Rado แบรนด์นาฬิกาหรูสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ที่พี่น้องตระกูล Schlup ร่วมกันสร้างขึ้นมาตั้งแต่ค.ศ.1917 ได้ฤกษ์เปิดบูติกสโตร์แห่งแรกในประเทศไทยแล้ว ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงใหม่ พร้อมเปิดตัวนาฬิกาไอคอนิกอย่าง “Rado Anatom” ซึ่งนอกจากจะดีไซน์พิเศษแล้ว ในเมืองไทยยังจะมีวางขายแค่ในบูติกแห่งนี้เท่านั้น ขณะเดียวกันก็ยังมีนาฬิกา Rado กว่า 250 รุ่น รวมถึงคอลเลกชัน Festive 2024 ให้ทุกคนได้มาเลือกเป็นของขวัญให้ทั้งตัวเองและคนรอบข้างในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองส่งท้ายปี
บูติกของ Rado แห่งแรกในเมืองไทย ตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 เซ็นทรัลเชียงใหม่ บนพื้นที่ 75 ตารางเมตร เป็นบูติกที่ออกแบบมาในสไตล์เรียบหรู สวยสง่า และโปร่งสบายตา สะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์ในทุกรายละเอียด เช่นการใช้สีบรอนซ์โทนอุ่นบริเวณประตู ใช้พื้นผิวแวววาวและลายเส้นที่ดูเรียบง่าย ขณะเดียวกันก็มีผนังส่วนที่เป็นอินเตอร์แอ็กทีฟให้ทุกคนได้ทำความรู้จักและสัมผัสวัสดุซิกเนเจอร์ของแบรนด์อย่าง “ไฮเทคเซรามิก” ปิดท้ายด้วยโซนด้านหลังที่แบรนด์จัดเป็นเลานจ์ไว้รองรับลูกค้า
หนึ่งในความพิเศษของบูติก Rado แห่งแรกในไทยคือ การวางขาย “Anatom” นาฬิกาที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1983 และกลายเป็นหนึ่งในรุ่นไอคอนิกของแบรนด์ โดย Anatom เรือนพิเศษนี้เป็นรุ่น R10204712 ดีไซน์สวยสะดุดตาด้วยการใช้คริสตัลแซฟไฟร์เคลือบโลหะทำมุมเอียงเชื่อมเข้ากับสายนาฬิกาไฮเทคเซรามิกอย่างแนบเนียน ซึ่งบริเวณข้อต่อสายนาฬิกาประดับเพชรฟูลคัต Top Wesselton ถึง 162 เม็ด ส่วนหน้าปัดใช้การเคลือบแลกเกอร์สีดำ แล้วใช้เพชรฟูลคัต Top Wesselton วางในตำแหน่ง 3 9 และ 12 นาฬิกา พร้อมหน้าต่างบอกวันที่ บริเวณ 6 นาฬิกา ตัวเข็มนาฬิกาเคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova ® สีขาว ด้านในใช้กลไกออโตเมติก R766 ที่มองเห็นได้ผ่านทางฝาหลังคริสตัลแซฟไฟร์ มีแฮร์สปริง Nivachron™ เป็นตัวช่วยเรื่องความแม่นยำ สำรองพลังงานได้ถึง 72 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ภายในบูติกยังมีนาฬิกา Rado อีกกว่า 250 รุ่น รวมถึงคอลเลกชัน Festive 2024 อีก 3 เรือน ได้แก่ Captain Cook เรือนล่าสุดที่มาในสไตล์สปอร์ตสีดำด้าน ขอบหน้าปัดกับเม็ดมะยมทำจากสแตนเลสสีโรสโกลด์ชุบ PVD ตัวกระจกหน้าปัดใช้คริสตัลแซฟไฟร์เผยให้เห็นหน้าปัดเปลือยสีรมควันและกลไก R808 ขัดลาย Côtes-de-Genève ส่วนเรือนที่สองคือ True Square Open Heart โทนสีขาวเหมาะกับช่วงเวลาแห่งเฉลิมฉลอง ตัวเรือนและสายนาฬิกาทำจากไฮเทคเซรามิก หล่อขึ้นรูปเป็นทรงสี่เหลี่ยมโค้งมน หน้าปัดแบบโอเพ่นฮาร์ตทำให้เห็นกลไกคาลิเบอร์ R734 ด้านใน และการสร้างสรรค์ขัดลาย Côtes-de-Genève พร้อมพื้นผิวประดับมุก
และเรือนสุดท้ายคือ Centrix Open Heart Super Jubilé ซึ่งดีไซน์ด้านหน้าให้เป็นเหมือนสะพานโค้งเชื่อมวันเวลาแห่งความสุข ประดับเพชร Top Wesselton ฟูลคัตไว้ 86 เม็ด และยังมีเพชรอีก 12 บนแทนตัวเลขทั้งหมดบนหน้าปัด ตัวเรือน Centrix Open Heart Super Jubilé ทำจากสแตนเลสเคลือบ PVD สีโรสโกลด์ หน้าปัดใช้เปลือกหอยมุกสีน้ำตาลเข้ม ครึ่งบนของหน้าปัดหรือบริเวณท้องฟ้าเหนือสะพานเป็นคริสตัลแซฟไฟร์ที่เปิดให้มองเห็นกลไกการเดินออโตเมติก R734 ซึ่งมาพร้อมแฮร์สปริง Nivachron TM ส่วนสายนาฬิกามาใช้ทั้งไฮเทคเซรามิกสีน้ำตาลเฉดเดียวกับหน้าปัด ส่วนตรงขอบและข้อต่อใช้สแตนเลสเคลือบ PVD สีโรสโกลด์
สัมผัสมนตร์วิเศษของนาฬิกา Rado กันได้ที่ Rado บูติกแห่งแรกในประเทศไทย ชั้น 1 เซ็นทรัลเชียงใหม่ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร.02-610-0284
บทความที่น่าสนใจ
Girard-Perregaux Casquette 2.0 Titanium and Gold การกลับมาของดีไซน์ยุค 70s
BE@RBRICK AUDIO Color Block ลำโพงบลูทูธพกพารูปหมีแบร์บริคสุดเก๋
ทำความรู้จัก To’ak ช็อกโกแลตที่แพงที่สุดในโลกจากเอกวาดอร์ เริ่มต้น 50 กรัม ราคา 490 ดอลลาร์