รีวิวขึ้นภูกระดึง 2 วัน 1 คืน แบบละเอียดยิบ!! ตอนที่ 2 เริ่มเดินทาง
สำหรับตอนนี้นะคะ เราจะมาเริ่มการเดินทางไป ภูกระดึง กันค่ะ เราจองรถทัวร์ของบริษัทแอร์เมืองเลยเอาไว้ เวลา 20.00 น. นะคะ ซึ่งเราเลิกงานปุ๊ป ก็กลับไปเอาของ และต่อแทคซี่ไปยังขนส่งหมอชิต 2 (จตุจักร) ค่ะ เมื่อไปถึงทางเข้าชั้น 1 ก็เอาสัมภาระผ่านเครื่องแสกน วัดอุณหภูมิเรียบร้อย ก็เดินขึ้นลิฟท์ไปที่ ชั้น 3 เคาเตอร์ของบริษัทแอร์เมืองเลยคือ เคาเตอร์หมายเลข 6 และ 7 ค่ะ พอไปถึงเราก็นำหลักฐานการจองที่แคปเอาไว้ในมือถือ ยื่นให้เจ้าหน้าที่ดู แล้วเจ้าหน้าที่ก็จะออกตั๋วมาให้ค่ะ เราจองไปทั้งหมด 3 ที่นั่ง แต่ตั๋วที่ได้จะมีแค่ใบเดียวนะคะ โดยในตั๋วใบนี้จะระบุ ที่นั่งที่เราได้เลือกไว้ตั้งแต่ตอนจอง เบอร์รถ และชานชาลาที่รถมาจอดค่ะ
เมื่อได้ตั๋วรถเรียบร้อยแล้ว เราก็ไปหาของทานกันก่อนขึ้นรถนะคะ เพราะบนรถตอนนี้จะไม่อนุญาตให้ทานอาหาร เนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 ค่ะ บริเวณชั้นนี้จะมีร้านสะดวกซื้อ และห้องน้ำให้ล้างหน้า แปรงฟัน เมื่อเราจัดการธุระส่วนตัวเรียบร้อย ก็เดินไปที่ชานชาลากันค่ะ แนะนำว่าให้ไปถึงก่อนเวลาซัก 10-15 นาทีนะคะ เมื่อไปถึงรถแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะถามว่าเราจะลงที่ไหน เพราะเค้าจะเอาสัมภาระเก็บไว้ให้ที่ใต้ท้องรถค่ะ เก็บสัมภาระเรียบร้อย ก็ขึ้นรถเตรียมเดินทางกันค่ะ
รถของแอร์เมืองเลยคันนี้ เราจองมาเป็นรถแบบ VIP 32 ที่นั่ง เบาะกว้าง นั่งสบาย มีที่วางเท้า และที่ชาร์จแบตมือถือแบบ USB เมื่อขึ้นรถไปจะมีผ้าห่ม และน้ำดื่มให้คนละ 1 ขวดค่ะ ที่สำคัญแอร์เย็นมากกกก ใครขี้หนาว แนะนำเอาผ้าห่มส่วนตัวไปอีกผืน และเตรียมหมอนรองคอไปด้วยค่ะ
รถออกตรงเวลาเป๊ะ และแวะพักแค่ 1 ครั้งนะคะ โดยรถไปแวะพักที่จุดจอดที่เป็นออฟฟิสของแอร์เมืองเลย ที่จังหวัดชัยภูมิ ตอนเวลา 01.00 น. ซึ่งที่นั่นจะเงียบ ไม่มีอาหารอะไรขายเลยนะคะ แค่แวะให้เข้าห้องน้ำเท่านั้น แล้วเดินทางต่อค่ะ ประมาณ ตี 3 กว่า ๆ พนักงานก็ประกาศว่า มาถึงจุดจอดผานกเค้าแล้ว เราก็เตรียมเก็บสัมภาระ ลงจากรถกันค่ะ
เมื่อลงรถแล้ว ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม จะเป็นร้านเจ๊กิมนะคะ ที่นี่จะเป็นจุดพักที่ค่อนข้างสะดวกสบายเลยค่ะ มีบริการอาหาร เครื่องดื่ม ของใช้ ที่นั่งพัก หรือจะนอนพักก็ได้ มีห้องสุขาและห้องสำหรับอาบน้ำให้อีกด้วย ที่สำคัญสะอาดมาก ๆ ค่ะ เมื่อมาถึงแล้ว ใครอยากนอนพัก ให้เดินทะลุจุดขายของเข้าไปทางด้านหลังร้านเลยนะคะ จะมีโซนห้องน้ำ และโต๊ะ กับเสื่อให้สำหรับนั่งหรือนอนพักได้
เรารอเวลาจนถึงประมาณตี 5 ก็ขึ้นรถ 2 แถวที่หน้าร้านเจ๊กิมไปที่อุทยานแห่งชาติ ภูกระดึง กันค่ะ จากจุดนี้ไปที่ทำการอุทยานฯ ระยะทาง 11 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15-20 นาทีค่ะ โดยค่ารถจะอยู่ที่คันละ 300 บาท นั่งได้ 10 คน สามารถรอจอยกับเพื่อน ๆ ท่านอื่นได้นะคะ หรือถ้ารีบไปก็สามารถเหมาคันไปได้เลยค่ะ ก่อนเดินทางคนขับแจ้งเราว่า เมื่อถึงทางเข้าอุทยาน ให้เราเอาสัมภาระไว้ยนรถ และลงไปซื้อตั๋วค่ะ เมื่อได้ตั๋วเรียบร้อยก็กลับขึ้นมานั่งรถ แล้วเข้าไปด้านในกันต่อ การซื้อตั๋วที่นี่ก็ง่ายมาก ๆ ค่ะ เพราะเครื่องซื้อตั๋วเป็นแบบอัตโนมัติ กดตามที่ระบบแจ้ง และจ่ายตังได้เลยค่ะ
