เชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจจะยังไม่ทราบว่า ดีไซเนอร์ระดับตำนานอย่าง Pierre Cardin (ปิแอร์ การ์แดง) ไม่ได้อยู่บนโลกนี้กับเราเสียแล้ว เพราะเขาได้ล่วงลับจากเราไปเมื่อ 2 ปีก่อน ทำให้วงการแฟชั่นต้องโศกเศร้าอาลัยครั้งใหญ่ในปี 2020 ซึ่งตอนนั้นเขามีอายุ 98 ปี และตามความเป็นจริงถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ เขาก็จะมีอายุครบ 100 ปีพอดิบพอดี ในวันคล้ายวันเกิดเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา
แต่ถึงตัวจะไม่ได้อยู่แล้ว ด้วยผลงาน ความสามารถ รวมไปจนถึงสไตล์การออกแบบเสื้อผ้าอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน จะยังคงอยู่ในใจ เป็นแรงบันดาลใจของเหล่าคนในวงการแฟชั่นและเป็นที่กล่าวถึงตลอดไป ทางทีมงานจึงเล็งเห็นว่าเป็นฤกษ์งามยามดี ถือโอกาสพิเศษ ฉลองครบรอบ 100 ปี ครั้งยิ่งใหญ่ให้กับผู้ก่อตั้งแบรนด์ผู้ล่วงลับ ผู้เป็นดีไซเนอร์มากฝีมือในตำนานระดับโลกที่น้อยคนนักจะไม่รู้จัก
เฉลิมฉลองโอกาสสุดพิเศษนี้ ด้วยการยกทัพเหล่านายแบบ-นางแบบ เดินขบวนพาเหรดแฟชั่นโชว์สุดยิ่งใหญ่อลังการ ทั้งหมด 99 ลุค ที่จัดขึ้นภายในพระราชวังบรากาดิน ตั้งอยู่ริมคลอง ริโอ เดอ ซานลิโอ ใจกลางเมืองเวนิส ซึ่งเป็นอาคารหลังงามโอ่อ่าที่ Pierre Cardin นักออกแบบแฟชั่นชาวฝรั่งเศสชอบไปพักอาศัย ถ้าหากว่าเขาไม่ได้อยู่ในปารีส หรือที่โกตดาซูร์ โดยภายในพระราชวังบรากาดิน ซุ้มสีแดงถูกเนรมิตให้กลายเป็นรันเวย์ขนาดใหญ่ เพื่อนำเสนอผลงานสร้างสรรค์ของ Pierre Cardin จากทุกยุคทุกสมัย ตั้งแต่ปี 1950 จนถึง 2020
Pierre Cardin ถึงแม้จะถือสัญชาติฝรั่งเศส แต่แท้จริงแล้วเขาเกิดที่เมืองเตรวิโซ ในอิตาลี ซึ่งครอบครัวของเข้าย้ายถิ่นฐานไปยังเมืองแซงต์-เอเตียนน์ของฝรั่งเศส ตอนเขาอายุได้เพียง 2 ขวบเท่านั้น ก็ไม่น่าแปลกใจว่าผู้คนมักจะเข้าใจผิดว่าเขานั้นเป็นคนฝรั่งเศสมาตั้งแต่กำเนิด และในเวลาต่อมาเขาได้เริ่มเรียนรู้การตัดเย็บเสื้อผ้าตอนอายุ 14 ปี
จากการอยู่ในเมืองเล็ก ๆ เขาได้ตัดสินใจเดินทางเข้าสู่กรุงปารีสในปี 1945 เพื่อทำตามความฝัน เริ่มแรกเขาได้งานที่ห้องเสื้อ Paquin และได้ทำงานร่วมกับ Elsa Schiaparelli ด้วยความกระตือรือร้นและความมุ่งมั่นอันเต็มเปี่ยม เขาก็ได้เลื่อนตำแหน่งตัวเองให้สูงขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการขึ้นมาเป็นหัวหน้าช่างที่ห้องเสื้อของ Christian Dior ในปี 1950 หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เริ่มก่อตั้งแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นของตนเอง บนถนนริชปองส์ ใจกลางกรุงปารีส และขยับขยายเปิดร้านบูติก ในย่านหรูริมถนนโฟบูร์ก แซงโตโนเร ภายในเวลาเพียง 4 ปีต่อมา
