุดพิเศษนี้ วางจำหน่ายเฉพาะที่ยูนิโคล่เท่านั้น

    บทความที่น่าสนใจ

    Holiday Capsule นิยามใหม่ของแฟชั่นสำหรับไปปาร์ตี้

    CHARLES & KEITH คอนเซ็ปต์สโตร์เจเนอเรชัน 6 แลนด์มาร์กใหม่ One Bangkok

    หล่อทุกองศา! นาย – ณภัทร เสียงสมบุญ Brand Ambassador Lacoste Eyewear 

    Swarovski x Converse Run Star Trainer สนีกเกอร์รุ่นพิเศษสี “Deep Emerald” ราคาสมฐานะ

    เมื่อรองเท้า Converse Run Star Trainer จะอัปเกรดตัวเองให้เป็นสนีกเกอร์ระดับลักชู ก็ต้องจับมือคอลแลบส์กับแบรนด์ระดับ Swarovski เท่านั้นถึงจะไปสุด โดยหลังจากเปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายน รองเท้า Run Star Trainer ก็ได้รับประดับคริสตัลจาก Swarovski มากมาย ซึ่งไม่เพียงแต่หรูหราแต่ยังพิเศษเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่ชื่นชอบ Converse อีกด้วย

    สำหรับความหรูหราแบบใหม่ของ Converse Run Star ได้เดินทางมาถึงสี “Deep Emerald” ซึ่งทันช่วงเทศกาลวันหยุดปลายปีพอดี โดยความร่วมมือนี้ยังคงเพิ่มประกายแวววาวอย่างต่อเนื่อง รูปทรงของรองเท้าได้รับแรงบันดาลใจจากรองเท้า Converse กว่า 20 รุ่นที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก Run Star Trainer ได้รับการแปลงโฉมใหม่ที่หรูหราและมีแผงด้านข้างที่ประดับด้วยคริสตัล Swarovski

    รองเท้ารุ่นนี้ผลิตขึ้นจากหนังกลับคุณภาพพรีเมียมและผ้าซาตินนุ่มลื่นและกำมะหยี่ที่เคลือบด้วยสีเขียวมรกต เพื่อให้ดูหรูหรายิ่งขึ้น โดยจับคู่กับพื้นยาง รายละเอียดที่ประดับประดาช่วยยกระดับให้รองเท้ารุ่นนี้มีกำหนดวางจำหน่ายในสัปดาห์นี้ ทางเว็บไซต์ Converse

    บทความที่น่าสนใจ

    Holiday Capsule นิยามใหม่ของแฟชั่นสำหรับไปปาร์ตี้

    CHARLES & KEITH คอนเซ็ปต์สโตร์เจเนอเรชัน 6 แลนด์มาร์กใหม่ One Bangkok

    หล่อทุกองศา! นาย – ณภัทร เสียงสมบุญ Brand Ambassador Lacoste Eyewear