เรามาถึงที่ทำการอุทยานตอนประมาณ 05.30 น. ค่ะ วันนั้นเป็นวันศุกร์ ขอบอกว่า คนเยอะมาก ๆ เลยค่ะ เข้าไปตรงจุดนี้จะ งง มาก ๆ เลย เราจะมาอธิบายให้ฟังนะคะ ว่าต้องทำอะไรบ้าง
ตรวจเอกสารการฉีดวัคซีน
สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน
-ต้องมีผลตรวจ RT-PCR หรือ ATK ไม่เกิน 72 ชั่วโมง หรือสามารถซื้อชุดตรวจ หรือเตรียมชุดตรวจไปตรวจต่อหน้าเจ้าหน้าที่ได้ค่ะ
สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้ว
-ยื่นเอกสารการรับวัคซีน หากฉีดครบ 2 เข็มแล้วไม่มีปัญหาค่ะ แต่ถ้าฉัชีดเข็มเดียวจะต้องเป็นวัคซีน Astra Zenaca และต้องฉีดมาแล้วไม่ต่ำกว่า 14 วันค่ะ (แสดงหลักฐานการรับวัคซีนจากแอพหมอพร้อมได้ค่ะ) รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
เมื่อตรวจเช็คกันเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ก็จะให้บัตรสีเขียวอ่อน PASS COVID-19 TEST ที่มีหมายเลขมาค่ะ เก็บตัวนี้ไว้แสดงตรงก่อนทางขึ้นอีกครั้งนะคะ
ลงทะเบียนขึ้นภูกระดึง
ไม่ว่าจะได้จองคิวขึ้นภูกระดึงในแอพ QueQ มาหรือจะ Walk-In ก็จะต้องมาเช็คและเซ็นต์ชื่อของตัวเองที่จุดนี้ค่ะ
ติดต่อเรื่องที่พักและอุปกรณ์การนอน
หากใครเช่าที่พักของอุทยาน ไม่ว่าจะเป็นบ้านพัก เต็นท์ เครื่องนอน จะต้องเอาเอกสารมาแสดงที่จุดนี้ค่ะ แล้วทางเจ้าหน้าที่จะปริ้นเอกสารใบใหม่ให้ เพื่อนำขึ้นไปรับอุปกรณ์ทางด้านบนอีกที หรือหากใครจะเช่าเต็นท์ของเอกชน หรือนำเต็นท์มาเอง ก็จะต้องมาชำระค่าเช่าพื้นที่กางเต็นท์ตรงจุดนี้เช่นกันค่ะ (ค่าเช่าพื้นที่กาง 30 บาท/เต็นท์)
ทำประกัน
แนะนำว่าให้ทำประกันเอาไว้นะคะ โดยจะมีจุดบริการอยู่ ค่าประกันคนละ 10 บาทค่ะ เผื่อฉุกเฉิน
ลูกหาบ
เมื่อจัดการตรงนี้เรียบร้อยแล้ว ให้เดินต่อไปทางด้านหลังจุดบริการนะคะ บริเวณอาคารหมายเลข 4 จะเป็นจุดรับ-ส่งสัมภาระ ทางจะมืด ๆ ซักหน่อย ไม่ต้องกลัวค่ะ ไปถูกทางแน่นอน แต่ก่อนจะเอาสัมภาระไปวางต่อคิว ให้หันมาฝั่งตรงข้ามก่อนนะคะ จะมีจุดขายบัตรติดสัมภาระ ให้ซื้อบัตรที่นี่ให้เรียบร้อย ราคาใบละ 5 บาท เขียนชื่อ-นามสกุล เบอร์โทร กำกับเอาไว้ แล้วนำไปผูกกระเป๋าค่ะ หากมาในกลุ่มเดียวกัน แนะนำให้ใช้ชื่อเดียวกันเลยค่ะ เราะเค้าจะได้นำขึ้นไปกับลูกหาบคนเดียวกันนะคะ บัตรผูกกระเป๋านี้ จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ให้เขียนชื่อให้ครบทั้ง 3 ส่วนนะคะ เมื่อเขียนเรียบร้อย เจ้าหน้าที่จะนำสัมภาระเราไปชั่งน้ำหนัก และให้หางบัตรเราเอาไว้ เพื่อใช้ตอนมารับของ การจ่ายเงินให้จ่ายกับลูกหาบโดยตรง ตอนที่ไปรับสัมภาระด้านบนเรียบร้อยแล้วค่ะ ค่าบริการลูกหาบ 30 บาทต่อกิโลกรัมค่ะ
เมื่อเสร็จจากตรงจุดนี้แล้วก็ถึงเวลาที่เราจะเดินขึ้นภูกระดึงกันแล้วค่ะ ในตอนหน้าเราจะพาทุกคนไปชมความสนุกสนาน และความเหนื่อย ในการเดินขึ้นกันนะคะ โปรดติดตามค่ะ
รีวิวขึ้นภูกระดึง 2 วัน 1 คืน แบบละเอียดยิบ!! ตอนที่ 1 ก่อนการเดินทางต้องจองอะไรบ้าง? คลิก