ก่อนอื่นเลยต้องขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามา อ่านรีวิว และเรื่องราวเกี่ยวกับ ตำนาน 4KINGS ที่ผมได้เขียนเอาไว้อย่างล้นหลาม และรู้สึกดีอย่างยิ่งที่ภาพยนตร์ที่ผมชื่นชอบนั้นได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะคนที่เข้าไปดูหนังเอย เข้าที่มารีวิว หรือพูดถึงเอย ตัวเพลงประกอบเอย หรือจะ *มีม ต่าง ๆ บนโซเชี่ยลเอย
(*มีม ในทีนี้หมายถึง meme ซึ่งมันคือภาพล้อเลียน หรือมุกตลกต่าง ๆ ที่ถูกเอามาใช้บนโซเชี่ยล)
เมื่อพูดถึงมีมแล้ว ผมได้ไปสะดุดตาเข้ากับภาพ ๆ หนึ่ง (ภาพปกของบทความนี้) จากเพจเฟสบุ๊คที่ชื่อว่า “โรงเรียนมัธยมปลายซูซูรัน” หลาย ๆ คนคงจะคุ้น หรือรู้สึกเอ๊ะกับชื่อนี้ และอีกหลาย ๆ คนก็คงจะรู้จักและจดจำได้เป็นอย่างดี สำหรับคนที่ชอบดูหนัง หรืออ่านการ์ตูนแนวต่อยตี ต้องรู้จักแน่นอน
โรงเรียนมัธยมปลายซูซูรัน เป็นโรงเรียนที่อยู่การ์ตูนเรื่อง Crow หรือ เรียกเขาว่าอีกา ซึ่งในตอนหลังได้ถูกทำออกมาเป็น Live Action ในชื่อ Crow Zero ซึ่งถือว่าเป็นการ์ตูนระดับตำนานเรื่องหนึ่งเลยล่ะ สำหรับนักเรียนตีกันแบบนี้
ซึ่งทางเพจ โรงเรียนมัธยมปลายซูซูรัน นั้นก็ได้โพสต์ภาพพร้อมกับแคปชั่นว่า “ได้ยินมาว่าโรงหนังมี 4Kings” พร้อมกับภาพของ 4 จตุรเทพประจำเรื่อง มันก็ทำให้ผมนึกย้อนไปถึงวันวานที่ได้อ่านการ์ตูนเรื่องนี้ (อ่านจบไป 4 รอบเห็นจะได้) และก็นึกขึ้นได้ว่า 4 คิงส์ ในเรื่องนี้ มันคล้ายกับในภาพยนตร์ไทยของเราเลย จึงอยากจะมาเล่าให้ฟัง
ตำนาน 4KINGS สงครามของโรงเรียนและแก๊งค์ซิ่ง
เรียกเขาว่าอีกา เป็นเรื่องราวของนักเรียนโรงเรียนซูซูรัน โรงเรียนที่ขึ้นชื่อว่า โหดเหี้ยม เป็นสังเวียนแห่งการชิงดีชิงเด่น เป็นโรงเรียนที่ไม่เคยมีผู้นำ และไม่เคยมีใครที่รวบรวมโรงเรียนแห่งนี้ให้เป็นกลุ่มเป็นก้อนได้
โดยเรื่องราวของเรื่องนั้นเริ่มจาก โบยะ ฮารุมิจิ เด็กใหม่ที่เข้ามาเรียนกลางเทอมในช่วง ม.5 เทอม 2 มาวันแรกก็คือมีเรื่องเลย แล้วจากนั้นก็มีเรื่องแบบไม่เว้นวัน ปราบมันทุกคนทั้งเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง ฮิโรมิ หรือ มาโค รวมไปถึงรุ่นพี่ ม.6 หัวโจกประจำโรงเรียนอย่าง บันโด ฮิเดชิ ที่โบยะนั้นถล่มทั้งแก๊งค์ด้วยตัวคนเดียว
นอกจากนี้เขายังได้สู้กับ รินดาแมน ชายผู้แข็งแกร่งที่สุด แม้สุดท้ายจะพ่ายแพ้ไป แต่ทุกคนในซูซูรัน ก็ได้ยอมรับว่า โบยะ คืออันดับ 1 ของซูซูรันเป็นที่เรียบร้อย
