“ซาปา” เมืองหลังคาโลกแห่งอินโดจีน
สำหรับสายท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติ ชอบการเดินทางแนวภูเขา นาขั้นบันได และสายหมอก น่าจะชอบบทความนี้เป็นพิเศษ เพราะวันนี้เราจะพาทุกท่านไปสัมผัสธรรมชาติอันสวยงามกันที่ประเทศเวียดนามค่ะ เราจะเดินทางไปที่เมือง ซาปา ที่ได้ฉายาว่า เมืองหลังคาโลกแห่งอินโดจีน ฉายานี้ได้มาอย่างไรนั้น ตามมาดูกันค่ะ
เมืองซาปา เป็นเมืองเล็ก ๆ ท่ามกลางหุบเขา ซึ่งอยู่ในเขตจังหวัดลาวไก ประเทศเวียดนาม บริเวณนี้อยู่ไม่ไกลจากชายแดนประเทศจีนมากนัก ที่นี่เป็นที่ตั้งของยอดเขา ฟานซีปัน ซึ่งมีความสูงถึง 3,143 เมตรจากระดับน้ำทะเล ที่นี่จึงได้ชื่อว่าเป็น “หลังคาโลกแห่งอินโดจีน” นั่นเองค่ะ เราจะมาแนะนำสถานที่เที่ยวเด็ด ๆ กันว่ามีที่ไหนที่น่าสนใจบ้าง
ยอดเขาฟานซิปัน (Fansipan)
ด้วยความที่เป็นยอดเขาที่สูงมาก ๆ ด้านบนเขาแห่งนี้มีทิวทัศน์ที่สวยงามสุดจะบรรยาย ใครที่มาเที่ยวเวียดนาม ก็หวังว่าซักครั้งจะมาพิชิตยอดเขาแห่งนี้ให้จงได้ การขึ้นไปยังยอดเขาฟานซีปันนั้นทำได้ 2 วิธี
1.ก็คือการเดินเท้าขึ้นไป วิธีนี้เหมาะสำหรับสายลุยนะคะ ต้องฟิตร่างกายเตียมตัวให้พร้อม จะได้การชมธรรมชาติแบบใกล้ชิด
2.นั่งกระเช้าขึ้นไป สามารถซื้อตั๋วขึ้นกระเช้าล่วงหน้าได้ที่นี่ คลิก หรือไปซื้อก่อนขึ้นก็ได้ค่ะ ค่าตั๋วนั่งกระเช้าจะอยู่ที่ 750,000 VND(ไป-กลับ) ระยะทางในการนั่งประมาณ 6 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีค่ะ เป็นการชมวิวแบบ 360 องศา เห็นธรรมชาติในมุมสูง และเมื่อมาถึงที่ลงกระเช้าก็จะต้องเดินขึ้นบันไดต่อไปอีกประมาณร้อยกว่าขั้นค่ะ ก็จะถึงจุดชมวิวตรงพีระมิด ซึ่งถือว่าเราเป็นผู้พิชิตยอดเขาฟานซีปันแล้ว
ยอดเขาฮัมรอง (Hamrong)
เขาแห่งนี้เป็นเขาที่ไม่ได้สูงมากนัก อยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมืองซาปา ตลอดเส้นทางเดินในช่วงแรกจะมีความสวยงามของดอกไม้ และสวนต้นไม้ต่าง ๆ ให้ได้ชื่นชม และหากเดินขึ้นไปถึงจุดชมวิวสูงสุดก็จะให้เห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองซาปาทั้งเมือง เป็นภาพหลากสีสันที่สวยงามมาก ๆ เช่นกันค่ะ ถึงแม้ที่นี่จะไม่สูงมากนักแต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินนะคะ
หมู่บ้านกั๊ต กั๊ต(Cat Cat Village)
เป็นอีกหนึ่งจุดไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้เลยถ้ามาถึงซาปาแล้ว นั่นก็คือการมาเดินเล่นที่หมู่บ้านชาวม้งดำแห่งนี้ กิจกรรมที่ทำกันเวลาไปเยี่ยมชมหมู่บ้านก็คือ การเดินไปชมน้ำตกกั๊ต กั๊ต ชมการแสดงพื้นบ้านของชาวม้ง ดูกังหันน้ำขนาดยักษ์ เดินเล่นชมวิวในหมู่บ้าน ใส่ชุดม้งนั่งจบไวน์และทานอาหารพื้นเมือง