โรงแรม ณ เวลา ที่พักที่เป็นเสน่ห์สไตล์ท้องถิ่นของ จ.ราชบุรี ที่วิถีคนเมืองต้องหลงรัก
สายท่องเที่ยวแนว วัฒนธรรม ชื่นชอบความเป็นธรรมชาติ วิถีชาวเมือง ต้องไม่พลาดที่จะมาพักที่ โรงแรม ณ เวลา จ.ราชบุรี ด้วยคอนเซ็ปต์ของผู้บริหารทั้ง 2 ท่าน ที่มีประสบการณ์ในการทำงานเอเจนซี่โฆษณาระดับโลกมาทั้งคู่ ที่ได้ไปเห็นเมืองหลวงในต่างประเทศ จึงอยากกลับมาเปลี่ยนแปลงบ้านเกิดราชบุรี เพราะมีความหลงไหลในเสน่ห์ของวิถีชีวิตคนต่างจังหวัด ความเป็นท้องถิ่น ชื่นชอบสไตล์ Urban & Suburb, Exotic Thai & Modern จึงเกิดไอเดียการผสมผสานวิถีชาวบ้าน และชีวิตคนเมืองเข้าด้วยกัน
สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญของยุคปัจจุบันที่ต้องการความ Slow Life ในบางช่วงเวลา
แต่ไม่ใช่แค่เพียงเวลาท่องเที่ยว หรือเวลาพักผ่อนเท่านั้น เวลาทำงาน หรือประชุมเราก็สามารถมีช่วงเวลาดี ๆ แบบนี้ได้ พื้นที่สีเขียวของท้องทุ่ง ดอกไม้ใบหญ้า ความสบายแบบไทยจะช่วยสร้างความสดชื่นรื่นรมย์ให้กับผู้คนในยามเคร่งเครียด ใช้ความคิด ต้องการไอเดียใหม่ ๆ จึงเป็นที่มาของไอเดีย “Stay Green, Eat Clean” ณ เวลา ตอบโจทย์ทุกข้อให้คุณ เพราะบริหารมามากกว่าที่พัก ด้วยมาตรฐานโรงแรมระดับคุณภาพ ที่ใส่ใจทุกรายละเอียด
วันนี้เราจะพามาชมบรรยากาศดี ๆ ของโรง ณ เวลา ไม่ว่าจะเป็นห้องพัก หรือพื้นที่สีเขียวรอบบริเวณ รวมถึงห้องอาหารคุณภาพ ที่เน้นเรื่องสุขภาพของผู้มาพักเป็นหลัก
ห้องพัก
สำหรับห้องพักของ ณ เวลา จะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 Type ดังนี้
ห้อง Superior Room
ห้อง Superior with Balcony
และห้อง Suite with Balcony
ซึ่งห้องทั้ง 3 แบบมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายไม่ว่าจะเป็น
พื้นที่ทำงานในห้องส่วนตัว
วิวสวย ๆ กรีน ๆ
Free Wifi
Free กาแฟสดจากร้าน มะลิ คาเฟ่ แอนด์ คูซิน ที่เป็นร้านกาแฟภายในโรงแรม
บริการ Room Service
บอกเลยว่าเหมาะที่จะมาทำงานไปด้วย และพักผ่อนชิล ๆ ไปด้วยเป็นอย่างมาก เดี๋ยวมาดูบรรยากาศในห้องพักกันดีกว่าค่ะ จะมีพื้นที่ใช้ทำงาน และใช้ชีวิตส่วนตัวได้เด็ดดวงขนาดไหน
เตียงนอน
