More

    3 ปรากฏการณ์แห่งปี 2024 ที่จู่ๆ ก็กลายเป็น talk of the town

    ปี 2024 เป็นปีที่มีเหตุการณ์แปลกๆ แบบคาดไม่ถึงอยู่มากมาย แต่สิ่งที่ได้รับการยกย่องให้เป็นปรากฏการณ์แห่งปีมีไม่มากนัก เพราะหลายเหตุการณ์มาแล้วก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่หลายเหตุการณ์ได้รับการพูดต่อและแชร์กระหน่ำ ระดับที่ถ้านับยอดแชร์ น่าจะมากกว่านักแสดงชื่อดังหลายๆ คนด้วยซ้ำ สำหรับ 3 ปรากฏการณ์แห่งปี 2024 talk of the town ที่ #INZPY เลือกมาอยู่ใน #INZPY2024YearInReview ได้แก่

    1. หมูเด้ง

    ถึงเวลานี้ ใครยังไม่รู้จักหมูเด้ง คงต้องเรียกว่าเป็นพวกเชญตกขอบโลกแน่ๆ เพราะระดับซุปตาร์ระดับโลกยังต้องพูดถึงและหยิบไปทำมีมอยู่บ่อยๆ “หมูเด้ง” เป็นฮิปโปแคระตัวน้อยจากสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี กลายเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางทั้งในประเทศไทยและระดับโลกในปีนี้ ถึงขนาดได้รับรางวัล “คนมีสไตล์” จากนิตยสารชื่อดังระดับโลกอย่าง New York Times นอกจากนี้ยังได้รับการยอมรับอย่างล้นหลามจากผู้คนทั่วโลกผ่านโซเชียลมีเดีย จนทำให้ความนิยมของหมูเด้งขยายไปสู่ระดับสากล

    ด้วยรูปลักษณ์ที่น่ารักและพฤติกรรมขี้เล่น ทำให้ “หมูเด้ง” กลายเป็นที่รักของทั้งผู้คนในประเทศและต่างประเทศ จากพฤติกรรมขี้วีน ขี้รำคาญ และการงับขาพี่เลี้ยงที่สร้างความเอ็นดูให้กับผู้ชมมากมาย ความน่ารักของหมูเด้งได้รับการพูดถึงอย่างมากในโซเชียลมีเดีย โดยผู้คนได้แชร์คลิปและภาพของหมูเด้งอย่างแพร่หลายมีอัตราการสร้างเอนเกจเมนต์กว่า 86 ล้านเอนเกจเมนต์ในเดือนกันยายน เกิดมาแค่ 2 เดือนก็กลายเป็นซุปตาร์  นอกจากนี้ สื่อต่างประเทศเช่น BBC และ National Geographic ยังให้ความสนใจรายงานเกี่ยวกับมัน ทำให้ชื่อเสียงของหมูเด้งขยายไปยังผู้ชมทั่วโลก

    นอกจากชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกแล้ว “หมูเด้ง” ยังกระตุ้นให้ มีจำนวนผู้เข้าชมสวนสัตว์เปิดเขาเขียวเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่มีผู้มาเยือนถึง 20,000 คน การเพิ่มขึ้นของผู้เข้าชมสวนสัตว์ไม่เพียงแต่เป็นการยืนยันถึงความนิยมของหมูเด้ง แต่ยังช่วยสนับสนุนการส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ใกล้สูญพันธุ์อย่างฮิปโปแคระอีกด้วย

    ความนิยมของหมูเด้งไม่เพียงแต่ทำให้ผู้คนสนุกสนานกับความน่ารักของมันเท่านั้น แต่ยังช่วยส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชนในกิจกรรมต่าง ๆ ของสวนสัตว์ สร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์สัตว์ธรรมชาติในยุคปัจจุบัน

     

    View this post on Instagram

     

    A post shared by inzpy.official (@inzpy.official)

