Kitchen Set รูปแบบครัวสำคัญไฉน? แบบใดที่ใช่ มาทำความรู้จักกัน
เบื้องต้นก่อนที่จะทำครัวในฝัน ก่อนอื่นเราต้องทราบขนาดของพื้นที่ครัวให้เรียบร้อย ลำดับต่อไปคือ ต้องฟันธงว่าสไตล์ครัวที่ชอบของคุณนั้นเป็นแบบใด รวมถึงช่างน้ำหนักในเรื่องงบประมาณที่มีอยู่ จากนั้นแนะนำให้มาอ่านข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบครัวที่เรานำมาฝาก เพื่อเป็นการวางแผนที่ดี สำหรับนำมาประกอบการพิจารณทำห้องครัวในฝัน ว่าผลลัพธ์นั้นน่าจะเป็นไปในทิศทางใด
และนี่คือ 5 รูปแบบมาตรฐานการจัดวางผังห้องครัวที่เหมาะสมกับเนื้อที่ สอดคล้องกับจำนวนสมาชิกในครอบครัว และลงตัวไปกับการจัดเก็บที่แตกต่างกันไป
ครัวรูปตัวแอล (L-Shaped)
หากคุณมีพื้นที่ห้องขนาดปานกลาง รูปแบบนี้ ถือว่าเหมาะเหม็งกับพื้นที่เลยล่ะ ที่สำคัญยังเป็นรูปแบบที่ช่วยแบ่งแยกพื้นที่การทำงานทั้งสามจุดให้ดูเป็นสัดส่วน (ได้แก่บริเวณ เตา อ่างล้างจาน และตู้เย็น) แต่แนะนำว่า ครัวควรมีความยาวอย่างน้อยสักประมาณ 4.5 เมตร เพราะเป็นขนาดที่ช่วยให้มีพื้นที่มากพอ ในการจัดเก็บของได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งประกอบอาหาร และเดินเหินได้อย่างสะดวกสบาย
ที่สำคัญเหลือพื้นที่ไว้เผื่อวางตั้งโต๊ะอาหารได้อีกด้วย (แต่หากมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ควรวางแปลนห้องครัวด้วยรูปแบบที่แตกต่างออกไป ทั้งนี้เพื่อการใช้สอยพื้นที่ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่านั่นเอง)
ครัวรูปตัวยู (U-Shaped)
ลักษณะครัวแบบนี้ จะวางแปลนไว้ติดผนังทั้ง 3 ด้าน แบบรูปตัวยู หรือเกือกม้า (Horseshoe) ซึ่งข้อดีคือมอบความรู้สึกอบอุ่นและเป็นมิตร แต่เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่กว้าง… รวมถึงเข้ากันดีกับแม่บ้านบ้าสมบัติ! (มีเครื่องปรุงและเครื่องครัวชนิดจัดเต็ม) เพราะทำให้เกิดพื้นที่ใช้สอย และพื้นที่จัดเก็บที่เพิ่มขึ้น มีความยืดหยุ่น สามารถขยายพื้นที่เคาน์เตอร์และชั้นเก็บของต่างๆ ได้ เหมาะสำหรับทั้งผังแบบเปิดโล่งและห้องที่แยกออกไปเป็นสัดส่วน โดยปล่อยปลายด้านหนึ่งไว้เพื่อปรับใช้เป็นบาร์นั่งเล่น นั่งรับประทานอาหาร
รวมถึงควรมีระยะห่างระหว่างผนังอย่างน้อย 3 เมตรขึ้นไป ทั้งนี้เพื่อให้ง่ายต่อการจัดเตรียม ทำความสะอาด และการใช้ฟังก์ชั่นเสริมต่าง ๆ นั่นเอง
ครัวแบบมีเคาน์เตอร์กลาง (Island)
รูปแบบนี้เหมาะเจาะกับพื้นที่ขนาดใหญ่ เพราะจะมีเคาน์เตอร์เกาะกลางไว้สำหรับเตรียมอาหาร และเก็บของได้มากขึ้น แถมยังดูเป็นระเบียบ และเป็นวิธีเชื่อมโยงส่วนครัว กับพื้นที่นั่งเล่นที่เปิดโล่งให้ลงตัวได้เป็นอย่างดี ทำให้พื้นที่แลดูมีมิติสวยงามอีกด้วย
สำหรับห้องครัวแบบมีเคาน์เตอร์กลาง หรือไอส์แลนด์ ปัจจุบันเรียกว่าป็นที่นิยมเป็นอย่างมากทีเดียว เนื่องจากเป็นแปลนห้องครัวที่มีเคาน์เตอร์ครัว ที่แยกออกมาเป็นสัดส่วน อีกทั้งยังสามารถดีไซน์ให้มีอ่างล้างจานบนไอส์แลนด์เก๋ ๆ เพื่อเพิ่มเติมฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายได้มากขึ้น
ครัวแบบ 2 แถว (Gallery)
นับว่าลงตัวกับพื้นที่บ้านที่มีลักษณะแคบยาว ดังนั้นการวางแปลนครัวแบบแกลเลอรี จะวางเคาน์เตอร์ครัวชิดผนังทั้ง 2 ด้าน โดยมีทางเดินอยู่แนวกลาง ซึ่งข้อดีของแปลนห้องครัวในลักษณะนี้คือ ทุก ๆ อย่างในครัว ไม่ว่าจะเป็นตู้เก็บของหรือของใช้ต่าง ๆ จะอยู่ใกล้มือ จึงสะดวกต่อการหยิบจับได้ยิ่งขึ้น
แถมเคาน์เตอร์ครัวทั้งสองด้าน ถือว่ามีพื้นที่ที่มากพอสำหรับรองรับการทำครัวได้ถึง 2 คนเลยทีเดียว (ความกว้างของเคาน์เตอร์ที่เหมาะกับการใช้ ควรอยู่ที่ประมาณ 90-120 ซม.)
ครัวชิดผนังด้านเดียว (One-Wall Kitchen)
การวางตำแหน่งเคาน์เตอร์ ตู้เก็บของ รวมถึงเครื่องใช้ทั้งหมดไว้ที่ผนังด้านเดียว เป็นการวางแปลนห้องครัว ที่เหมาะสมและลงตัวที่สุดกับบ้าน หรือคอนโดฯ ที่มีขนาดเล็กและแคบ เพราะแปลนแบบนี้ทำให้ประหยัดเนื้อที่ ในขณะเดียวกันมีสเปซเหลือ มิให้พื้นที่ดูอึดอัด
และเพื่อให้เกิดประโยชน์การใช้สอยที่คุ้มคา แนะนำให้เลือกไอส์แลนด์ ที่สามารถใช้เป็นที่เก็บของและโต๊ะทานอาหารได้ในตัว รวมถึงเป็นไอส์แลนด์ที่ติดตั้งล้อไว้ใต้เคาน์เตอร์ด้วย จะยิ่งทำให้พื้นที่มีความยืดหยุ่น สามารถปรับการใช้งานให้สอดรับตามความต้องการได้เป็นอย่างดี
เป็นอย่างไรบ้างครับ Kitchen Set ทั้ง 5 รูปแบบ ที่เรานำมาฝากกัน หวังว่าจะช่วยให้เพื่อน ๆ ที่กำลังจะทำครัวในฝันสามารถนำไปประกอบการตัดสินใจกันได้นะ แบบได้ทีใช่ ก็จัดเต็มกันไปเลย…
บทความน่าสนใจ : 5 เก้าอี้สนาม ดีไซน์สวย ควรค่าแก่การนั่งชิล… นอกบ้าน