ห้องในภาพจะเป็นห้องแบบ Suite with Balcony เป็นห้องพักขนาดใหญ่ มีระเบียงหลังห้อง และวิวทุ่งนาเขียวขจี ภายในห้องจะมีเตียงขนาด King Size 1 เตียง และเตียงเล็ก 1 เตียง ซึ่งการตกแต่งด้วยไม้ที่มีลวดลายตามแบบของวิถีคนราชบุรี ตัดกับกำแพงสีขาวได้อย่างลงตัวมาก เราชอบมุมเตียงเล็กมาก ตรงแนวยาวของเตียงจะปิดด้วยผ้าม่านโปร่งแสงบาง ๆ ทำให้ดูน่านอน และกันสายตาจากการเดินผ่านของคนที่มาพักด้วย แถมเตียงที่มีความนุ่มสบาย เน้นการพักผ่อนอย่างมีประสิทธิภาพจริง ๆ ค่ะ
มุมโต๊ะทำงาน
ฝั่งตรงข้ามของเตียงนั้น ก็จะมีมุมโต๊ะทำงาน และชั้นลอยใต้ทีวีสำหรับวางของ และนั่งทำงานได้ เพื่อตอบโจทย์สายคนเมืองที่อยากจะมาพักผ่อน แต่ก็ยังทิ้งเรื่องงาน หรือการประชุมไม่ได้ เหมาะมาก ๆ เลยค่ะ ถือว่าเข้าใจวิถีชีวิตของคนในปัจจุบันได้ดีมาก ๆ ส่วนลวดลายของผนังนั้นก็เป็นการตีลายตามวิถีท้องถิ่น ซึ่งยังคงคอนเซ็ปต์วิถีพื้นบ้านไว้อยู่ ทำให้รู้สึกได้บรรยากาศแบบมาพักต่างจังหวัดจริง ๆ
อ่างล้างหน้า ล้างมือ
ส่วนที่จะดูแปลกตาก็เห็นจะเป็นมุมอ่างล้างหน้า ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเห็นโรงแรมไหนทำแยกออกมาจากโซนห้องน้ำแบบนี้เลยค่ะ ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะจริง ๆ แล้วเวลาที่เราล้างหน้าเราก็มักจะชอบอยู่โซนแห้งกัน แต่แยกออกมาแบบนี้ก็ทำให้คนอื่นที่มาพักด้วยได้ใช้พื้นที่ในห้องน้ำได้ในระหว่างที่เรากำลังล้างมือ หรือเช็ดเครื่องสำอาง ล้างหน้า แปรงฟันต่าง ๆ ถือว่าใส่ใจทุกรายละเอียดได้เป็นอย่างดีค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้อง
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องก็มีมาให้ครบครันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นกาน้ำร้อน ชา กาแฟ น้ำดื่ม และผ้าสำหรับใช้เช็ดล้างมือ ล้างหน้า รวมถึงไดร์เป่าผม และจัดเซตมาได้แบบน่ารักมาก ๆ ดูสะอาด และหยิบใช้สะดวก ข้อดีของการแยกโซนง่าย ๆ แบบนี้ทำให้หยิบจับ วางของสะดวก และใช้งานถนัดมือดีมากเลยค่ะ
นอกจากนี้แล้วก็ยังมีมุมราวแขวน ที่มีชุดคลุม ตู้เซฟ และรองเท้าลำลองสำหรับใส่เดินในห้องให้ด้วย หลังจากแขวนผ้าอะไรเรียบร้อยแล้วก็จะมีม่านทึบรูดปิดไว้ ไม่ให้ห้องดูรก เหมาะมากสำหรับสาว ๆ ที่มีอุปกรณ์ และเครื่องประดับต่าง ๆ มากมาย 555+ เป็นโซนที่อยู่ติดกับประตูทางเข้าพอดี ทำให้เวลาเปลี่ยนชุด หรือหยิบจับ ถอดเครื่องประดับก็สามารถยืนตรงนี้เปลี่ยนตรงนี้ได้ก่อนเดินเข้าออกจากห้องพัก
