10 วิธี ประหยัดไฟ รับค่าไฟขึ้น (ขึ้นเก่ง…)
นอกจากหัวจะปวด… ทั้งเรื่องราคาน้ำมัน และงานที่ถาโถมอันล้นมือจนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอนแล้ว ข่าว กกพ. ปรับขึ้นค่าไฟเป็น 4 บาท/หน่วย ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม – สิงหาคม 2565 ก็ช่างเป็นอะไรที่ทำให้ชีวิตนั้นอยู่ยากมากขึ้น
แต่… เราก็ต้องอยู่ให้ได้ (ก็มาดิคร้าบบบ) เอาเป็นว่าหยุดหัวร้อนนนนน สักพัก เพราะวันนี้ Inzpy มีวิธีทำให้ห้องเย็นขึ้นโดยไม่ต้องเปิดแอร์มาฝากกัน เพื่อช่วยบรรเทาค่าไฟ และประหยัดเงินในกระเป๋าไปพลาง ๆ รอราคาปรับลงอีกครั้ง (ประเด็นคือปรับขึ้นแล้วจะมีปรับลงมั้ย?)
1. เลือกสีโทนเย็น มาทาสีห้อง
อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดทอนความร้อนให้แก่บ้านที่ได้ผล นั่นก็คือ การทาสีห้องด้วยสีโทนเย็น อาทิ สีขาว หรือสีครีม ที่สามารถสะท้อนแสงได้ดี สีเขียวหรือสีฟ้า ที่สร้างความรู้สึกว่าอุณหภูมิห้องเย็นลงได้ หรือถ้าใครชอบแนวอบอุ่นธรรมชาติ ก็ลองเลือกสีเอิร์ธโทน อย่างน้ำตาลอ่อน มาทาทาบก็จะให้ความรู้สึกสบาย ดูผ่อนคลายได้ดีทีเดียว
2. จงถอดปลั๊กไฟซะ หากมิใช้งาน
เชื่อว่าหลายคนคงมองข้ามเรื่องนี้ แต่แท้จริงแล้วเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด ที่เราประโคมเปิดหลาย ๆ อย่างพร้อม ๆ กัน เนี่ย มันจะมีการผลิตความร้อนออกมาเมื่อถูกใช้งาน ซึ่งก็จะเป็นการเพิ่มความร้อนออกมามากขึ้น ฉะนั้นถ้าไม่ใช้งาน ควรถอดปลั๊กออกให้หมดเป็นการดีที่สูดดดดด
3. หลอด LED คือคำตอบในยุคนี้
ดังที่กล่าวไปข้อที่แล้วว่า เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดจะปล่อยความร้อนออกมา รวมไปถึงบรรดาหลอดฟลูออเรสเซนต์ จะสร้างความร้อนให้กับห้องไม่น้อย ฉะนั้นยุคนี้ เราแนะนำให้ลงทุนสักนิด ด้วยการเปลี่ยนหลอดไฟทั้งหมดให้กลายเป็นหลอด LED เพราะจะช่วยลดทอนความร้อน และประหยัดพลังงานมากกว่า แถมช่วยเซฟค่าไฟให้คุณได้ระดับหนึ่งเลยล่ะ
4. ปิดม่านกันความร้อน
การเปิดหน้าต่างรับแสงแดดอ่อนในช่วงยามเช้า ก็เป็นสิ่งที่ดี แต่พอเริ่มสายแดดเริ่มแรงล้ำเข้ามาในบ้าน เพื่อไม่ให้การสะสมความร้อน ก็ควรปิดหน้าต่างและผ้าม่านซะ (ยิ่งถ้าบ้านไหนติดตั้งผ้าม่านที่เป็น Polyester กัน UV ด้วยก็จะยิ่งช่วยสะท้อนความร้อนได้ดี) ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าม่านที่มีสีเข้ม เพราะยิ่งเข้มก็ยิ่งกักเก็บความร้อนได้ดี ดังนั้นควรเลือกสีโทนสว่างหลัก เพราะจะมีคุณสมบัติการสะท้อนแสงแดดได้ในระดับนึง
5. เปิดหน้าต่างยามราตรี…