ตำนานของเขาเริ่มต้นขึ้นด้วยชุด ‘Bubble’ ผลงานสุดล้ำในปี 1954 ที่วงการแฟชั่นต้องตกตะลึงอ้าปากค้างไปตาม ๆ กัน เป็นผลงานสร้างสรรค์ที่ดีไซเนอร์คนอื่นก็ยังคาดไม่ถึง นับว่าเป็นการปฏิวัติโลกแฟชั่นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ ซึ่งตัวเขานั้นมักจะมีการออกแบบชุดอย่างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เลียนแบบได้ยาก
อย่างเสื้อผ้าที่เป็นเส้นตรงหรือสมมาตร ประดับตกแต่งด้วยดีเทลสามมิติ ไปจนถึงลวดลายเรขาคณิต ทำให้เสื้อผ้าของเขาล้วนให้สัมผัสสุดล้ำทันสมัยราวกับมาจากโลกอนาคต ซึ่งเป็นแนวคิดที่แหวกแนว ไม่ใช่เรื่องปกติเลยสักนิด สำหรับแฟชั่นในยุคนั้น ยิ่งไปกว่านั้นแล้วเขายังชื่นชอบและมีความสนใจในแฟชั่นเสื้อผ้าแบบยูนิเซ็กส์อีกด้วย
ต้องยอมรับเลยว่าเหมือนเขาคนนี้เกิดมาเพื่อเป็นดีไซเนอร์ เพราะครั้งหนึ่งเขาเคยบอกว่า “ไม่ว่าจะเป็นขาโต๊ะ รากไม้ ต้นไม้ ใบไม้ โลหะ ล้วนให้ไอเดียผมได้หมด” สะท้อนให้เห็นว่าเขาสามารถคิดไอเดียใหม่ ๆ ได้ง่าย ๆ จากแรงบันดาลใจรอบตัวได้ทุกที่ทุกเวลา จากแฟชั่นล้ำยุคของเขาที่ใครต่างมองว่าประหลาด และไม่เข้าใจว่าเขาต้องการจะสื่ออะไร กลายเป็นแฟชั่นสุดไอคอนิกที่เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายเป็นวงกว้างไปทั่วโลก
ต้องยอมรับว่า ตำแหน่งดีไซเนอร์ระดับตำนาน ไม่ได้ถูกตั้งมาลอย ๆ เพราะ Pierre Cardin (ปิแอร์ การ์แดง) มักจะก้าวล้ำนำคนอื่นอยู่หนึ่งก้าวเสมอ ไม่ว่าจะเป็น การเป็นนักออกแบบแฟชั่นคนแรกที่เปิดตัวคอลเลกชันเสื้อผ้าสำเร็จรูป (Ready-to-wear) หรือการเป็นคนแรกของวงการแฟชั่นที่ใช้ชื่อของตนเองในผลิตภัณฑ์มากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น นาฬิกาข้อมือ เครื่องเล่นแผ่นเสียง เครื่องนอน รถยนต์ หรือแม้กระทั่งช้อนส้อมและน้ำดื่มบรรจุขวด ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นคนแรกที่ออกแบบแฟชั่นไลน์สำหรับผู้ชายอีกด้วย
หวังว่าบทความ ฉลองครบรอบ 100 ปี ‘Pierre Cardin’ ดีไซเนอร์ระดับตำนาน ด้วยแฟชั่นโชว์ที่เมืองเวนิส ที่เราเอามาอัปเดตให้ทุกคนในวันนี้ จะทำให้ทุกคนได้รับสาระความรู้ และข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์ระดับโลกเพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อยนะคะ วันนี้เราคงต้องขอลาไปก่อน สามารถติดตามสาระ ความรู้และความเคลื่อนไหวในวงการแฟชั่นอีกมากมายได้ที่ Inzpy รอติดตามกันนะคะ