ห้องน้ำ
สำหรับภายในห้องน้ำ ก็จะแยกโซนแบบชัดเจนมาก ไม่ว่าจะเป็นตรงอ่างอาบน้ำ ห้อง Shower หรือห้องสุขา ทุกห้องจะมีประตูปิดแยกโซนอีกทีทำให้สามารถแยกเข้าได้ระหว่างการอาบน้ำ หรือทำธุระส่วนตัวค่ะ ถ้ามาพักแบบครอบครัวถือว่าสะดวกมาก ๆ ไม่ต้องแย่งกันเลย ชอบตรงนี้แหละ
Balcony
และแน่นอนว่าห้อง Suite with Balcony ก็จะต้องมีระเบียงมาให้ สำหรับห้องนี้ดูเหมือนจะเป็นมินิระเบียง แต่ว่าระเบียงไม่มินินะคะ ข้างนอกสามารถนั่งจิบชา กาแฟ ชมวิวทุ่งนาอันเขียวขจีได้ ที่นั่งเหมือนเปลชายหาด นั่งรับลมสบายมาก และมีโต๊ะอาหารอยู่หลังระเบียง เวลาสั่งอาหารมาทานที่ห้องก็สามารถนั่งทานด้านนอกได้ ก็ตัดปัญหากลิ่นอาหารรบกวนคนภายในห้อง หรือถ้าอยากเปลี่ยนมุมทำงานก็สามารถย้ายออกมานั่งทำงานที่โต๊ะหลังระเบียงได้เลย ชิลดีไปอีกแบบค่ะ
จะเห็นว่าห้องพักขนาดใหญ่นี้ เหมาะมากหากจะมากันแบบครอบครัว หรือถ้าหากมาพักคนเดียวก็บอกเลยว่า ส่วนตัวแบบสุด ๆ บรรยากาศดีมาก ๆ ตรงตามคอนเซ็ปต์ที่ทางผู้บริหารโรงแรม ณ เวลา ออกแบบมาเลยค่ะ ตรงปกมากเด้อ และที่นี่ยังมีบริการแบบ Long Stay สำหรับช่วง Work From Home ด้วยนะคะ ใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศก็สามารถติดต่อที่ โรงแรม ณ เวลา ได้เลย
วิว และบรรยากาศภายในโรงแรม
อย่างที่ได้แจ้งไปข้างต้นว่า โรงแรมแห่งนี้ จะมีพื้นที่สีเขียว เพื่อให้คนที่มาพักรู้สึกสดชื่นรื่นรมย์ ก็จะมีบริเวณสวนที่ปกคลุมไปด้วยหญ้าสีเขียวทั่วทั้งสวน มีมุมให้ถ่ายภาพบรรยากาศสวย ๆ มากมาย มีบริเวณลานกิจกรรมต่าง ๆ ให้ไปถ่ายภาพชื่นชมวิถีพื้นเมืองของคนราชรี เก๋มากพูดเลยค่ะ เราได้เห็นมุมมองวิถีท้องถิ่นที่หลายคนอาจจะไม่เคยได้สัมผัส ถือว่าคุมคอนเซ็ปต์ได้ดีเลยทีเดียว
ยิ่งเวลาเดินเก็บภาพ ยิ่งรู้สึกหลงรักที่นี่มากขึ้น นอกจากสวนสีเขียวขจีของใบหญ้าแล้ว ที่นี่ยังมีแปลงผักออแกนิคที่ทางโรงแรมปลูกเอง และนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหารปลอดสารพิษให้กับคนที่มาพักในโรงแรมนี้ให้ทานอาหารคุณภาพ ปลอดสาร อีกด้วยค่ะ บอกเลยว่าแนวคิดของผู้บริหารนั้นครอบคลุมทุกส่วนจริง ๆ แม้แต่รายละเอียดเล็กน้อยแบบนี้ยังใส่ใจได้ดีเยี่ยมมาก