ซึ่งระหว่างนี้เอง ตัวโบยะก็ได้มีคนมาลองดีด้วยมากมาย ไม่ว่าจะด้วยในรูปแบบการอยากประลองฝีมือ หรือการแก้แค้น หรือถูกสั่งมา โดยเฉพาะ คุโน่ ริวชิน แห่งแก๊งค์บุโซโซเซนเซน ที่ทั้งต้องการแก้แค้น กู้ชื่อเสียงให้กับแก๊งค์หลังจาก บันโด ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกโดนโบยะอัดจนน่วม
ซึ่งการต่อสู้ของทั้ง โบยะ และริวชิน ต้องบอกว่า มันคือการต่อสู้ที่สูสีมาก สุดท้ายริวชินแพ้ แต่เขาก็ยังได้รับการยอมรับให้ขึ้นมาเป็นผู้นำรุ่นที่ 4 ของกลุ่มบุโซฯ และถูกขนานนามว่าเป็นรุ่นที่แข็งแกร่งที่สุดรุ่นหนึ่งของกลุ่ม
พูดถึงริวชินนั้น จริง ๆ แล้วเขาเป็นคนที่มีฝีมือมาก มากพอที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำของกลุ่มตั้งแต่รุ่นที่ 3 แล้วด้วยซ้ำเพียงแต่ถูกพี่ชายฝาแฝดของตัวเองเข้ายึดอำนาจได้ซะก่อน
สำหรับริวชินนั้นเรื่องฝีมือไม่ต้องพูดถึง เขาคืออีกหนึ่งคนที่เก่งสุดในเมือง เป็นคนที่รวบรวมเด็กจากหลากหลายสถานที่ หลากหลายโรงเรียน หรือพวกที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าเข้าไว้ด้วยกัน ฉะนั้นคงจะไม่แปลกใจหากว่าเขาคือหนึ่งในคนที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในผู้แข็งแกร่งที่สุดประจำเมือง
อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะอยากรู้ว่า บุโซเซนเซน คืออะไร กลุ่มบุโซฯ คือกลุ่มแก๊งค์มอเตอร์ไซด์ ที่ใส่เสื้อหนัง และมีหัวกระโหลกประทับไว้ ในกลุ่มจะมีสมาชิกหลากหลายที่มา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนมีฝีมือแต่ไม่ได้อยู่โรงเรียนที่มีชื่อเสียง พวกเขาทำงานกันเป็นทีม และเป็นกลุ่มที่มีชื่อเสียง และแข็งแกร่งที่สุดในเมือง ซึ่งริวชินคือผู้นำ
โฮเซน และ พรรคร่วมผู้แข็งแกร่ง
วนกลับมาที่เรื่องราวของโบยะ ฮารุมิจิ หลังจากเสร็จเรื่องกับกลุ่มบุโซฯ ก็ไม่ต้องพักหายใจกันเลย เพราะโรงเรียนโฮเซ็น คู่ปรับตัวฉกาจของ ซูซูรัน ที่ปะทะกันเมื่อไหร่ จะเปรียบเสมือนสงครามทันที ก็ได้เข้ามาหาเรื่องต่อโดยผู้นำที่ชื่อว่า บิโต ทัตซึยะ (คนที่ปรากฎตัวในภาพยนตร์ Crow Zero II)
ซึ่งเรื่องราวไม่มีอะไรมาก โฮเซนอยากจะเปิดศึก ฝั่งซูซูรันก็ไม่ได้เกรงกลัว และพร้อมลุยอยู่แล้ว และแน่นอนว่า 2 ผู้นำของทั้ง 2 โรงเรียนจะต้องปะทะกัน มันเรื่องธรรมชาติ และนี่เป็นอีกหนึ่งการต่อสู้ที่สนุกที่สุดในเรื่อง เพราะความแข็งแกร่งของ บิโต้คนพี่นั้นเรียกว่าเป็นของจริง เขาเคยล้ม คุโน่ ริวชิน ในการต่อสู้แบบตัวต่อตัว
