More

    เอาใจช่างภาพสายไฮบริด แคนนอน เสริมทัพเลนส์ RF 4 รุ่นใหม่ ยกระดับงานวิดีโอสวยสมจริงแบบซีเนมาติก

    ตอบรับเสียงเรียกร้องของช่างภาพสายไฮบริดและคอนเทนต์ครีเอเตอร์รุ่นใหม่ที่ต้องการยกระดับงานถ่ายวิดีโอไปอีกขั้น แคนนอน (CANON) นำเสนอเลนส์ RF 4 รุ่นใหม่ทั้ง RF50mm f/1.4L VCM และ RF24mm f/1.4L VCM เลนส์ไพรม์แบบฟิกซ์โฟกัสพร้อมรูรับแสงกว้างสุด ช่วยให้ช่างภาพแยกวัตถุจากพื้นหลังและสร้างมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ของความยาวโฟกัสแต่ละช่วงได้มากขึ้น พร้อมดวงโบเก้ที่สวยงามและความชัดตื้นที่โดดเด่นแบบซีเนมาติก; RF70-200mm f/2.8L IS USM Z เติมเต็มเลนส์ซูมเทเลโฟโต้ระยะคลาสสิก พร้อมรูรับแสงกว้าง ยกระดับการถ่ายภาพและวิดีโอของวัตถุที่อยู่ไกล เช่นในการถ่ายเกมกีฬา ข่าว และกิจกรรมกลางแจ้ง นอกจากนี้ เพื่อตอบโจทย์การสร้างสรรค์คอนเทนต์ยุคใหม่ที่กำลังก้าวไปสู่โลกเสมือนจริง (Virtual Reality) แคนนอนยังเสริมทัพด้วย S7.8mm f/4 STM Dual สำหรับกล้อง EOS R7 เพื่อการถ่ายวิดีโอ VR อันน่าทึ่ง ร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่ในโลก 3D และตอบโจทย์การสร้างสรรค์ผลงานยุคใหม่ที่ต้องการคอนเทนต์ที่มีคุณภาพและความหลากหลายมากยิ่งขึ้น

    RF50mm f/1.4L VCM และ RF24mm f/1.4L VCM – เลนส์ไพรม์ f/1.4 เพื่องานระดับซีเนมาติกที่ยอดเยี่ยมแบบไฮบริด 2 รุ่นใหม่สำหรับงานถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ เพื่อเติมเต็มระยะโฟกัสที่ช่างภาพต้องการและใช้งานร่วมกับเลนส์ RF35mm f/1.4L VCM ที่ออกมาก่อนหน้านี้ได้อย่างราบรื่น โดย RF24mm f/1.4L VCM เป็นเลนส์มุมกว้างพิเศษเพื่อการขยายมุมมองกว้างกว่าที่ตาเห็น เสริมให้ฉากดูโดดเด่นและมีชีวิตชีวามากขึ้น ในขณะที่เลนส์ RF50mm f/1.4L VCM เป็นมุมมองมาตรฐานที่ใกล้เคียงกับตามนุษย์ ทำให้ภาพดูสมจริง โดยเลนส์ทั้ง 2 รุ่นใหม่มีบอดี้น้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด แต่ให้รูรับแสงกว้างสุดที่ f/1.4 เพื่อสร้างโฟกัสชัดตื้น (โบเก้) ที่สวยงามแบบซีเนมาติก เอื้อให้ช่างภาพสามารถสร้างมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์จากความยาวโฟกัสยอดนิยมทั้ง 24, 35 และ 50mm

    RF70-200mm f/2.8L IS USM Z: เลนส์ซูมเทเลโฟโต้ระยะคลาสสิกรุ่นอัปเกรดสำหรับงานวิดีโอ