สระว่ายน้ำ และ Pool Bar
ฝั่งด้านล่างของห้องพักที่อยู่ติดกับสวน ก็จะเป็นโซนสระว่ายน้ำ และมี Pool Bar ด้วยค่ะ สระขนาดใหญ่ มีแยกโซนสำหรับเด็ก และมีโซนที่เป็นที่นั่งสปา ซึ่งใครที่ไม่ชอบลงสระ แต่อยากพาเด็ก ๆ มาเล่นน้ำ ก็มีที่ให้นั่งพักสบาย ๆ ด้านข้างสระด้วยค่ะ จะมานอนอาบแดดยังได้เลย ชิลมาก หรือใครที่อยากสั่งเครื่องดื่มคลายร้อน ด้านท้ายสระก็จะมีบาร์ให้สั่งเครื่องดื่มได้ค่ะ ถ้ามองลงมาจากบนห้องพักที่ฝั่งด้านหน้า จะเห็นบรรยากาศแบบสระว่ายน้ำริมสวนอันเขียวขจี สวยมาก ๆ เลย ใครชอบนั่งแบบในร่มก็ย้ายฝั่งมานั่งใต้อาคารที่พักได้ ถือว่าดีงามมาก
ห้องอาหาร ครัวทอข้าว
อีกโซนนึงที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย นั่นก็คือห้องอาหาร ครัวทอข้าว ที่เป็นห้องอาหารที่สร้างบรรยากาศในแบบวิถีท้องถิ่น มีกลิ่นอายของความเป็น Urban โดยแท้ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 โซน คือโซนแอร์ด้านใน และโซนนั่งรับลมชิล ๆ ด้านหน้าห้องอาหาร ครัวทอข้าวถือเป็น Signature ของที่นี่อีกที่หนึ่งค่ะ ที่อยากให้ทุกคนได้มาสัมผัส ด้านหน้าของห้องอาหาร ครัวทอข้าว จะมองเห็นสวนสีเขียว และความสดใสของต้นไม้ล้อมรอบ มีสะพานข้ามที่มีสระบัวเล็ก ๆ เห็นแล้วรู้สึกสดชื่น สบายตา ทำให้อารมณ์สดใสขึ้นมาทันทีเลยค่ะ
สำหรับเมนูอาหารเช้าของที่นี่ก็มีตั้งแต่เมนูทานง่าย อย่างปาท่องโก๋ ขนมปัง เนย แยมที่มีให้เลือกหลากหลาย ชา กาแฟ นมร้อน น้ำส้มต่าง ๆ มากมายเลยล่ะค่ะ ใครที่ชอบทานเมนูง่าย ๆ ยามเช้าคือเหมาะมากเลย กะปุ๊กกะปิ๊ก น่ารักไปหมด เห็นแล้วเราว่าดูดีไม่แพ้โรงแรมหรู ๆ เลยนะคะ บางที่ไม่มีเมนูบ้าน ๆ แบบนี้ให้ด้วย ที่นี่ตอบโจทย์เรามาก เก๋กู๊ดสุด ๆ
นอกจากเมนูเบา ๆ ที่นี่ก็ยังมีเมนูสำหรับใครที่ต้องทานเยอะ ๆ เผื่อคนที่ต้องนั่งทำงานใช้สมองเป็นเวลานาน ๆ ซึ่งจะบอกว่าเมนูที่นี่หลากหลายมากเลยค่ะ ที่สำคัญมาก ๆ คือทุกเมนูอาหารของที่นี่ไม่ใส่ผงชูรสนะคะ เหมาะสำหรับสายคลีน และใครที่ต้องการทานอาหารที่มีคุณภาพคือแนะนำเลยค่ะ และอย่างที่บอกคืออย่างสลัด ผักบางชนิดก็ได้มาจากแปลงผักที่ทางโรงแรมปลูกเอง ปลอดสารพิษแบบมั่นใจได้เลย และอาหารที่นี่ดูดี ดูสะอาด น่าท่านทุกอย่าง บอกเลยว่าเรานี่ลองเองทุกเมนู ดีทุกเมนูเลยล่ะค่ะ