นอกจากนี้ที่มียังมีจุดชมวิวนาขั้นบันไดที่ถือเป็นแลนด์มาร์คอีกอย่างหนึ่งของการมาเที่ยวซาปาด้วยค่ะ หากอยากมาดูนาขั้นบันไดจะต้องมาในช่วงเดือน มิถุนายน-ตุลาคมค่ะ หมู่บ้าน กั๊ต กั๊ต นี้ อยู่ห่างจากเมืองซาปาไปประมาณ 3 กิโลเมตรค่ะ สามารถเดินทางไปได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการนั่งรถแท็กซี่ หรือเช่ามอเตอร์ไซต์ขับชมวิวไปเรื่อย ๆ ก็ได้เช่นกัน การเข้าชมหมู่บ้านมีค่าเข้า ผู้ใหญ่: 70,000 ดองต่อคน / เด็ก: 30,000 ดองต่อคน
น้ำตกสีเงิน (Silver Water Fall)
เป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดในซาปา ไหลลงมาจากยอดเขาฟานซีปัน เป็นน้ำตกสายแคบ ๆ ที่ไหลตามหน้าผาลงมา มีความสูงประมาณ 100 เมตร เราสามารถเดินลัดเลาะตามทางเดินที่สร้างเอาไว้ให้เพื่อถ่ายรูปตามจุดต่าง ๆ ได้ บริเวณประมาณกลางน้ำตก จะมีศาลาสวย ๆ เอาไว้ให้ได้นั่งพัก หรือยืนชมน้ำตกแบบใกล้ชิด เดินต่อขึ้นไปอีกนิดบริเวณเกือบสุดจุดด้านบนของน้ำตก จะมีสะพานที่พาดผ่านสายน้ำตก จุดนี้เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันค่ะ หรือหากใครไม่อยากเดินก็สามารถถ่ายรูปจากด้านล่างได้เช่นกัน ตัวน้ำตกนั้นอยู่ไม่ไกลจากจุดจอดรถค่ะ
โบสถ์หินแห่งเมืองซาปา (Sapa Stone Church)
เป็นสัญลักษณ์ของเมืองซาปาค่ะ ใครมาที่นี่ก็ต้องมาถ่ายรูปกับโบสถแห่งนี้เอาไว้เป็นที่ระลึก โบสถ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1895 โดยชาวฝรั่งเศสที่อาศัยอยู่ที่เมืองนี้ เพื่อใช้ในการเข้าร่วมพิธีมิสซาวันทุกสุดสัปดาห์
เดินเล่นชมเมืองช่วงค่ำคืน
ที่เมืองซาปานั้นไม่ได้มีแค่ความสวยงามจากธรรมชาติในช่วงเวลากลางวันเท่านั้น แต่เมืองนี้ยังมีสีสันและความครึกครื้นในช่วงเวลากลางคืนอีกด้วย การออกมาเดินเล่นในเมืองยามค่ำคืนก็เป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน ในเมืองจะมีร้านอาหารแบบปิ้งย่างให้ได้นั่งทานกัน จิบเครื่องดื่มเย็น ๆ กับปิ้งย่างร้อน ๆ นอกจากนี้ยังมีตลาดกลางคืนให้ได้เดินเล่นและเลือกซื้อของฝากกันอีกด้วย
การเดินทาง
เริ่มต้นที่เมืองฮานอย มีการเดินทางทั้งหมด 2 วิธีค่ะ
โดยรถบัส วิธีนี้ง่ายและสะดวกสบายที่สุด โดยรถจะวิ่งตรงมาที่เมืองซาปาเลยค่ะ มีให้เลือกหลายบริษัท ใช้เวลาเดินทาง 6-7 ชั่วโมง โดยปกติจะมีรอบเดินทางให้บริการอยู่ 3 รอบค่ะ คือรอบเช้า รอบบ่าย และรอบกลางคืน ค่าโดยสารอยู่ที่ 250,000-450,000 VND รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
โดยรถไฟ วิธีนีจะต้องเดินทาง 2 ต่อนะคะ เริ่มต้นนั่งรถไฟที่เมืองฮานอย มาลงที่เมืองลาวไกใช้เวลาเดินทางประมาณ 7-8 ชั่วโมง จากนั้นต้องต่อรถท้องถิ่นจากลาวไก ไปที่ซาปาอีกทีค่ะ
มหัศจรรย์แห่งผืนน้ำ”ฮาลองเบย์” มรดกโลกทางธรรมชาติที่เวียดนาม คลิก