    เสริมทัพเลนส์ซูม RF24-105mm f/2.8L IS USM Z ที่ออกมาก่อนหน้า ด้วยช่วงโฟกัสเทเลโฟโต้ยาวขึ้นที่ 70-200mm เพื่องานถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอคุณภาพสูง ทั้งการถ่ายเกมกีฬา รายงานข่าว และกิจกรรมนอกสถานที่ โดยเลนส์ RF70-200mm f/2.8L IS USM Z มีบอดี้ยาวคงที่และระบบโฟกัสภายในที่รักษาจุดศูนย์ถ่วงเดิมในระหว่างการซูมทุกระยะ จึงง่ายต่อการใช้งานร่วมกับกิมบอลหรือเคส อีกทั้งการใช้เมาท์ RF ยังช่วยให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีน้ำหนักเบากว่าเลนส์ EF70-200mm f/2.8L IS III USM ประมาณ 25% นอกจากนี้ ด้วยรูรับแสงกว้าง ทำให้ช่างภาพถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอได้อย่างคมชัดในสภาพแสงน้อย โดยยังมีโหมดป้องกันภาพสั่นไหว (IS) ทั้ง 3 โหมดเช่นเดียวกับใน RF24-105mm f/2.8L IS USM Z ช่างภาพจึงสามารถนำ RF70-200mm f/2.8L IS USM Z มาใช้งานเสริมหรือทดแทนกับเลนส์ RF24-105mm f/2.8L IS USM Z ได้อย่างง่ายดายเพื่อช่วยยกระดับการทำงานให้ครอบคลุมมากขึ้น

    RF-S7.8mm f/4 STM Dual: สร้างภาพถ่ายและวิดีโอ 3D คุณภาพสูงพร้อมมิติความลึกสมจริง

    เลนส์รุ่นใหม่ในกลุ่ม EOS VR System สำหรับกล้อง EOS R7 ช่วยให้ผู้ใช้มือโปรสามารถถ่ายวิดีโอ VR อันน่าทึ่งเพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ผ่านการสร้างภาพ VR 180° ที่พาผู้ชมเข้าสู่โลกเสมือนจริง โดยเลนส์แต่ละตัวมีมุมมอง 63° เหมือนกับเลนส์ 35 มม. พร้อมระบบออโต้โฟกัสที่ทำงานเหมือนกับเลนส์ทั่วไป การบันทึกภาพจะเป็นแบบพารัลแลกซ์จากเลนส์แต่ละตัวลงบนเซ็นเซอร์ของกล้อง และจากนั้นผู้ใช้สามารถแปลงข้อมูลด้วยซอฟต์แวร์ EOS VR Utility หรือ Adobe Premiere Pro ผ่านปลั๊กอิน EOS VR หลังจากนั้นยังสามารถแก้ไขและส่งออกภาพนิ่งหรือวิดีโอในฟอร์แมตที่ต้องการได้ โดยรองรับฟอร์แมต MV-HEVC Spatial ที่รับชมได้ใน Apple Vision Pro, VR 180° และ 3D SBS

    เมื่อติดตั้งเลนส์ RF-S7.8mm f/4 STM Dual เข้ากับกล้อง EOS R7 จะมีน้ำหนัรวมเพียง 743 กรัม (พร้อมการ์ดและแบตเตอรี่) หากถ่ายวิดีโอกลางแสงแดดจ้า ยังสามารถติดตั้งฟิลเตอร์ ND แบบวงกลมขนาด 58 มม. หรือฟิลเตอร์ต่างๆ เพื่อปรับแต่งการถ่ายวิดีโอได้

    บทความที่น่าสนใจ

    ‘CASETiFY Studio centralwOrd’ ร้านใหม่ใหญ่ที่สุดในไทย

    สายแท็งก์ตัวจริง! “realme C75” สมาร์ตโฟนสุดแกร่งแห่งปี ทนน้ำ ทนกระแทกขั้นสุด

    “LIGHTFOOT” สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ที่มาพร้อมแผงโซลาร์เซลล์ และช่องเก็บของขนาดใหญ่

    Related Post