ในส่วนของโฮเซนนั้น มีฉายาว่า กลุ่มนักฆ่า หรืออีกชื่อคือ Housen Academy โรงเรียนแห่งนี้แตกต่างจากซูซูรัน พวกเขามีผู้นำในทุก ๆ รุ่น พวกเขาต่อสู้กันพิสูจน์ตัวเอง ใครที่ได้เป็นใหญ่ ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าจะได้สิทธิในการไว้ผม แต่คนอื่น ๆ จะต้องโกนหัวทั้งหมด มันคือสัญลักษณ์ และธรรมเนียมของโฮเซน
และบิโต้ ทัตสึยะ คือคนที่เข้ามารับช่วงต่อในการปกครองโรงเรียนแห่งนี้ เขาต่อสู้ร่วมกับน้องชาย จนขึ้นมาเป็น 1 ในผู้นำที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ และการต่อสู้กับคนที่ไม่เคยแพ้ใครอย่างโบยะ ได้อย่างสูสี ก็ยิ่งทำให้เขาถูกกล่าวถึงและยกย่องให้เป็น ราชาคนที่ 3 ของเมือง โอทารุ ไปโดยปริยาย
สุดท้ายราชาคนที่ 4 ที่ได้เข้ามามีเรื่องราวกับ โบยะ ที่ครั้งนี้ไม่ใช่การต่อยตี แต่เป็นความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อน ที่ตอนหลังพวกเขาทั้งคู่ได้คบหาเป็นพี่น้อง ชายคนนี้ถูกเรียกว่า บลู หรือ โอซามุ ฟุรุคาว่า ผู้นำแห่งพาณิชย์ทาคิยะ ที่ในตอนหลังได้ตั้งกลุ่มขึ้นมา เพื่อจะไปกำจัดซูซูรัน
ซึ่งมี คะคุเคน และมารุเคน แห่งเทคโนคุโรซากิ เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง และศึกแรกคือแก๊งค์จ้าวมังกร (ชื่อเห่ยสุด ๆ) ซึ่งศึกนี้ทางโบยะ ก็ได้เข้าร่วมต่อสู้แบบลับ ๆ เพื่อไม่ให้บลูรู้ (คือ 2 คนนี้เขาแอบงอนกันก่อนเริ่มต่อสู้) แต่บลูนั้นรู้อยู่แล้ว จึงได้ไปเจอกับโบยะและได้สาบานเป็นพี่น้องกันในที่สุด
หลังจากนั้นโรงเรียนมัธยมซึกาโมโตะ และพาณิชย์นานาโมริ มาเข้าร่วมกับพรรคร่วมคุโรทากิ เช่นเดียวกับ มัธยมยูริงาวะ มินามิ เข้ามาร่วมแจม และทำให้บลู ได้ขึ้นเป็นหัวหน้ากลุ่มที่ใหญ่ที่สุดอีกกลุ่มหนึ่งในเมือง และก้าวขึ้นมาเป็น 4 มหาอำนาจ หรือที่ใคร ๆ ต่างขนานนามว่า จตุรเทพ (รุ่นแรก)
นี่เป็นเพียงเรื่องราวคร่าว ๆ ของทั้ง 4 คน ที่เปรียบเสมือน 4Kings ซึ่ง Inzpy ก็ได้กล่าวถึงแบบคร่าว ๆ เพราเชื่อว่าหลาย ๆ ท่านคงจะเคยอ่านการ์ตูนเรื่องนี้มาแล้ว ส่วนคนที่ยังไม่ได้อ่าน ผมเองก็ไม่อยากจะสปอย แต่ขอแนะนำว่า ลองกลับไปหาอ่านดูครับ นี่เป็นการ์ตูนที่สนุกมากอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว
สำหรับ ตำนาน 4KINGS แห่งเรียกเขาว่าอีกานั้นจริง ๆ แล้วมีสองรุ่นด้วยกัน แต่วันนี้เรามาพูดถึงรุ่นแรกที่เป็นเหมือนผู้บุกเบิก แต่ทั้งนี้ หากว่าในอนาคตมีโอกาส Inzpy จะมาเล่าเรื่องราวของ จตุรเทพรุ่นที่ 2 ของ การ์ตูนเรื่องนี้ให้ฟังกันอย่างแน่นอนครับ แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดี