โปรแกรมหนังดีส่งความสุขส่งท้ายปี 2024 อีกหนึ่งเรื่องที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง ได้แก่ “Here ที่นี่ นิรันดร” โดยทีมผู้สร้าง Forrest Gump ที่กลับมาร่วมงานกับ ทอม แฮงค์ส อีกครั้ง พร้อมด้วย โรบิน ไรต์ เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวสุดพิเศษที่นำเทคโนโลยีการลดอายุมาใช้กับใบหน้าจริงๆ ของนักแสดงแบบเรียลไทม์
โดยโปรเจกต์หนังที่สร้างเสียงฮือฮาไม่น้อย ตั้งแต่การกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของทีมสร้างภาพยนตร์เรื่อง Forrest Gump (1994) ที่นำทีมโดยผู้กำกับออสการ์ โรเบิร์ต เซเม็กคิส (Robert Zemeckis) ซึ่งเคยฝากความประทับใจไว้ในผลงานภาพยนตร์ Cast Away (2000), Contact (1997) และ Back to the Future 1-3 (1985-1990) คว้าตัว 2 นักแสดงรุ่นใหญ่ของวงการฮอลลีวูดอย่าง ทอม แฮงค์ส และ โรบิน ไรต์ มาประชันฝีมือการแสดงกันในผลงานเรื่องใหม่ล่าสุด “Here ที่นี่ นิรันดร”
ภาพยนตร์นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวหนึ่งในสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งถูกส่งต่อมาจากหลายรุ่นหลายเผ่าพันธุ์ โดยโฟกัสไปที่การดำเนินเรื่องของพระเอกที่รับบทแสดงโดย ทอม แฮงค์ส และนางเอกรับบทโดย โรบิน ไรต์ ทั้งสองต้องแสดงเป็นคู่รักและสร้างครอบครัวด้วยกันในบ้านหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ตรงบริเวณเดียวกับสถานที่นั้นที่ส่งต่อมาจากหลายรุ่น เราจะได้เห็นคู่รักคู่นี้ตั้งแต่เป็นวัยรุ่นไปจนถึงช่วงวัยชรา เรื่องราวชีวิตทั่วไปธรรมดาๆของครอบครัวที่จะนำเสนอภาพความสนุก ความหวัง ความสูญเสีย ความรัก ทุกอย่างเกิดขึ้น ‘ที่นี่’ หรือ ‘Here’ แบบไม่ธรรมดา
ความน่าสนใจของ “Here ที่นี่ นิรันดร” คือการนำเทคโนโลยีลดอายุ หรือที่เรียกว่า De-aging Technology มาใช้ในการถ่ายทำ เพื่อย้อนวัยใบหน้าของนักแสดง ทอม แฮงค์ส และ โรบิน ไรต์ ให้กลับเป็นวัยหนุ่มสาวที่สดใสกันอีกครั้ง เพื่อให้ตัวละครและเรื่องราวต่างๆ มีความสมจริงมากที่สุด โดยเทคนิคนี้ทางทีมงานได้นำภาพในช่วงชีวิตวัยต่างๆ ของทั้ง ทอม แฮงค์ส และ โรบิน ไรต์ ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงปัจจุบันมาใช้งาน โดยใช้ภาพถ่ายนับพันรูปเพื่อสร้าง “เมกอัปดิจิทัล” ในการลดและเพิ่มอายุให้กับบรรดานักแสดงในทุกช่วงอายุ ซึ่งระหว่างถ่ายทำจะมีการติดตั้งหน้าจอคู่เพื่อให้ทีมงานและผู้กำกับได้เห็นทั้งภาพปกติและภาพเมกอัปดิจิทัลไปพร้อมๆ กัน
นอกจากนี้ ภาพยนตร์ยังใช้เทคนิคพิเศษอีกหลายอย่างเพื่อให้ภาพออกมาสมจริงมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการใช้เลนส์ใหม่กับ Panavision เพื่อต้องการให้มีจุดโฟกัสใกล้ที่สุด ถ่ายทำด้วยมุมกล้องมุมเดียว ซึ่งจะสร้างความรู้สึกที่แปลกใหม่ให้กับผู้ชม ตลอดจนมีการใช้จอ LED ในการสร้างฉากที่ตำแหน่งหลังหน้าต่างขึ้นมาอีกด้วย
“Here ที่นี่ นิรันดร” เข้าฉายวันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์
บทความที่น่าสนใจ
GDH พร้อมส่ง ‘404 สุขีนิรันดร์..RUN RUN’ ฮาไม่อั้น ส่งท้ายปลายปี