รีวิวขึ้นภูกระดึง 2 วัน 1 คืน แบบละเอียดยิบ!! ตอนที่ 3 เดินขึ้นภูกระดึง
สำหรับตอนที่ 3 นี้ ก็ได้เวลาที่พวกเราทั้ง 3 ชีวิตนั้น เดินขึ้นภูกระดึง กันแล้วค่ะ ขอบอกก่อนนะคะว่า ผู้ร่วมทริปและตัวผู้เขียนเองนั้นนนน เป็นมือใหม่สำหรับการเดินป่าเลยค่ะ นี่เป็นครั้งแรก และเราแทบไม่เคยออกกำลังกายกันเลยค่ะ
เมื่อฝากสัมภาระเรียบร้อยแล้ว ก่อนเดินขึ้น หากใครมี หนังสือเดินทางอุทยานแห่งชาติ ให้นำประทับตรงจุดอาคาร 3 ก่อนนะคะ 1 ตราประทับ
จากนั้นก็เข้าห้องน้ำตรงจุดก่อนทางเข้า ทำธุระส่วนตัวให้เสร็จ แล้วเราก็มาทำการยืดเส้น ยืดสายกันก่อนขึ้นค่ะ เพื่อป้องกันการเป็นตะคริวระหว่างเดินนะคะ จากนั้นก็ให้ 1 ในกรุ๊ปของเรา นำใบผ่านการตรวจวัคซีน( ใบสีเขียวอ่อน Pass Covid-19 Test) รวบรวมไปให้เจ้าหน้าที่ตรงทางเข้า พร้อมกับบัตรเข้าชมอุทยานที่ซื้อจากเครื่องอัตโนมัติ ไปยื่นให้เจ้าหน้าที่และลงชื่อค่ะ เรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาเดินขึ้นกันแล้วค่ะ
หลังจุดเดินขึ้นนี้ จะมีแผงสำหรับวางไม้ไผ่เอาไว้ เขียนว่า “ผู้ช่วยผู้พิชิต” สำหรับใครที่ไม่มีไม้เท้าเดินป่า แนะนำว่าให้หยิบติดมือไปคนละอันนะคะ รับรองว่าช่วยได้มากจริง ๆ ค่ะ ก่อนทางขึ้นเราจะเจอกับป้ายที่บอกระยะทาง และจุดต่าง ๆ ซึ่งการเดินในครั้งนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงค่ะ จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว(ศรีฐาน) ไปจนถึงหลังแป ระยะทาง 5.5 กิโลเมตร จะเป็นเส้นทางชัน มีทางราบเล็กน้อยค่ะ ช่วงที่หนัก ๆ จะมีอยู่ 2 ช่วง คือ ช่วงแรกก่อนถึงซำแฮก ทางช่วงนี้จะเป็นทางที่ค่อนข้างชัน เป็นดินแดง หินและบันไดซะเยอะค่ะ ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินอย่างมาก เพราะอาจจะลื่นได้
ระยะทางตรงนี้ประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงจุดพักแรกที่ชื่อว่า ซำแฮก ที่จุดพักนี้จะมีร้านค้า ห้องน้ำ และจุดชมวิวสวย ๆ หากใครขึ้นมาตั้งแต่ช่วงเช้า ขอบอกว่ามีโอกาศได้เจอทะเลหมอกกันตั้งแต่จุดนี้เลยค่ะ ซำแฮกนี้ ส่วนมากนักท่องเที่ยวจะแวะกันแทบทุกรายนะคะ เพราะผ่านกันเดินอันหนักหน่วงมาเกือบ 1 กิโลเมตร จุดนี้จะมีทั้งของทานเล่นต่าง ๆ น้ำดื่ม ของใช้ ของฝาก และอาหารค่ะ ว่ากันว่าใครมาภูกระดึงก็ต้องมาทานแตงโมกันนะคะ แตงโมที่ซำแฮกนี้ ราคาชิ้นละ 10 บาทค่ะ ขอบอกว่า ไม่แพงเลยค่ะ แต่ถ้าขึ้นไปสูงกว่านี้จะราคาชิ้นละ 15 บาทนะคะ ราคาแพงขึ้นตามระดับความสูงนั่นเองงง
ผ่านซำแฮกไป ทางเดินก็จะสบายขึ้นหน่อยค่ะ แต่ก็ยังมีความชัน และต้องขึ้นบันไดกันไปเรื่อย ๆ และก็มีจุดพักอีกขายของอีก 5 จุด ที่ ซำกอซาง ซำกกหว้า ซำกกโดนและซำแคร่ ซึ่งเป็นจุดพักจุดสุดท้ายก่อนถึงหลังแปค่ะ แนะนำว่าให้พักตรงจุดนี้ให้เต็มที่นะคะ เพราะหลังซำแคร่ไปจนถึงหลังแปนั้น เป็นช่วงที่โหดที่สุดค่ะ เพราะทางชันมาก ๆ และมีหินที่ต้องปีนป่ายค่อนข้างเยอะ รวมถึงบันไดที่ชันมาก ๆ นั่นเองค่ะ ระยะทางจากซำแคร่ไปจนถึงหลังแป 1.3 กิโลเมตรค่ะ หากใครบอกว่าอีกนิดเดียวจะถึงแล้ว อย่าเพิ่งเชื่อจนกว่าจะได้เห็นบันไดคู่ที่มีความชันประมาณ 75-80 องศานะคะ ถ้าเห็นบันไดนี้เมื่อไหร่ นั่นแหละค่ะ ใกล้ถึงของจริงแน่นอน