เมนูอาลาคาร์ต
ใครที่ไม่ชอบทานอาหารเช้า หรือไม่ทันอาหารช่วงเช้านั้น ตั้งแต่เวลา 11.00น. ทางโรงแรมก็จะมีอาหารเป็นแบบ อาลาคาร์ต ด้วยนะคะ ซึ่งบอกเลยว่าเมนูทุกเมนูเป็นแบบพรีเมี่ยม จากเชฟยอดฝีมือ กับเมนู Signautre มากมาย ซึ่งแต่ละเมนูนั้นจะเน้นเป็นแบบเพื่อสุขภาพ ไม่ใส่ผงชูรส มีทั้งเมนูท้องถิ่น เมนูแปลกใหม่ที่มีเฉพาะที่นี่ที่เดียวเท่านั้น บอกเลยว่าแค่เห็นก็น่าทานแล้ว พอได้ลองทานนี่โอ้โห รสชาติดี อร่อย ละมุนลิ้นไปหมด แทบจะไม่วางช้อนเลยล่ะค่ะ คือ ดีมาก ๆ
พูดได้เลยว่าโรงแรมนี้ไม่ธรรมดา สมคำร่ำลือมากจริง ๆ ค่ะ ใครจะไปเที่ยว หรือหาที่พักผ่อนที่จังหวัดราชบุรี (ไม่ไกลกรุงเทพฯ ด้วย) หนีเมืองกรุง หนีความวุ่นวาย มาใช้ชีวิตแบบ Slow Life ต้องมาที่นี่เลย ชอบในความที่ทุกอย่างดึงอัตลักษณ์ความเป็นวิถีท้องถิ่นออกมาได้ชัดเจน และเด่นชัดมาก
สำหรับคนต่างจังหวัดแล้ว ทำให้นึกถึงบ้านเกิดเลย โรงแรมดีขนาดนี้ไม่ต้องพูดถึงเรื่องบริการเลยค่ะ บริการดีมาก ทุกระดับประทับใจ ยิ้มแย้มแจ่มใสตั้งแต่คุณแม่บ้านเลยล่ะค่ะ ได้มาพักแล้ว ถือว่าแฮปปี้สุด ๆ อยากให้ทุกคนได้มาสัมผัสบรรยากาศแบบเรา แล้วจะเข้าใจว่าทำไมเราถึงหลงรักที่นี่ได้มากขนาดนี้ อย่าลืมตามไปดู เมนู Signature ของทางโรงแรมกันด้วยนะคะ
นอกจากห้องพักสวย ๆ และพื้นที่สีเขียวบริเวณรอบโรงแรมแล้ว ที่นี่ยังมีคาเฟ่น่ารัก ๆ ชื่อว่า มะลิ คาเฟ่ (Mali Cafe & Cuisine) ให้มานั่งพักเติมพลังกันด้วยนะคะ ซึ่งภายในมะลิ คาเฟ่ มีพื้นที่กว้าง จัดโต๊ะแบบรักษาระยะห่างได้ดีมาก มีทั้งโซนแอร์ และโซน Outdoor ให้ถ่ายภาพสวย ๆ ส่วนเมนูเครื่องดื่ม และอาหาร ก็มีให้เลือกหลากหลายเมนูเลยล่ะค่ะ มะลิ คาเฟ่ เปิดทุกวัน เวลา 07.00 – 18.00น. ใครที่ไม่ได้มาพักที่นี่ ก็สามารถแวะนั่งพักกาย พักใจ เช็คอิน ที่ มะลิ คาเฟ่กันได้ บอกเลยว่าบรรยากาศดีมาก หากใครมาเที่ยวที่ราชบุรี ยังไงก็อย่าลืมแวะมาพัก หรือแวะมามะลิ คาเฟ่ ที่ โรงแรม ณ เวลา กันนะคะ มาลองสัมผัสบรรยากาศแบบท้องถิ่นชาวราชรี แล้วคุณจะรู้สึกหลงรักที่นี่แบบเราแน่นอน
ติดต่อสอบถาม
โรงแรม ณ เวลา ราชบุรี อยู่ติดถนนบายพาสราชบุรี
โทร: 032-206599
Facebook: Navelahotel
Facebook: Mali Cafe & Cuisine