Balenciaga Fall 2022 “The Lost Tape” สื่อสารข้อความจากอดีตผ่านคอลเลกชั่น
ทุกครั้งที่มีการเปิดตัวคอลเลกชั่นใหม่ของแบรนด์อย่าง Balenciaga ก็มักจะมีไอเทมและเสื้อผ้าให้เราได้ตื่นตาตื่นใจ ที่แฝงไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจเหนือจินตนาการ ที่มีความแปลกใหม่ออกมาให้เราได้ตื่นเต้นได้ว้าวอยู่เสมอทุกครั้งไป โดยในคอลเลกชั่นล่าสุดนี้ก็ไม่ทำให้เหล่าสาวกต้องผิดหวัง
Balenciaga แบรนด์หรูระดับโลกสัญชาติสเปนพึ่งทำการเปิดตัวเผยโฉมคอลเลกชั่นฤดูใบไม้ร่วงประจำปี 2022 (Fall 2022) ที่มาในคอนเซ็ปต์และรูปแบบของแรงบันดาลใจที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ “The Lost Tape” ที่ “Demna Gvasalia” ดีไซเนอร์และครีเอทีฟไดเรกเตอร์หัวเรือใหญ่ของแบรนด์ต้องการถ่ายทอดข้อความจากอดีตเกี่ยวกับสิ่งที่อาจจะเป็นไปได้และสิ่งที่ไม่เคยได้เป็นมาก่อน
เปรียบเสมือนการชวนให้รำลึกหวนคิดถึงช่วงเวลาที่การออกแบบเสื้อผ้ามีชีวิตชีวาด้วยแนวคิดตั้งต้นแบบดิบ ๆ ในยุคสมัยที่เราได้ผ่านพบมา ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศการจัดรันเวย์โชว์ เสื้อผ้า หรือแม้แต่ภาพ Photoshoot ต่าง ๆ ภายในคอลเลกชั่น สามารถสะท้อนกลิ่นอายพาเราย้อนกลับไปนึกถึงช่วงเวลายุคปลาย 90s อย่างการต่อต้านแฟชั่น (Rebellion Fashion) เทคนิคการตัดต่อหรือการรื้อโครงสร้าง (Deconstruction Fashion) และความเรียบง่ายมินิมอลในรูปแบบโมโนโครม (Monochrome Fashion)
ซึ่งถ้าเราลองสังเกตดูดี ๆ เราจะสามารถพบเห็นแฟชั่นเหล่านี้ได้ในทุกที่ ตั้งแต่เสื้อผ้าการแต่งตัวงานอุตสาหกรรมไปจนถึงงานใต้ดินที่มีความเคลื่อนไหวอันเป็นกระแสในอดีต โดยสิ่งเหล่านี้ถูกถ่ายทอดผ่านเสื้อผ้าภายในคอลเลกชั่นออกมาในรูปแบบสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของดีไซเนอร์หัวขบถอย่าง Demna ที่มอบกลิ่นอายความเป็นสตรีทแวร์ การดีไซน์รูปทรงแบบ Oversized ที่ได้มีการพัฒนาต่อยอดจากโครงร่างสร้างเดิมของแบรนด์บาเลนเซียก้า ผ่านมุมมองอันเฉียบแหลมของเขา ได้อย่างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใครอย่างน่าชื่นชม
คอลเลกชั่นนี้เป็นเหมือนการเติมเต็มช่องว่างจากช่วงปีที่บาเลนเซียก้าถูกลืมเลือนไป โดยรายละเอียดการดีไซน์แบบไอคอนิกของบาเลนเซียก้าในอดีตนั้น ถูกรื้อนำกลับมาปัดฝุ่นทำใหม่อีกครั้ง ให้มีความร่วมสมัยและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น และที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ การออกแบบทั้งหมดที่มีการใส่กลิ่นอายสไตล์เอกลักษณ์ของ Demna ไว้อย่างเต็มเปี่ยม
โดยมีการเล่นสัดส่วน และการสร้างซิลลูเอท (Silhouette) ใหม่ที่ถูกพัฒนาต่อยอดขึ้นมาเพิ่มเติม รวมไปถึงซิกเนเจอร์ของแบรนด์ อย่างเช่น เสื้อสูททรงนาฬิกาทราย ชุดเดรสทรงระฆัง แจ็กเก็ตเข้ารูปช่วงเอว และชุดวอร์ม ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการสอดแทรกความหรูหราเอาไว้ด้วย โดยการใช้เทคนิคการเดรปผ้าอัดพลีต หรือชุด Slip Dress ผ้าลูกไม้ที่ให้สัมผัสความเป็นสาววินเทจย้อนยุค
นอกจากนั้นยังมีการผสมผสานเทคนิคการกลับจากด้านหน้าไปด้านหลังของชุดสูทคลาสสิกและเดรสผ้าทวีต ซึ่งเป็นการนำเอาโครงสร้างทางวิศวกรรมการตัดเย็บแบบกลับด้านมาประยุกต์ใช้ร่วมกับการสร้างสรรค์ผลงานแฟชั่นสไตล์ Tailoring พร้อมด้วยการเลือกใช้ผ้านิต (Knitted Fabrics) ที่มีความยืดหยุ่นพิเศษเพื่อความง่ายและสะดวกในการสวมใส่
และความพิเศษอีกอย่างหนึ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ การที่บาเลนเซียก้ายังคงยึดมั่นในแนวคิดการดำเนินการผลิตเสื้อผ้าแฟชั่นที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเลือกใช้ผ้าพิมพ์และผ้าอื่น ๆ ที่ใช้ภายในคอลเลกชั่นที่ได้รับการรับรองการผลิตด้วยความยั่งยืนถึง 89.6% รวมไปถึงการอัพไซเคิลชิ้นส่วนของหนังที่นำมาปรับใช้ในการสร้างสรรค์เสื้อผ้าและเครื่องประดับรูปแบบต่าง ๆ ภายในคอลเลกชั่นนี้อีกด้วย
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับคอลเลกชั่นแนวสตรีทแวร์สุดหรูภายใต้แรงบันดาลใจสุดสร้างสรรค์ แถมยังทำมาจากกระบวนการผลิตเสื้อผ้าแฟชั่นและวัสดุแบบยั่งยืนอีกด้วย หวังว่าทุกคนจะชอบคอลเลกชั่นที่พาเราหวนย้อนนึกถึงวันวานในแบบฉบับของแบรนด์บาเลนเซียก้า แบบไม่เหมือนใครและไม่น่าจะมีใครเหมือน เมื่อพูดถึงคอลเลกชั่นที่มีแนวคิดรักษ์โลกแล้ว อยากจะชวนทุกคนตามไปดูอีกคอลเลกชั่นที่น่าสนใจอย่าง H&M คอลเลกชั่นรักษ์โลกธีม “Innovation Circular Design Story” กันที่นี่ ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสารและสาระความบันเทิงในวงการแฟชั่นที่อัพเดทกันทุกวันแบบไม่ยอมให้ทุกคนต้องตกเทรนด์ อย่าลืมเข้ามาดูบทความผ่านช่องทางของ Inzpy กันทุกวันนะคะ ฝากติดตามกันด้วยค่ะ