    2. วันที่ 4 มีนาคม 2567 วันกะเทยไทยผ่านศึก

    ปรากฏการณ์กะเทยไทยนับพันมารวมตัวกันที่สุขุมวิท 11 โดยไม่ได้นัดหมาย ในวันที่ 4 มีนาคม 2567 กลายเป็นสิ่งที่ประวัติศาสตร์ไทยต้องจารึก เพราะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่เพียงแต่กลายเป็นกระแสในวงการสังคมไทย แต่ยังได้รับการพูดถึงไปทั่วโลก เมื่อสาวประเภทสองชาวไทยรวมตัวกันในย่านสุขุมวิท 11 เพื่อล้างแค้นและปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเอง หลังจากเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกับกลุ่มสาวประเภทสองชาวฟิลิปปินส์ที่มีเรื่องเขม่นกันมาก่อน

    โดยเหตุการณ์เริ่มต้นในเวลา 05.00 น. ของวันที่ 4 มีนาคม 2567 ขณะที่กลุ่มสาวประเภทสองชาวไทยกำลังนั่งรับประทานอาหารที่ร้านริมถนนสุขุมวิทใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสนานา จู่ๆ พวกเขาก็พบกับกลุ่มสาวประเภทสองชาวฟิลิปปินส์ที่เคยมีเรื่องทะเลาะกันมาก่อน จนเกิดการปากเสียงและบานปลายเป็นการลงไม้ลงมือกันนอกร้านอาหาร โดยฝ่ายสาวประเภทสองฟิลิปปินส์ที่มีอยู่ประมาณ 20 คน รุมทำร้ายกลุ่มสาวประเภทสองไทยที่มีเพียง 4 คน ทำให้ฝ่ายไทยได้รับบาดเจ็บ

    หลังจากที่เหตุการณ์การรุมทำร้ายถูกเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย สาวประเภทสองทั่วประเทศไทยเริ่มรู้สึกถึงการถูกเหยียดหยามและถูกดูหมิ่นศักดิ์ศรีของตัวเอง จึงเริ่มรวมตัวกันที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่พักของกลุ่มสาวประเภทสองฟิลิปปินส์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ แม้จะไม่ได้มีการนัดหมายล่วงหน้า บางคนยังขับรถมาจากพัทยาและภูเก็ตเพื่อร่วม “ศึกครั้งนี้” แม้ว่าจะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

    การรวมตัวดังกล่าวสร้างความตึงเครียดในพื้นที่และตำรวจต้องเข้ามาห้ามปรามเพื่อขอความร่วมมือไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง หลังจากการประท้วงที่เกิดขึ้นยาวนานไม่น้อย สถานการณ์ค่อยๆ สงบลงไป แต่เหตุการณ์นี้ยังคงเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงต่อไปในสื่อสังคมออนไลน์

    การรวมตัวของสาวประเภทสองชาวไทยกลายเป็นกระแสโด่งดังในโซเชียลมีเดียในทันที โดยมีแฮชแท็ก #สุขุมวิท11 ที่ได้รับการแชร์และมีการมีเอ็นเกจเมนต์ทะลุ 13,186,696 ครั้ง และถูกแชร์ใน X กว่า 3,622,916 ครั้งภายในเวลาอันรวดเร็ว ส่งผลให้เหตุการณ์นี้ได้รับความสนใจจากสื่อต่างประเทศ เช่น เดลีเมล์ ที่รายงานข่าวนี้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ เหตุการณ์นี้ยังสะท้อนถึงคำถามเกี่ยวกับการทำงานของชาวต่างชาติในประเทศไทย รวมถึงการดูแลความปลอดภัยของกลุ่มคนข้ามเพศในสังคมไทยอย่างจริงจัง

    “วันกะเทยไทยผ่านศึก” จึงไม่ใช่แค่เหตุการณ์การทะเลาะวิวาทที่เกิดขึ้นในสุขุมวิท 11 แต่เป็นการแสดงออกถึงการปกป้องศักดิ์ศรีของสาวประเภทสองไทยที่ไม่ยอมให้ตัวเองถูกเหยียบย่ำเท่านั้น แต่ได้ทำให้ Adidas Samba ได้รับการยกย่องให้เป็น “รุ่นปราบกะเทยปินส์” เพราะเป็นทั้งรองเท้า เป็นทั้งอาวุธป้องกันตัว