การเปิดหน้าต่างเอาไว้ยามค่ำคืน เพื่อให้อากาศถ่ายเท ช่วยให้ห้องเย็นขึ้น แต่บริเวณหน้าต่าง ก็ควรจะติดตั้งมุ้งลวดไว้ด้วย (โดยเฉพาะบ้านปลูกต้นไม้เยอะ ๆ) จะได้ไม่ถูกยุงหาม ในทางตรงกันข้าม ขอเสริมอีกนิดคือ อย่า… ลืม… ปิดประตูครัว ทุกครั้งหากมีการใช้ครัว เพราะลมร้อนจากห้องครัวเนี่ย สามารถกระจายไปได้ทั่วทั้งบ้าน จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดความร้อนเพิ่มขึ้นภายในบ้านนั่นเอง
6. จัดวางเฟอร์นิเจอร์ไม่ให้บังทิศทางลม
ธรรมชาติของลมนั้น จะพัดเข้าบ้านเมื่อมีทางให้ลมออกเท่านั้น ฉะนั้น การควรหลีกเลี่ยงการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่บังทิศทางลม วิธีที่ดีคือจัดวางให้ชิดติดผนัง และไม่วางขวางทางประตูหน้าต่าง ซึ่งวิธีนี้นอกจากจะเป็นการเปิดทางให้ลมพัดเข้า-ออกแล้ว ยังเป็นการจัดระเบียบให้พื้นที่ในห้องดูกว้างขึ้นอีกด้วย
7. เสริมกันสาดบังแดดทางหน้าต่าง
เนื่องจากความร้อนจากแดดพาดผ่านเข้ามาภายในอาคารนั้น ส่วนใหญ่จะมาจากทางหน้าต่างฝั่งทิศใต้ และหน้าต่างทางทิศตะวันตก การติดตั้งกันสาดในทิศดังกล่าวจะช่วยลดอุณหภูมิความร้อนเข้าสู่ภายในบ้านได้เป็นอย่างดีนั่นเอง
8. ใช้เครื่องนอนที่มีฝ้ายเป็นส่วนผสมหลัก
เนื่องจากเครื่องนอนที่ใช้ฝ้ายเป็นส่วนผสมหลัก จะช่วยระบายอากาศได้ได้ดีกว่าวัสดุอื่น ๆ จึงช่วยให้การนอนของคุณเย็นสบายมากยิ่งขึ้น หรือแนะนำให้ใช้ที่นอน หมอน ผ้าปูเป็นแบบ Cooling เพราะเครื่องนอนเหล่านี้ จะได้รับการพัฒนามาเป็นพิเศษ ลงทุนครั้งเดียวแต่ก็ได้ผลระยะยาวเลยล่ะ
9.ใช้ความเย็นในแนวดิ่ง
พัดลมเพดานเป็นอีกหนทางหนึ่งที่ช่วยดับร้อน แถมสามารถทำให้อากาศในห้องไหลเวียนได้ดีเยี่ยม ที่สำคัญเป็นการใช้พื้นที่ในแนวดิ่งให้เกิดประโยชน์ อีกทั้งยังเป็นการติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอยได้ในตัวอีกด้วย
10. ปลูกต้นไม้บังแดด
อาจจะเป็นวิธีที่เหมาะแก่บ้านที่มีพื้นที่กว้างสักหน่อย เพราะต้องอาศัยการปลูกต้นไม้ใหญ่นั่นเอง โดยจะต้องปลูกไว้ในทิศตะวันตกที่มีแดดส่องแรง ๆ เข้ามาในบ้าน รับประกันว่าบ้านเย็นขึ้นทันใจเลยทีเดียว หรือถ้ามีพื้นที่เหลือเฟือ ก็ปลูกรอบบ้านไปเลย ก็ช่วยให้เย็นขึ้นคูณสอง จะได้ร่มรื่น เมื่อบ้านร่มเย็นแอร์ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดหรอก ว่ามั้ย ?
เป็นอย่างไรบ้างครับ สำหรับ 10 วิธี ประหยัดไฟ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้เพื่อน ๆ นำไปปรับใช้กันได้ไม่มากกว่าน้อยนะ แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย เชื่อผมสิ (สู้ ๆ นะทุกคนนนน)
อัปเดตคอนเทนต์ใหม่ ๆ ทาง LINE ฟรี
Add friend ที่ ID : @inzpy (มี@นำ)
บทความน่าสนใจ : Regent Home วุฒากาศ คอนโดฯ เปิดใหม่ ราคาเดียว 1.2 ล้านบาท