10 เมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก 2023
Mercer บริษัทที่ปรึกษาด้านทรัพยากรมนุษย์ระดับโลก ได้ทำการจัดอันดับ เมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก ประจำปี 2023 การจัดอันดับจะครอบคลุมทั้งหมด 227 ประเทศจาก 5 ทวีปทั่วโลก โดยมีการเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายด้านต่าง ๆ มากกว่า 200 ด้านในแต่ละเมือง ไม่ว่าจะเป็นค่าที่พักอาศัย ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าเสื้อผ้า และข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการหาความบันเทิง เช่น ค่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น
สำหรับ 10 เมืองแรกที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกสำหรับแรงงานต่างชาติในปีนี้ มีดังนี้
- ฮ่องกง
- สิงคโปร์
- ซูริค (สวิสเซอร์แลนด์)
- เจนีวา (สวิสเซอร์แลนด์)
- บาเซล (สวิสเซอร์แลนด์)
- นิวยอร์ก (สหรัฐอเมริกา)
- เบิร์น (สวิสเซอร์แลนด์)
- เทลอาวีฟ (อิสราเอล)
- โคเปนเฮเกน (เดนมาร์ก)
- แนสซอ (บาฮามาส)
ยกตัวอย่างค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในฮ่องกง
ค่าอาหารต่อมื้อสำหรับอาหารจานเดียวประมาณ 60-80 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 270-360 บาท)
กาแฟ 1 แก้ว ราคาประมาณ 30-50 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 135-225 บาท)
ค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินเฉลี่ยอยู่ที่ 5 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 22 บาท) สำหรับระยะทาง 5 กิโลเมตร
ค่าโดยสารรถแท็กซี่เริ่มต้นที่ 22 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 99 บาท)
น้ำมันเชื้อเพลิงลิตรละ 22 ฮ่องกงดอลลาร์ (ประมาณ 99 บาท)
ค่าเช่าอพาร์ทเม้นท์ 1 ห้องนอนใจกลางเมืองรายเดือนอยู่ที่ 18,066.67 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 81,297 บาท)
แต่ถึงแม้จะเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน แต่ฮ่องกงเองก็เป็นเมืองที่ประชากรมีคุณภาพชีวิตที่ค่อนข้างดี เพราะมีสวัสดิการที่ดี จากการจัดอันดับของ Quality of Living ฮ่องกงอยู่ในอันดับที่ 78 ส่วนสิงคโปร์และซูริคอยู่ในอันดับ 33 และอันดับ 2 ตามลำดับ
โดยทั่วไปแล้ว ชนชั้นกลางชาวฮ่องกงจะได้เงินเดือนราว 18,000 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 81,000 บาท ใครที่อยากไปทำงานที่ฮ่องกง ลองคำนวนกันดูว่าเงินเดือนเท่านี้ หากไปทำงานที่ฮ่องกง จะพอค่าใช้จ่าย และเหลือเก็บมากกว่าทำงานที่ไทยหรือไม่
_____
ติดตาม Inzpy ได้ที่
Website:
https://inzpy.com/travel/
Youtube:
https://www.youtube.com/c/Inzpy
Facebook:
https://www.facebook.com/inzpyth