     

    View this post on Instagram

     

    A post shared by inzpy.official (@inzpy.official)

     3. หมีเนย

    ไม่มีใครทราบเหตุผลที่แน่ชัดของการสร้างมาสคอต “หมีเนย” หรือ Butterbear ว่าต้องการทำเพื่อโปรโมทแบรนด์ร้านขนม Butterbear Cafe ในเครือ Coffee Beans by Dao  หรือสร้างไอคอนกันแน่ แต่พลันที่ “หมีเนย” หรือ Butterbear ถูกแนะนำออกสู่โลกโซเชียลได้ไม่นาน เธอก็กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกออนไลน์ ด้วยความน่ารักขี้อายและท่าทางการเต้นกระดุ๊กกระดิ๊กที่แตกต่างจากมาสคอตตัวอื่น ๆ จนสร้างกระแสไวรัลอย่างล้นหลาม

    กระแสของ “หมีเนย” เกิดขึ้นถึงสองครั้งในปีนี้ รอบแรกคือเดือน มกราคม 2567 “หมีเนย” กลายเป็นที่สนใจครั้งแรกเมื่อปรากฏในคลิปเต้นร่วมกับมาสคอตตัวอื่น ๆ ในกิจกรรมหนึ่ง จุดเด่นคือในขณะที่มาสคอตตัวอื่นเต้นอย่างเต็มที่ “หมีเนย” กลับเต้นเพียงกระดุ๊กกระดิ๊กเล็กน้อยอย่างเขินอาย สร้างความน่ารักที่ชาวเน็ตหลงรัก และกลายเป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัวของน้อง

    ต่อมาในรอบที่สอง คือเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2567  โดยช่วงปลายเดือนพฤษภาคม คลิป TikTok จากประเทศจีนที่มี “หมีเนย” ออกมาปรากฏตัวถูกแชร์ต่อบนแพลตฟอร์ม X (Twitter) จากนั้นกระแสนี้ได้กลับมาที่ไทย โดยมีผู้สร้างคอนเทนต์ใน TikTok นำคลิปเหล่านั้นมาสร้างกระแสใหม่อีกครั้งในเดือนมิถุนายน ความน่ารักของ “หมีเนย” ได้รับการพูดถึงอย่างกว้างขวางจนกลายเป็นไวรัลและนำไปสู่การสร้าง Collaboration กับแบรนด์อื่น ๆ รวมถึงจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อโปรโมต

    เอ็นเกจเมนต์ของหมีเนย สูงถึง 6.5 ล้านครั้ง: ในช่วงระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 10 มิถุนายน 2567 “หมีเนย” ได้สร้างปฏิสัมพันธ์มหาศาลในโซเชียลมีเดีย ด้วยคาแรกเตอร์ชัดเจน แม้จะมีสีหน้าเดียว แต่ความเขินอายและความน่ารักของ “หมีเนย” กลับสื่อสารอารมณ์ได้เหมือนราวว่าตุ๊กตาตัวนี้มีชีวิตจริง และ การนำเสนอผ่านคอนเทนต์ที่สม่ำเสมอและการสร้างสรรค์กิจกรรมที่ตอบโจทย์ความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย

     

    View this post on Instagram

     

    A post shared by inzpy.official (@inzpy.official)

    บทความที่น่าสนใจ

    “หลานม่า” สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ หนังไทยเรื่องแรกเข้ารอบ 15 เรื่องสุดท้ายออสการ์ 2025

    The White Lotus ซีซั่นสาม ‘ลิซ่า’ ร่วมแสดง เรื่องราวเสียดสีสังคมในรีสอร์ตหรูแห่งหนึ่งในไทย เตรียมฉาย 17 กุมภาพันธ์ 68

    RED ONE หนังต้อนรับคริสต์มาสแนวแอ็กชั่น-คอเมดี้สุดมันส์สู่โลกแห่งเวทมนตร์

    Related Post