ที่หลังแปนั้น เมื่อขึ้นไปถึงก็จะเจอกับป้าย “ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง” ซึ่งก่อนมาเราก็เคยคิดในใจว่า ทำไมใคร ๆ ก็ต้องมาถ่ายป้ายนี้กันนะ เมื่อเราได้มาเองแล้วก็เข้าใจถึงความรู้สึกเลยค่ะ ว่าจะจะมาถึงตรงนี้ได้มันไม่ง่ายเลยจริง ๆ เอ้า ก็ต้องถ่ายกันซักหน่อยเนาะ 5555 รอคิวนิดนึงนะคะ เพราะทุกคนที่ขึ้นมา ก็มารอคิวถ่ายกันหมด จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว(ศรีฐาน) มาจนถึงหลังแป เราใช้เวลาเดินไปทั้งหมดเกือบ 5 ชั่วโมงเลยค่ะ
เมื่อถ่ายรูปกันเรียบร้อยแล้ว ก็ยังไม่จบง่าย ๆ นะคะ เตรียมตัวหยิบเสื้อแขนยาวกันแดด หรือร่มกันแดดขึ้นมาได้เลยค่ะ เพราะเส้นทางจากนี้ไป จะเป็นทางราบตลอด 3.5 กิโลเมตร จากหลังแป ไปจนถึงจุดกางเต็นท์ สองข้างทางจะเป็นต้นสน ซึ่งแทบจะไม่ค่อยมีร่มเงาเลยค่ะ เส้นทางเดินจะเป็นทางดินทรายนะคะ เดินไปได้ซักประมาณไม่ถึง 1 กิโลเมตร ก็จะเจอกับต้นสนเดียวดาย ที่เป็นจุดยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปกันค่ะ เป็นต้นส้นที่ยืนต้นอยู่กลางทางเดินเพียงต้นเดียว
ผ่าน 3.5 กิโลเมตร ในทางราบแล้ว เข้ามาก็จะเจอกับศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และลานกางเต็นท์ค่ะ ให้เข้ามาติดต่อเรื่องที่พักตรงจุดนี้ได้เลยค่ะ จากหลังแปมาที่จุดกางเต็นท์เราใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมงนิด ๆ ค่ะ สำหรับทีมเรานั้น จองเต็นท์อุทยานมาไม่ทันนะคะ ได้แต่จองเครื่องนอนมา ส่วนเต็นท์เราเลือกมาจองของเอกชนค่ะ เราก็ทำการเอาเอกสารที่เจ้าหน้าที่จัดทำให้ในตอนแรก มายื่นค่ะ จากนั้นก็ไปรับชุดเครื่องนอน ก็จะมีแผ่นรองนอน หมอน และถุงนอนค่ะ แล้วก็แบกของ เพื่อไปหาเช่าเต็นท์ของเอกชนกันค่ะ เราสามารถเข้าไปถามที่ร้านอาหารได้เลยนะคะ แทบจะทุกร้าน จะมีเต็นท์และอุปกรณ์ให้เช่า ทางไปจองอุปกรณ์และเต็นท์ของอุทยาน คลิก
วันนี้เราเลือกเช่าเต็นท์ของร้านสุขสันต์ค่ะ ราคาเต็นท์ 250 บาท มีที่รองนอน ผ้าห่ม และหมอนให้ด้วยค่ะ เต็นท์นอนได้ 3 คน เราก็สามารถเลือกที่ที่ต้องการกาง แล้วแจ้งให้ทางร้าน เอาเต็นไปกางให้ได้เลยค่ะ เมื่อกางเต็นท์เก็บสัมภาระเรียบร้อย ก็ขอนั่งพักขา หาข้าวทานกันซักแปป ก่อนจะไปเที่ยวกันต่อในตอนหน้านะคะ
สรุปค่าอาหารตามจุดพักต่าง ๆ โดยประมาณ
แตงโม 10-15 บาท
ไข่ปิ้ง กล้วยปิ้ง มันเผา 10 บาท
มาม่าต้มใส่ไข่ 35 บาท
ผลไม้ดอง 20-30 บาท
น้ำดื่มขวดละ 20-25 บาท
น้ำแข็งแก้วละ 10 บาท
ไอศรีมกระทิ 30 บาท
อาหารตามสั่ง 60-70 บาท
เฉาก๊วย 30 บาท
ส้มตำ 70 บาท
รีวิวขึ้นภูกระดึง 2 วัน 1 คืน แบบละเอียดยิบ!! ตอนที่ 1 ก่อนการเดินทางต้องจองอะไรบ้าง? คลิก
รีวิวขึ้นภูกระดึง 2 วัน 1 คืน แบบละเอียดยิบ!! ตอนที่ 2 เริ่มเดินทาง คลิก